สำคัญ! ความในใจ สนธิถึงทักษิณ

ถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร


มีเรื่องต้องพูดให้เกิดความเข้าใจก่อนสามเรื่อง

หนึ่ง เพื่อความอารยะของการใช้ภาษาไทย และเพื่อความเคารพต่อสาธารณชน จะใช้คำว่าผมกับคุณแทนคำว่ามึงกับกู ทั้ง ๆ ที่คำว่ามึงกับกูนั้นยังสุภาพเกินไปสำหรับฝ่ายกู้ชาติจะใช้พูดจากับฝ่ายขายชาติ

สอง ผมจำเป็นต้องเขียนหนังสือนี้ถึงคุณ เพื่อตอบจดหมายสองฉบับที่คุณแกล้งเขียนด้วยลายมือให้ลูกน้องนำออกมาเผยแพร่ ผมรู้ดีว่าไม่มีใครตอบจดหมายคุณหรอก เพราะคนไทยฉลาดพอที่จะเข้าใจได้ว่าเป็นลูกไม้ในการหาเสียงเลือกตั้งเท่านั้น แต่ผมจะมีจดหมายถึงคุณแทนพี่น้องคนไทยที่รักชาติ เพื่อคุณจะได้ทราบในเรื่องที่คนรอบตัวคุณไม่กล้าบอกคุณ

สาม ผมต้องประณามคุณอย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่งว่าคุณไม่มีความรับผิดชอบและไม่มีความสามารถในการรักษาฟื้นฟูความสงบในพื้นที่ภาคใต้ เหตุการณ์ระเบิดที่หาดใหญ่รุนแรงที่สุดในหลายปีมานี้ เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินท่านต้องเสียสละและเสี่ยงภัยลงไปแก้ไขปัญหา ในขณะที่คุณออกไปทำซ่าส์อยู่ในต่างประเทศ

คุณไม่มีความสามารถและไม่รับผิดชอบในการแก้ปัญหาภาคใต้ ทั้งยังโกหกประชาชนว่าได้มอบอำนาจเด็ดขาดให้กับพลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน แล้ว ซึ่งความจริงคุณยังไม่ได้ทำเลย จนบ้านเมืองลุกเป็นไฟและอันตรายรุกคืบขึ้นมาถึงจังหวัดนครศรีธรรมราช รวมทั้งฝั่งทะเลด้านอันดามันแล้ว คุณก็ยังไม่รับผิดชอบ

ผมขอบอกคุณตามตรงว่าประเทศไทยจะต้องเสียดินแดนภาคใต้ถ้าหากคุณยังดื้อรั้นดันทุรังอยู่ในอำนาจแบบนี้ต่อไป


การขยับกำลังของพรรคพวกคุณบางกลุ่ม แต่ไม่สามารถหลุดรอดสายตาทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้โดยเด็ดขาด


เอาหละ เมื่อเข้าใจกันเช่นนี้แล้วผมจะบอกให้คุณทราบเรื่องราวหลายเรื่องซึ่งคุณจะไม่มีวันได้รับรายงานจากลูกน้องของคุณ

เรื่องที่หนึ่ง เป็นข่าวร้ายของคุณและพรรคพวก เพราะศาลอาญาได้ตัดสินคดีอดีตสามกกต.เป็นคดีที่สอง ให้จำคุกคนละ 2 ปี โดยคำพิพากษาฉบับนี้จะมีผลทำให้กกต.ชุดใหม่ต้องดำเนินคดีอาญากับคุณและพรรคพวกของคุณ และมีผลต่อการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในการยุบพรรคของคุณด้วย เพราะถ้ากกต.ชุดใหม่ไม่ทำอะไรกับคุณและพวกอีก พวกเขาก็อาจต้องติดคุกแทนเช่นเดียวกับพวกสามหนาห้าห่วง

ผมเชื่อว่ากิจกรรมแรก ๆ ของกกต.ชุดใหม่คือการดำเนินคดีอาญากับผู้ทำความผิดฐานจ้างพรรคเล็กให้โกงเลือกตั้ง

เรื่องที่สอง ที่พวกคุณออกข่าวว่าคุณจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 22 กันยายน ศกนี้นั้นไม่มีคนเชื่อ เพราะการสั่งการให้การบินไทยจัดเครื่องบินลำใหญ่ที่สุด ใหม่ที่สุดที่สำรองไว้สำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ใช้สอย ให้ไปรับคุณจากลอนดอนไปเม็กซิโก คิวบา และสหรัฐนั้น มีข่าวหลุดออกมาภายนอกว่ามันจะบินกลับมาเมืองไทยในคืนวันที่ 20 กันยายน ศกนี้

ซึ่งสอดคล้องกับการขยับกำลังของพรรคพวกคุณบางกลุ่ม แต่ไม่สามารถหลุดรอดสายตาทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้โดยเด็ดขาด

ใครก็ตามที่คิดว่าจะฉวยโอกาสเข้าถวายอารักขาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและยึดอำนาจเพื่อทำให้อำนาจทรราชสืบทอดต่อไปนั้นไม่มีทางสำเร็จแน่นอน

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงจำเป็นต้องเลื่อนการจัดชุมนุมใหญ่จากวันที่ 22 กันยายน 2549 มาเป็นวันที่ 20 กันยายน 2549 เพื่อถวายความจงรักภักดี และเพื่อไม่ให้มีใครคิดล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ทั้งจะสนับสนุนทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการปกป้องพิทักษ์รักษาประเทศชาติและราชบัลลังก์จนถึงที่สุด

เรื่องที่สาม เป็นข่าวร้ายสำหรับคุณอีกเช่นเดียวกัน เพราะในขณะที่ลิ่วล้อของคุณกำลังหาทางถ่วงเวลาเพิกถอนสัมปทานดาวเทียมไทยคม เพิกถอนสัมปทานสายการบินแอร์เอเชีย และเพิกถอนสัมปทานเอไอเอส เพราะมีการถือหุ้นแทนคนต่างด้าวนั้น

มีเหตุการณ์สองเรื่องที่จะส่งผลให้ทรัพย์สมบัติของชาติทั้งสามเรื่องดังกล่าวได้กลับคืนแผ่นดิน คือ

(ก) คำตัดสินของศาลอาญาในคดีสามหนาห้าห่วงล่าสุดจะเป็นต้วอย่างให้กับการเตะถ่วงไม่ดำเนินการเพิกถอนสัมปทานดังกล่าวด้วย ทำให้นายสมคิด นายปรีชา นายยรรยง และพรรคพวกใกล้ประตูคุกเช่นเดียวกับพวกสามหนาห้าห่วง และจะทำให้ข้าราชการไม่ร่วมมือโกงชาติอีกต่อไป

(ข) จู่ ๆ นายจิมมี่ฟุน กรรมการผู้จัดการอาวุโสด้านการลงทุนของเทมาเส็กได้เปิดห้องประชุมชั้น 7 โรงแรมโฟร์ซีซั่นเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2549 เวลา 21.45 น. และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ตอนหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ในปัญหาการถือหุ้นแทน เขาระบุว่า

เมื่อการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปปิดลง เงินทั้งหมด 73,000 ล้านบาท ได้จ่ายให้กับครอบครัว พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร และไม่มีการจ่ายต่ออีก ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ตั้งแต่ปิดการซื้อขาย เราจ่ายเงินในประเทศไทยให้เต็มทั้งหมด

นี่คือหลักฐานยืนยันจากเทมาเส็กว่าครอบครัวของคุณคือผู้ขายหุ้นที่แท้จริง และเทมาเส็กคือผู้ซื้อที่แท้จริง ไม่ใช่คนไทยหรือบริษัทชื่อไทยที่เป็นแค่นอมินี่เท่านั้น

หลักฐานนี้ชัดเจนยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ผมจึงเชื่อว่าทรัพย์สมบัติของชาติทั้งสามรายการจะถูกคนไทยทวงกลับคืนมาได้อย่างแน่นอน

เรื่องที่สี่ การที่คุณเปรียบเทียบตัวคุณเองกับพลเอกเปรมนั้นหลายคนไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าเปรียบเทียบกันไม่ได้ แต่ผมเห็นด้วยและเห็นด้วยอย่างยิ่ง

เพราะเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงและเห็นได้ชัดเจนที่สุดว่าความแตกต่างระหว่างคนผู้กอบกู้ชาติกับผู้ขายชาตินั้นเป็นอย่างไร ความแตกต่างระหว่างคนดีซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินกับคนชั่วช้าเลวทรามของแผ่นดินที่ถูกสาปแช่งทั้งสิบทิศนั้นเป็นอย่างไร ความแตกต่างระหว่างรัฐบุรุษกับทุรชนนั้นเป็นอย่างไร ความแตกต่างระหว่างผู้มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กับผู้ที่คิดล้มล้างสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เป็นอย่างไร

ที่ผ่านมาคุณมักระบุว่ากรณีเป็นเรื่องความขัดแย้งของคุณกับผม ซึ่งทำให้สังคมไทยเห็นความจริงไม่ชัดเจน แต่เมื่อคุณเอาตัวเองไปเปรียบกับพลเอกเปรมแล้วทุกอย่างก็ชัดเจน

เรื่องที่ห้า คุณบอกว่าต่างประเทศกำลังคิดเอาอย่างประเทศไทย แต่ที่ผมได้ยินมานั้นเขาหัวเราะกันแบบขำกลิ้งและไม่มีใครคิดเอาอย่าง เพราะเขารู้สึกว่าเป็นเรื่องอับอายขายหน้าอย่างยิ่งที่ผู้นำคนหนึ่งต้องไปพึ่งพาหมอดูต่างชาติในการบริหารบ้านเมือง

เขารู้สึกชิงชังรังเกียจผู้นำที่โกงภาษีและละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นอาชญากรฆ่าคน ข่มขู่คุกคามปิดกั้นสื่อมวลชน ที่สำคัญคือไม่มีใครอยากเอาอย่างการฉ้อราษฎร์บังหลวงหรือการขายชาติและการปล้นชาติ ตลอดจนการทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟแบบที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยเลย

ขณะนี้คนไทยรังเกียจเหตุการณ์แบบนี้มาก ผลการทำโพลล่าสุดจึงมีผู้ต้องการให้คุณวางมือถึง 52% นับว่าเป็นสถิติที่สูงที่สุด

ผมอยากจะบอกคุณด้วยว่าที่ลิ่วล้อของคุณพยายามกุข่าวปฏิวัติบ้าง ปลุกกระแสว่าคุณจะเว้นวรรคหรือวางมือทางการเมืองบ้างนั้น ไม่มีใครเชื่อถือเลย คนไทยเชื่อว่าเป็นลูกไม้ตื้นๆ เพื่อลดกระแสการต่อต้านคุณเท่านั้น มันจึงไม่สามารถลดกระแสโค่นล้มระบอบทักษิณได้เลย

คุณควรจะรู้ซึ้งถึงบาปกรรมได้แล้ว และควรตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองบ้าง คุณไปเสียเถิด อย่ากลับมาเมืองไทยอีกเลย อย่าทำให้คนไทยและประเทศไทยต้องวิบัติย่อยยับยิ่งกว่านี้เลย.

สนธิ ลิ้มทองกุล



แหล่งข่าว ผู้จัดการออนไลน์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์