สรุป 10 ข่าวเด่นการเมือง

ภาพจาก เดลินิวส์ภาพจาก เดลินิวส์


1.เด้งฟ้าผ่าปลัด-ปลดยศ “มาร์ค”

สายทหารดังที่สุดคือ การปลดยศ “ว่าที่ ร.ต.” ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชา ธิปัตย์ ออกจากราช การและเรียกคืนเบี้ยหวัดเงินบำนาญ เนื่องจากใช้เอกสารไม่ชอบด้วยกฎหมายในการเข้าเป็นทหาร โดย “บิ๊กโอ๋” รมว.กลาโหม ยืนยันจะทำให้เร็วที่สุด แม้เรื่องยังคาราคาซังอยู่ในศาลปกครองและการย้ายด่วน พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เพราะนำเรื่องภายในองค์กรไปเปิดเผยถือเป็นครั้งแรกที่มี “เด้งฟ้าผ่าปลัดกระทรวง”

2.ม็อบพยาบาลบุกทำเนียบ 2 ครั้ง

ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเมื่อ เครือข่ายพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราว กระทรวงสาธารณ สุข (สธ.) ก่อม็อบใหญ่หน้าทำเนียบ 2 ครั้ง คือวันที่ 19 มิ.ย. และวันที่ 16 ต.ค. ขอบรรจุพยาบาล 1.7 หมื่นคน เป็นข้าราชการทั้งหมดและขู่หยุดงาน 3 วันหลังปีใหม่ หากไม่มีคำตอบ ร้อนถึงนายกฯ ให้ส่งตัวแทนเข้าพบ พร้อมรับปากนำเรื่องเข้า ครม. วันที่ 11 ธ.ค. จนที่สุด ครม. ก็อนุมัติตำแหน่งข้าราชการกว่า 2 หมื่นอัตรา ให้ สธ.บรรจุลูกจ้างชั่วคราว 21 วิชาชีพ ซึ่งมีพยาบาลรวมอยู่ด้วย ตั้งแต่ปี 56-58 ก็เลยจบแบบแฮปปี้ เอนดิ้ง

3.“รื้อ-ทุบ”รีสอร์ทรุกทับลาน

ข่าวสิ่งแวด ล้อมดังสุดต้อง นายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ 5,000นาย รื้อถอนรีสอร์ท-บ้านพักตากอากาศ 8 แห่ง ที่บุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี รอยต่อคืนวันที่ 27-28 ก.ค. 55 ทำให้นายดำรงค์ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพราะไม่ฟังเสียงจากฝ่ายการเมืองที่ขอให้ยุติการรื้อถอน ก่อนคณะกรรมการฯ จะสรุปว่าการดำเนินการของนายดำรงค์เป็นไปตามคำสั่งศาล จนเกือบถูกเด้งจากอธิบดีก่อนเกษียณเพียง 2 เดือน

4.ค่าแรง300บ.ระเบิดเวลาลูกใหม่

เป็นเสมือน ระเบิดเวลาลูกใหญ่ กับการขึ้นค่าจ้าง 300 บาททั่วประเทศวันที่ 1 ม.ค. 56 แต่ค่าครองชีพก็ขึ้นตามเป็นเงาตามตัว นายจ้างแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น คนงานอาจกลายเป็น “ผู้ตกงาน” แม้จะมีเงื่อนไขเอาใจนายจ้างว่าหลังขึ้นค่าแรงปี 56 จะไม่มีการขึ้นค่าจ้างอีกใน 2 ปีข้างหน้า แต่ในทางปฏิบัติทำได้ยาก ตรงนี้จะเป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้ง เพราะไม่ว่ารัฐบาลจะทำอย่างไรก็เจ็บตัวทั้งขึ้นและล่อง  จึงต้องติดตามว่ามาตรการเยียวยาที่จะช่วยนายจ้าง ทั้งลดเงินสมทบประกันสังคมและการลดภาษี จะต่อลมหายใจนายจ้างไปได้สักกี่น้ำ

5.ศาลรธน.แช่แข็งแก้รธน.50

โดดเด่นที่สุดขององค์กรอิสระต้องยกให้ ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 ของพรรคร่วมรัฐบาลต้อง หยุดชะงัก จากการตัดสิน วันศุกร์ที่ 13 ก.ค. เพราะศาลเห็นว่าการจะมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาร่างรัฐธรรมนูญเท่ากับว่าเป็นการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ควรต้องถามประชาชนก่อนว่าเห็นด้วยหรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญปี 50 ผ่านกระบวนการประชามติมาแล้ว ล่าสุดมติ ครม. วันที่ 18 ธ.ค. ได้ตั้ง คณะทำงานศึกษาแนวทางการประชามติก่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 165 ก่อนกลับนำเข้ามาสู่ที่ประชุม ครม. อีกครั้ง ถือเป็นเรื่องร้อน ๆ ที่ห้ามกะพริบตา

6.ผีอัลไพน์หลอกตกเก้าอี้ “มท.1”

กลายเป็นรัฐมนตรีตกสวรรค์ทันที นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ จำใจลาออกจาก “มท.1-หัวหน้าพรรคเพื่อไทย-ส.ส. บัญชีรายชื่อ” จาก ที่ดินอัลไพน์ ของนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา จะฟื้นคืนชีพ พ่นพิษหลังเกิดมากว่า 40 ปี แม้ทางอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) มีมติลงโทษวินัยย้อนหลัง “ปลดออก” ช่วงที่รับตำแหน่ง ปลัด มท. ปี 45 และยังได้มี พ.ร.บ.ล้างมลทิน ปี 50 ที่ออกมาทั้งอุ้ม ทั้งยื้อมติของ ป.ป.ช. สุดท้ายก็ไม่อาจทนกระแสได้ เพราะฝ่ายค้านจ้องเล่นงานถึงขั้นยุบพรรค

7.พาสปอร์ตเพื่อนาย-ใบสั่ง “ดูไบ”
   
โดดเด่นที่สุด “สู้เพื่อนาย” ของ “เสี่ยปึ้ง” สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.การต่างประเทศ กับความพยายามในการคืนหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จนถูก ส.ส.ฝ่ายค้าน ป.ป.ช. ถอดถอนออกจากตำแหน่งถึง 2 ครั้ง ทั้งการช่วยให้ได้วีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น และการคืนพาสปอร์ตประเภทบุคคลธรรมดา จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม แต่ผลงานเข้าตา “นายใหญ่” จนได้รับการปูนบำเหน็จ รองนายกฯ เพิ่มอีกตำแหน่ง

8.“ม็อบแช่แข็ง” เหล้าเก่าในขวดใหม่

มาไวไปไวสำหรับม็อบ สนามม้านางเลิ้ง ของ “เสธ.อ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์
การพิทักษ์สยาม (อพส.) ขับไล่รัฐบาลภายใต้ 3 เงื่อนไข “ปล่อยให้มีการจาบจ้วงสถาบัน- เป็นหุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี-ปล่อยให้มีการทุจริตคอร์รัปชั่น” นัดชุมนุมใหญ่แช่แข็งประเทศไทยวันที่ 24 พ.ย. ลานพระบรมรูปทรงม้า ยังไม่ทันเริ่มก็เจอต้อนรับด้วยแก๊สน้ำตา ไปเต็ม ๆ จนสุดท้าย “เสธ.อ้าย” ประกาศยุติการชุมนุมและลาตายจากการเมืองไปแล้ว ตรงนี้ถือเป็นแค่จุดเริ่มต้นที่รอวันปะทุรอบใหม่ของมวลชนฝั่งตรงข้าม “ทักษิณ”

9.ภารกิจสุดลับว.5 โฟร์ซีซันส์
     
วลีฮิตติดปากช่วงต้นปี 55 “ว.5 โฟร์ซีซันส์” เมื่อ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจขั้วตรงข้ามถูกทำร้ายร่างกาย ที่เจ้าตัวเชื่อสาเหตุเกิดจากไปพบนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คนดังกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ไม่เข้าประชุมสภา และแจ้ง ว.5 ขอปฏิบัติภารกิจลับ แต่ไปปรากฏตัวที่ รร.โฟร์ซีซันส์ กลายประเด็นร้อนเมื่อฝ่ายค้านไปร้องเรียน “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ว่าอาจเข้าข่ายผิดจริยธรรม ใช้เวลาราชการเจรจาผลประโยชน์ทับซ้อน แม้คำชี้แจงยังคลุมเครือแต่ให้ยกคำร้องไม่พบผิดจริยธรรม ด้าน “นายกฯ ปู” ก็เอาคืนฟ้องร้องฐานหมิ่นประมาทให้เสื่อมเสียทันที

10.ดัน กม.ปรองดอง- ชำเรา รธน. 50

สภาผู้แทนราษฎรคงหนีไม่พ้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 ของพรรคร่วมรัฐบาล จนผ่านการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมกันของรัฐสภา เตรียมโหวตวาระ 3 แต่ต้องหยุดชะงักลงเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ารัฐสภาไม่มีอำนาจที่จะแก้รัฐธรรมนูญได้ทั้งฉบับ ล่าสุด ครม. ยอมถอยเตรียมทำประชามติก่อน รวมไปถึงความวุ่นวายในการพิจารณา ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการปรองดองแห่งชาติ พ.ศ. ... จนนำมาสู่การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เตรียมเข้าสู่การพิจารณาของสภา วาระ 2-3 เพียงแค่เสนอเลื่อนระเบียบวาระขึ้นมาก็ถูก ส.ส.ฝ่ายค้าน ตีรวนชุลมุน ทั้งตะโกนด่า ผลักอก ปาแฟ้ม ลากเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร จึงถือเป็นเหตุการณ์อัปยศแห่งปีของสภาไทยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์