สื่อนอกรายงานเหตุม็อบต้านนิรโทษ

สื่อนอกรายงานเหตุม็อบต้านนิรโทษ

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานบรรยากาศการเมืองไทยเมื่อวานนี้

 8 ส.ค. 56  สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานบรรยากาศการเมืองในประเทศไทย ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ว่า ส.ส.ได้มีการอภิปรายกันเรื่อง พรบ.นิรโทษกรรม ขณะที่ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลได้เรียกร้องให้ฉีก พรบ.ฉบับนี้ เนื่องจากจะช่วยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับบ้านอย่างลอยนวล


 แม้ว่าจะเกิดความวิตกว่า ความรุนแรงที่ทำลายการเมืองไทย นับตั้งแต่ปี 2549 จะย้อนกลับมาอีก

แต่การประท้วงภายใต้การนำของพรรคฝ่ายค้าน ที่ส่วนใหญ่ดำเนินไปอย่างสันติ และผู้ประท้วงที่มีอยู่ราว 2,500 คน ต่างทำตามคำขอร้องของแกนนำ ที่ให้สลายตัวไป หลังจากตำรวจไม่ยอมให้พวกเขาผ่านด่านเข้าสู่บริเวณอาคารรัฐสภา


รอยเตอร์ส ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกกองทัพโค่นอำนาจ เมื่อปี 2549

และถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด แต่เขาได้หนีออกนอกประเทศ ก่อนถูกตัดสินจำคุก 2 ปี น้องสาวของเขา คือ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ขณะที่นักวิจารณ์ ระบุว่า รัฐบาลของเธอต้องการหาทางที่จะล้างผิดให้กับเขา เพื่อให้เขาเดินทางกลับบ้านโดยไม่ต้องติดคุก


รอยเตอร์ส ระบุด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตมหาเศรษฐีด้านโทรคมนาคมสื่อสาร ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนยากจนในเมืองและชนบท และนำพรรคของเขาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง 2 ครั้ง ก่อนถูกโค่นอำนาจ แต่ขณะเดียวกันก็ถูกระบุว่า เป็นผู้นำเผด็จการและคอร์รัปชั่น


รอยเตอร์ส ได้รายงานที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ด้วยว่า มีตำรวจประมาณ 4,800 คน ถูกส่งไปรับมือกับการประท้วงในสัปดาห์นี้

และได้มีการประกาศใช้ พรบ.ความมั่นคงฯ เพื่อให้สามารถออกมาตรการคุมเข้มต่างๆ เช่น ห้ามการชุมนุมใกล้รัฐสภาฯ
นักวิเคราะห์ตลาดงิน ต่างกลัวว่าจะมีโอกาสกลับไปเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีข่าวลือเรื่องรัฐประหาร ทำให้ชาวต่างชาติพากันเทขายหุ้นก่อนหน้านี้ ก่อนจะกระเตื้องขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์


รอยเตอร์ส ระบุว่า พรบ.นิรโทษกรรมที่เสนอโดย ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย

และรัฐบาลสนับสนุนจะช่วยล้างผิดให้กับคนที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดไปแล้ว หรือถูกตั้งข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการประท้วงในระหว่างเกิดคลื่นความรุนแรงทางการเมือง นับตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา และแม้พรบ.จะไม่นิรโทษกรรมให้กับแกนนำหรือคนสั่งการ แต่ฝ่ายที่คัดค้านก็โต้ว่า อาจถูกเปลี่ยนแปลงให้บรรลุผลหลังผ่านความเห็นชอบจากสภาฯแล้ว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์