สำรวจภาวะผู้นำหญิง ปีงูเล็กแต่ปัญหาไม่เล็ก

สำรวจภาวะผู้นำหญิง ปีงูเล็กแต่ปัญหาไม่เล็ก


ผ่าน 1 ปี 5 เดือนกับการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 

ถูกตีตราและพะยี่ห้อมาตั้งแต่ต้นว่า "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ" การพิสูจน์ฝีมือบนเก้าอี้นายกฯหญิงคนแรกของประเทศไทย จึงไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกไม้อย่างแน่นอน

หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในเดือนส.ค.2554 ยังไม่ทันเดินหน้าทำงานฝ่ายตรงข้ามก็หยิบยกประเด็นที่คิดว่าเป็นจุดอ่อนขึ้นมาโจมตี กล่าวหาเป็นนายกฯนอมินี ร่างทรง หุ่นเชิด ของพี่ชายที่อยู่แดนไกล

ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ โฟกัสไปที่การทำงานเป็นหลัก เพราะรับรู้ดีว่าการเข้ามารับหน้าที่สำคัญในฐานะผู้นำประเทศ ในช่วงความขัดแย้งแตกแยกของคนในสังคมยังร้าวลึก

การสร้างความปรองดองของคนในชาติเป็นเรื่องสำคัญเพราะส่งผลต่อความเชื่อมั่นทั้งในและนอกประเทศ 

ก้าวแรกของน.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงเริ่มด้วยการประกาศว่าจะใช้ความเป็นผู้หญิง เข้ามาประสานแก้ปัญหาและหาทางออกให้กับประเทศชาติ

ตลอดช่วงเวลา 1 ปีเศษ น.ส.ยิ่งลักษณ์ใช้คุณลักษณะของความเป็นผู้หญิง เข้ามาบริหารจัด การกับปัญหาในหลายๆ เรื่อง 

อย่างวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อปลายปี 2554 บททดสอบสุดหินชนิดที่อดีตนายกรัฐมนตรีคนอื่นๆ ยังไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน

แต่สุดท้ายน.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกฯ มือใหม่เอาตัวรอดมาได้ 

บททดสอบนำพาประเทศฝ่าวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ครั้งนั้น นักการเมืองอาวุโสอย่างอดีตนายกฯ บรรหาร ศิลปอาชา ยังเอ่ยปากชม นายกฯหญิงทั้งเก่ง ทั้งสวย ผู้ชายอกสามศอกยังสู้ไม่ได้ 

หนึ่งในตัวช่วยสำคัญของนายกฯหญิงคือบุคลิกอ่อนน้อม ยอมรับฟัง ให้เกียรติผู้หลักผู้ใหญ่ กลายเป็นจุดแข็งแตกต่างกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร

ถือเป็นความโดดเด่นของน.ส. ยิ่งลักษณ์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการบริหารประเทศในช่วงวิกฤต หรือยามที่บ้านเมืองจำเป็นต้องระดมสรรพกำลัง

เห็นได้จากการทาบทามบุคคลระดับผู้ใหญ่ของบ้านเมือง อย่าง ดร.วีรพงษ์ รามางกูร และ ดร. สุเมธ ตันติเวชกุล เข้ามาช่วยฟื้นฟูประเทศหลังวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ 

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยพร้อมหน้ากับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. 

ที่เซอร์ไพรส์หลังน้ำท่วมคือการที่รัฐบาลเชิญ "ป๋าเปรม"พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มาเป็นประธานในงานเลี้ยงของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือศปภ. 

นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังเดินสายพบปะทำกิจกรรมร่วมกับผู้นำเหล่าทัพ ช่วยให้บรรยากาศเขม็งเกลียวระหว่างกองทัพกับพรรคเพื่อไทยที่มีมายาวนานหลังพ.ต.ท.ทักษิณถูกยึดอำนาจ คลายตัวลงอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากบุคลิกอ่อนน้อม ประนีประนอม พรรคเพื่อไทยยังใช้ยุทธศาสตร์การกันผู้นำหญิงออกห่างจากการเมือง 

ยิ่งส่งให้ภาวะผู้นำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ โดดเด่นขึ้นเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับกลยุทธ์ตอดเล็กตอดน้อย นำเรื่องหยุมหยิมมาเล่นเป็นเรื่องใหญ่ของพรรคฝ่ายตรงข้าม

ในบรรยากาศที่คนเบื่อหน่ายวาทกรรมทางการเมืองเต็มทน ผู้นำรัฐบาลที่เอาการเอางาน ย่อมเป็นที่ประทับใจกว่าผู้นำที่ดีแต่พูด หรือถนัดแต่การเล่นเกมการเมืองรายวัน

คอยตำหนิแต่เรื่องเสื้อผ้าหน้าผม สาดโคลนเรื่องชู้สาว อย่างกรณี ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ จนสุดท้ายคนที่หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาขยายความกลับเป็นฝ่ายเสียหายเอง

ถึงแม้จะโดนหาเรื่องอย่างหนักในเรื่องส่วนตัว แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ไม่ตอบโต้ อย่างมากก็ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่าให้ดูที่การทำงานดีกว่า ทำให้พวกคอการเมือง ซาดิสต์ต่างผิดหวังไปตามๆ กัน

การปรับครม. เป็นอีกปัจจัยวัดภาวะผู้นำ น.ส.ยิ่งลักษณ์อีกทางหนึ่ง

"ยิ่งลักษณ์ 2" ได้รับการโปรดเกล้าฯ เมื่อวันที่ 18 ม.ค.2555 เป็นการปรับขนาดกลาง 16 คน 17 ตำแหน่ง มีรัฐมนตรี หน้าใหม่ 10 คน 1 ในนั้นคือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเสื้อแดงที่ได้ขึ้นชั้นเสนาบดีนั่งเก้าอี้รมช.เกษตรฯ 

ครั้งนั้นความเห็นของน.ส.ยิ่งลักษณ์และพ.ต.ท.ทักษิณเป็นไปในทางเดียวกัน เพราะจุดประสงค์การปรับครม.เพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์รัฐบาลหลังน้ำท่วมและให้ตำแหน่งกับแกนนำเสื้อแดง

แต่สำหรับการปรับครม."ยิ่งลักษณ์ 3" ซึ่งโปรดเกล้าฯ ลงมาเมื่อวันที่ 27 ต.ค.2555 เป็นการปรับใหญ่ 24 ตำแหน่ง มีรัฐมนตรีหน้าใหม่ 14 คน ที่น่าสนใจคือกลับไม่มีชื่อของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นั่งเก้าอี้รัฐมนตรี 

การปรับครม.ยิ่งลักษณ์ 3 ทิ้งช่วงจากยิ่งลักษณ์ 2 นานถึง 9 เดือนเศษ

พ.ต.ท.ทักษิณเร่งให้ปรับ แต่น.ส. ยิ่งลักษณ์เห็นว่างานฟื้นฟูหลังน้ำลดและการบริหารงานด้านต่างๆ กำลังไปได้ดี สะท้อนผ่านผลโพลที่ให้โอกาสรัฐบาลทำงานต่อ อีกทั้งไม่ต้องการให้เกิดแรงกระเพื่อมในพรรคก่อนเวลาอันควร

ความเห็นไม่ตรงกันของพี่ชายกับน้องสาวในการปรับครม. สะท้อน ความเป็นตัวของตัวเองของน.ส. ยิ่งลักษณ์ สวนทางกับข้อกล่าวหา "นายกฯกดปุ่ม" ได้อย่างดี

ขณะเดียวกันก็มีความพยายามตีความไปในแง่ที่ว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์เริ่มปีกกล้าขาแข็ง ไม่ค่อยอยู่ในโอวาทของพี่ชายเหมือนตอนแรกๆ

ผู้นำหญิงยังมีลักษณะเด่นที่เป็นเสมือนใบเบิกทางอย่างดีในการเจรจาความกับผู้นำต่างประเทศและบนเวทีโลก

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าผลงานด้านการต่างประเทศของรัฐบาลนี้ที่เดินหน้าไปได้ด้วยดี ส่วนหนึ่งเพราะมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิง 

เพราะผู้นำหญิงจะได้เปรียบกว่าผู้นำผู้ชายในเรื่องของการเจรจาพูดคุยกับผู้นำประเทศต่างๆ เพราะอ่อนโยน แต่คล่องแคล่ว ผู้นำบางประเทศจึงมาพบแล้วพบอีก นายกฯ เลยจับประเด็นได้ต่อเนื่อง 

ในรอบปีที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางไปเยือนต่างประเทศมาแล้วเกือบ 20 ประเทศทั่วโลก ทั้งสหรัฐ ยุโรป ภูมิภาคเอเชีย อาเซียน และประเทศเพื่อนบ้าน

ที่เป็นข่าวใหญ่ช่วงปลายปี คือการมาเยือนไทยของผู้นำชาติมหาอำนาจอย่าง ประธานาธิบดีบารัก โอบามา แห่งสหรัฐ และนายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน เป็นการมาเยือนในช่วงที่ไทยอยู่ระหว่างการเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

บรรยากาศการเยือนไทยของ 2 ผู้นำโลกเป็นไปอย่างชื่นมื่น ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม สร้างความตาร้อนให้กับการเมืองฝ่ายตรงข้ามพอสมควร 

นอกจากนี้ความเห็นของผู้นำระดับโลกรวมถึง ออง ซาน ซู จี ผู้นำสันติภาพในพม่า ต่างชื่นชมไทยที่ได้นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งและสนับสนุนประชาธิปไตย 

หากย้อนดูเส้นทางการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกฯ ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ 

เทียบผลสำรวจจากโพลหลายสำนักจะพบว่า เมื่อครั้งประกาศตัวลงสนามการเมือง ความนิยมของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังเป็นรองนายอภิสิทธิ์ อยู่หลายช่วงตัว

แต่ยิ่งใกล้ถึงวันเลือกตั้ง คะแนนความนิยมก็กระเตื้องขึ้นเป็นลำดับ อาศัยเวลาเพียง 49 วันก็ทำคะแนนแซงชนะคู่แข่งถล่มทลายไปในที่สุด

ช่วงต้นรัฐบาลคะแนนตกวูบจากปัญหาวิกฤตน้ำท่วม แต่หลังจากนั้นเมื่อรัฐบาลบริหารประเทศข้ามผ่านปีแรก ก้าวเข้าสู่ปีที่สอง 

คะแนนนิยมส่วนตัวของน.ส. ยิ่งลักษณ์ก็ดีวันดีคืน ต่างจากรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลหลายคนที่อยู่ในเกณฑ์สอบตก ทั้งยังทิ้งห่างคะแนนผู้นำฝ่ายค้านออกไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่มีการสำรวจ 

ข้อสังเกตก็คือปกติคะแนนนิยมและเสียงสนับสนุนในตัวผู้นำประเทศ มักจะหล่นฮวบลงหลังจากการบริหารงานไปได้สักพัก 6 เดือน หรือ 1 ปี

ในกรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์กลับแตกต่าง ออกไป

ปี 2556 หรือปี"งูเล็ก" รัฐบาลยิ่งลักษณ์ยังต้องเผชิญกับปัญหาความขัดแย้งใหญ่ๆ อย่างเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และความแตกแยกในบ้านเมืองที่ยังคาราคาซัง

"ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" จะใช้ความเป็นนายกฯหญิงจัดการแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างไร จะยังสามารถรักษาระดับคะแนนนิยมของตนเองไว้ได้ หรือไม่

เป็นเรื่องน่าติดตามอย่างยิ่ง

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์