สัญญาณ ปรองดอง จาก แดนไกล สัญญาณ นายใหญ่ เร่งเร้า ระวังอันตราย ปรองดองของผู้ชนะ!

เวทีฉลองสงกรานต์ของ "คนเสื้อแดง" กับ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ "สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว" และ "ประเทศกัมพูชา"

กลายเป็นเวทีปลดปล่อย "พ.ต.ท.ทักษิณ" จากพันธนาการในจิตใจ ที่จองจำ "อดีตนายกรัฐมนตรี" ผู้ถูกรัฐประหาร

การได้พบกับ "มวลชน" ผู้คอยให้การสนับสนุนเรือนแสน ใกล้เคียงกับการได้ "อิสรภาพ" คืนมาอีกครั้ง

แม้จะเป็น "อิสรภาพ" ที่ยังมี "เงื่อนไข" และเป็นไปในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก็ตาม

แต่ถือว่าเป็นสิ่งที่ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ไม่เคยได้สัมผัส ภายหลังตัดสินใจเดินทางออกจากประเทศไทย เมื่อ "1 สิงหาคม 2551" ก่อนที่ "ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง" จะมีคำพิพากษาคดีที่ดินถนนรัชดาภิเษก

นับจนถึงวันนี้ เป็นเวลาเกือบ 4 ปีเต็ม ที่ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ไม่มีโอกาสเหยียบบนผืนแผ่นดินไทย

และเป็นเวลา 4 ปี ที่ "พ.ต.ท.ทักษิณ" หมดโอกาสใกล้ชิดหมู่มวล พี่ น้อง เพื่อน มิตร และคนใกล้ชิด ผู้คอยให้การสนับสนุน

ดังนั้น การเดินทางมาฉลองสงกรานต์ใน "ลาว" และ "กัมพูชา" ครั้งนี้ จึงถือเป็นการเดินทางเข้าใกล้แผ่นดินไทยมากที่สุด ของ "พ.ต.ท.ทักษิณ"

จึงไม่แปลกที่ภาพบรรยากาศสงกรานต์การเมืองครั้งนี้ จะ "เต็มที่" ท่ามกลางการแวดล้อมของ "มวลชนคนเสื้อแดง"

และ "เต็มที่" กับการได้ระบายความรู้สึกคิดถึง ห่วงหา และแสดงออกซึ่งความต้องการ "กลับประเทศไทย" ที่ถือเป็น "ความต้องการ" ลำดับต้นๆ ของ "พ.ต.ท.ทักษิณ"


สัญญาณ ปรองดอง จาก แดนไกล สัญญาณ นายใหญ่ เร่งเร้า ระวังอันตราย ปรองดองของผู้ชนะ!

หากย้อนไปดูคำพูด "กลับเมืองไทย" ของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ตั้งแต่หลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เป็นต้นมา นับว่าการพูดครั้งนี้หนักแน่น ชัดเจน เร่งเร้า และใกล้เคียงความจริงมากกว่าทุกครั้ง

ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะบรรยากาศที่รุกเร้า เมื่อ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ได้มาอยู่ใกล้ชิดกับ "ผู้สนับสนุน" ในพื้นที่ที่ใกล้กับ "ประเทศไทย" เพียงแค่ก้าวเดินข้าม

แต่ส่วนสำคัญ น่าจะเป็นเพราะ "พรรคเพื่อไทย" มีอำนาจเต็มในการถือ "อำนาจรัฐ" และ "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" น้องสาวสุดที่รักได้ขึ้นเป็น "นายกรัฐมนตรี"

ซึ่งนั่นส่งผลต่อความฝันและความหวัง ในการเดินทางกลับประเทศไทย ของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ที่ริบหรี่ลง หลังศาลฎีกาฯ พิพากษาคดีที่ดินรัชดาฯ ให้จำคุก 2 ปี ให้กลับมีแสงสว่างพอที่จะเป็นจริงได้อีกครั้ง

โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ "พรรคเพื่อไทย" ผลักดันการ "แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291" เพื่อเปิดทางให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เปิดโอกาสให้มีการ "ปลดล็อกเงื่อนไข" ที่ถูกมองว่า "ไม่เป็นธรรม" ที่เกิดขึ้นจากการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

ขณะเดียวกัน รายงานของ "คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ (กมธ.ปรองดอง) สภาผู้แทนราษฎร" ที่จะถูกใช้เป็น "โมเดลหลัก" ในการเสนอ "แนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ"

ได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม "รัฐสภา" และ "รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์" ก็ได้นำเข้าสู่การพิจารณาของ "ครม." เรียบร้อยแล้ว

โดยขั้นต่อไปได้มีการมอบหมายให้ "คณะกรรมการประสานงานและติดตามผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.)" ที่มี "นายงยุทธ วิชัยดิษฐ" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน ไปรับฟังความคิดเห็นจากฝ่ายต่างๆ เพื่อดำเนินการต่อตามข้อเสนอ

ทำให้ "เพื่อไทย" มองว่าจะเป็นหนทางในการ "เยียวยา" ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ยึดอำนาจ และนำพาประเทศออกจาก "วิกฤตความขัดแย้ง"

โดยทั้ง "กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ" และ "กระบวนการสร้างความปรองดอง" ที่กำลังเร่งดำเนินการ ส่งผลโดยตรงต่อโอกาสในการเดินทางกลับประเทศไทยของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" อย่างปฏิเสธไม่ได้

ดังนั้น เมื่อ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ใช้เวทีฉลอง "สงกรานต์ต่างแดน" ส่ง "สัญญาณ" ว่าต้องการกลับประเทศไทยอย่างเร่งด่วน

"กระบวนการปรองดอง" ที่กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม ในมือ "ปคอป." จึงถูกเร่งเร้าจาก "พรรคเพื่อไทย" เพื่อให้เกิดความเป็นรูปธรรม

ไม่ว่าจะเป็น "รัฐมนตรี" ในรัฐบาล แกนนำพรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง หรือแม้แต่คนใกล้ชิด "พ.ต.ท.ทักษิณ" ต่างยืนยันกระบวนการไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด

โดยอธิบายหลักการและขั้นตอนการผลักดัน เข้าสู่การพิจารณาของสภาอย่างเป็นระบบ!

มีการพูดถึงการตระเตรียมการเพื่อนำไปสู่การเจรจากับฝ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น "ฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" หรือแม้แต่ "กองทัพ" ผ่านการ "พูดคุยเชิงเสวนา" หลากหลายรูปแบบ

แม้ตอนหลัง "แกนนำเพื่อไทย" จะกลับลำอธิบายว่า "กระบวนการปรองดอง" ที่จะเกิดขึ้นนั้น จะมอบหมายให้ "บุคคลอื่น" ที่ไม่ใช่ "พรรคเพื่อไทย" หรือ "รัฐบาล" เป็นผู้ดำเนินการ

เนื่องจากเกรงกับข้อครหาว่า "รัฐบาลน้องสาว" ช่วย "พี่ชาย"!

แต่เมื่อ "เส้นทางปรองดอง" ถูกสังคมจดจำว่าเริ่มต้นกระบวนการ "บุคคลภายในรัฐบาล" และ "พรรคเพื่อไทย"

ย่อมไม่แปลกที่ฝ่ายต่างๆ จะจับจ้องมองว่า เป็นเพราะ "อิทธิพล" จากเวทีฉลองสงกรานต์เสื้อแดงของ "พ.ต.ท.ทักษิณ"

โดยเฉพาะเมื่อสถานะวันนี้ "พรรคเพื่อไทย" คือเสียงข้างมากใน "สภาผู้แทนราษฎร" และ "รัฐบาล" ยึดกุมเสียงข้างมากใน "รัฐสภา"

จึงต้องคำนึงเสมอว่า "การปรองดอง" นั้นจะต้องอาศัยความเห็นร่วมกันของคนทั้งประเทศ ไม่เพียงเฉพาะ "ฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน" หรือ "ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสภา" เท่านั้น


สถานการณ์ "ความขัดแย้ง" ที่เกาะกินประเทศไทยมายาวนาน จนถึงวันนี้ เรียกได้ว่า ลึกและหลากหลาย มากกว่าแค่ "บุคคลระดับนำ" ใน "รัฐสภา" จะมาแก้ปัญหาเพียงกลุ่มเดียว

ดังนั้น "การปรองดอง" ที่กำลังจะเริ่มต้น จึงไม่ควรถูกทำให้รู้สึกว่าเป็นไปตามความต้องการของเสียงข้างมากฝ่ายเดียว

จนกลายเป็นเพียง "การปรองดองของผู้ชนะ"!

เหมือนที่ "พ.ต.ท.ทักษิณ" รู้สึกฮึกเหิม เมื่ออยู่ท่ามกลางแวดล้อมไปด้วยคนเสื้อแดง ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา

เพราะนั่น อ่อนไหวต่อความไว้วางใจ จากเสียงข้างน้อย ฝ่ายอื่นๆ

ที่สำคัญคืออาจจะถูกหยิบจับมาใช้เป็นเงื่อนไขในการต่อต้านอีกครั้ง

ซึ่งบทเรียนในอดีต "รัฐบาลพรรคไทยรักไทย" ที่มีเสียงในสภาผู้แทนราษฎรถึง "377 เสียง" เคย ล้ม-พัง ง่ายๆ มาแล้ว!!!

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์