สมัครท้าปชป. ไม่ไว้วางใจ

กรณีที่ฝ่ายค้านยื่นเรื่องขอให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 เปิดการประชุมร่วมสองสภาเพื่อให้มีการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมตินั้น ปรากฏว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาปฏิเสธข้อเรียกร้องของฝ่ายค้าน โดยระบุว่าในการประชุมสมัยวิสามัญควรพิจารณาแค่เรื่องงบประมาณและกฎหมายสำคัญ นอกจากนี้รัฐบาลเพิ่งบริหารงานได้ 4 เดือน ยังไม่ได้ทำอะไรผิดถึงขั้นที่ฝ่ายค้านจะต้องคาดคั้นเอาให้ตาย  สมัครซื้อของตลาดวโรรส เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 14 มิ.ย. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากโรงแรมเดอะเชดีย์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ไปที่ตลาดวโรรสเพื่อซื้อแคบหมู น้ำพริกหนุ่ม เป็นของฝากคนในครอบครัว พร้อมแวะชิมอาหารตามร้านต่างๆ อาทิ ปาท่องโก๋ ไส้อั่ว ขนมจีนน้ำเงี้ยว กวยจั๊บ และวิจารณ์รสชาติอาหารอย่างเป็นกันเอง จากนั้นก็แวะไปจ่ายตลาดที่ตลาดต้นลำไย ก่อนจะเดินทางไปที่โรงแรมแชงกรีล่า เชียงใหม่ เพื่อร่วมประชุมส่งเสริมการท่องเที่ยวปีแห่งการท่องเที่ยวไทย 2551-2552 ที่จัดโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ท่ามกลางตำรวจทหารคอยอารักขาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด จนกระทั่งเวลา 17.00 น. นายสมัครนำคณะไปลงเรือล่องแม่น้ำปิง พร้อมรับประทานอาหารเย็นบนเรือ เป็นการดูสถานที่ท่องเที่ยวและชมทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำไปในตัว ลั่น 4 เดือน ไม่ได้ทำอะไรผิด นายสมัครให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นเรื่องขอให้เปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 ว่า เมื่อตอนที่ ส.ว.ส่วนหนึ่งและฝ่ายค้านต้องการจะยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ เราก็บอกว่าไม่มี ปัญหา ได้พูดกับประธานสภาผู้แทนราษฎรว่าให้บรรจุไป ตามระเบียบ แต่ข้อเท็จจริงคือรัฐบาลได้พิจารณาดูด้วยเหตุผลแล้วเห็นว่า ตามที่มีพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญขึ้นมา การประชุมสมัยนี้จะจบสิ้นด้วยการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 เราก็บอกว่าเราไม่ได้ขัดข้องอะไรหรอก แต่เพิ่งทำงานมา 4 เดือน ไม่ได้คิดว่ามีความผิดอะไรนักหนา ถ้าไปชี้แจงอะไรต่ออะไรก็จะถูกตีน่วมบอบช้ำ แล้วยิ่งไป เจอการอภิปรายงบประมาณอีก 3 วัน ยิ่งช้ำชอกใหญ่ ประชาชน ควรจะได้รับประโยชน์จากการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณในทุกมาตรา รายละเอียดมีเท่าไหร่ควักไส้กันออกมาหมด อย่างนั้นก็พอเพียงสำหรับการเปิดสภาสมัยวิสามัญ ไล่ฝ่ายค้านยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ นายสมัครกล่าวว่า ตอนที่เราคิดเปิดประชุมสมัยวิสามัญ เหตุผลก็เพื่อพิจารณางบประมาณ และพิจารณากฎหมายสำคัญที่ต้องทำให้เสร็จภายใน 180 วันตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เมื่อคำนวณแล้วก็ต้องดำเนินการ และช่วงท้ายวันที่ 25-27 มิ.ย. จะพิจารณางบประมาณแล้วปิดการประชุมสมัยวิสามัญเลย ถ้าจะไปตอดกันตรงนี้ก็ไม่ว่า ประธานสภาฯถามมาก็บอกว่าไม่มีปัญหา ให้เรียงแถวไปเลย แต่เมื่อมาดูข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่าเวลามันชนกันพอดี แล้วอย่างนี้จะให้ทำอย่างไร ปัญหาคือพรรคฝ่ายค้าน ก็บอกเองว่าให้เราพิจารณาว่าจะเปิดหรือไม่ เราก็พิจารณาแล้วว่าเพิ่งทำงานมา 4 เดือน มีอะไรนักหนาถึงต้องมาแก้ ผ้าให้เขาดูก่อน ตนก็ต้องชี้แจงเอง แล้วถ้าเขาไม่พอใจเขาจะยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ยื่นได้ เมื่อถึงเวลาก็ทำได้ แต่ว่าทำไมถึงต้องคาดคั้นเอาเป็นเอาตายกันใน 3 วันนี้ คุยโวไม่กลัวไม่หนี ต่อข้อถามว่า พรรคฝ่ายค้านมองว่ารัฐบาลกลัว จึงปิดกั้นการตรวจสอบปกปิดข้อเท็จจริง นายสมัครตอบว่า ไม่ได้กลัว ไม่มีอะไรน่ากลัว แต่ถามว่า มันน่าเบื่อหน่ายหรือไม่จะมาล่อกัน เสร็จแล้วก็ยังมีอภิปรายงบประมาณอีก 3 วัน ยืนยันได้เลยว่า รัฐบาลไม่เกรงกลัวการตรวจสอบ ไม่ได้หนี แต่ขอให้ย้อนไปดูเนื้อหาในการขอออกพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อจะได้พิจารณางบประมาณและกฎหมายสำคัญๆ สำคัญที่สุดคือรัฐบาลต้องยึดมั่นไปตามระบบรัฐสภา รัฐบาลไม่ได้หนีไปไหนยังอยู่ตรงนี้ มีวาระ 4 ปี ฝ่ายค้านอยากจะอภิปรายเมื่อไหร่ก็ทำได้เมื่อเวลาเหมาะสม แต่ตอนนี้ต้องเร่งพิจารณาเรื่องงบประมาณออกมาก่อน แขวะปชป.-ส.ว.รีบร้อนอะไรนักหนา ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า นายกฯมีอำนาจที่จะขอขยายระยะเวลาการประชุมสมัยวิสามัญได้ หรือจะขอเปิดวิสามัญอีกครั้งก็ทำได้ นายสมัครตอบว่า ก็ต้องย้อนถามกลับไปว่า ถ้าเป็นพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลแล้วมี ส.ส.อยากพูดจาว่ากล่าวกันอย่างนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะทำหรือไม่ เมื่อถามว่า ส.ว. 61 คน ที่เข้าชื่อยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 161 และขอให้รัฐบาลเปิดอภิปรายชี้แจงในวันที่ 23 มิ.ย. รัฐบาลจะตอบเรื่องนี้อย่างไร นายสมัครตอบว่า ก็เป็นในสภาพเดียวกัน เพราะมันติดขัดเงื่อนไขเรื่องเวลา เมื่อถามว่า หากรัฐบาลไม่ยอมชี้แจงจะถือว่าเข้าข่ายไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายกฯตอบว่า ส.ว.ยื่นมา ประธานวุฒิสภาก็ตรวจสอบ และประธานสภาฯแจ้งเรามา เราก็ต้องตอบไปภายใน 15 วัน แต่ถ้าครบ 15 วัน แล้วสภาปิดจะทำอย่างไร ให้ย้อนไปดูประวัติศาสตร์การประชุมว่าในการประชุมสภาสมัยวิสามัญเคยมีหรือไม่ที่ต้องมาคาดคั้นอะไรกันนักหนา ต้องถามว่า ส.ว.มีวาระตั้ง 4 ปี ทำไมถึงต้องรีบร้อนอะไรกันนักหนา ตอกกลับกลัวไม่ได้ฟาดฟันรัฐบาล เมื่อถามว่า ในทางการเมืองมองว่า การยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไปของพรรคประชาธิปัตย์กับกลุ่ม 61 ส.ว.มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่อย่างไร นายสมัครตอบว่า ขอให้ไปดูเลยว่า หัวโจกคนที่ยื่นญัตติของ 61 ส.ว.ที่ชื่อนายคำนูญ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา เป็นใครมายังไง ทำไมถึงรีบร้อนกันนัก กลัวจะไม่ได้ฟาดฟันกันหรืออย่างไร ผู้สื่อข่าวถามว่า ทาง ส.ว.อ้างว่าปัจจุบันบ้านเมืองมีปัญหามากมาย เป็นปัญหาเร่งด่วนจนรอไม่ได้ นายสมัครกล่าวว่า ทั่วโลกก็เป็นแบบนี้ ทุกประเทศกำลังประสบกับปัญหาราคาน้ำมันแพง รัฐบาลก็กำลังพยายามเร่งมือแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ และไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์หรือใครเข้ามาเป็นรัฐบาล เข้ามาบริหารก็เป็นแบบนี้ ให้เสียงข้างมากตัดสินแก้ รธน. ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่า นายกฯระบุในที่ประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่าจะไม่มีการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว นายสมัครตอบว่า ไม่ใช่ไม่ให้ทำประชามติ ตนบอกว่าระหว่างการประชุมสภาสมัยวิสามัญ ทางสภาก็จะมีการพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ 2550 เพื่อการแก้ไขเพิ่มเติม ถ้าคณะกรรมาธิการฯ ศึกษากันมาแล้วมีมติว่าให้แก้ ก็อาจไม่ต้องใช้ตรงนั้น ไม่ได้บอกว่าให้เลิกทำประชามติ แต่ถ้ากฎหมายประชามติมีออกมาไว้ แล้วยังมีฝ่ายใดไม่ยอมฟังเสียงส่วนใหญ่ของสภา ก็จะมีกฎหมายมารองรับ จะใช้กฎหมายประชามติเอามาฟัดกันเลย มันมีขั้นตอนอยู่ จะแก้หรือไม่แก้รัฐธรรมนูญก็อยู่ที่สภา ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการของสภา ถ้าเขายืนยันว่าต้องแก้ก็ต้องดำเนินการไป ผมและรัฐบาลยืนยันว่าเรายึดมั่นในระบบรัฐสภา ให้เสียงข้างมากตามระบบรัฐสภาตัดสินไป รัฐบาลไม่ได้ไปกดดันหรือไปบีบคั้นว่าต้องแก้รัฐธรรมนูญ และการพิจารณากฎหมายการทำประชามติก็ปล่อยไปตามธรรมชาติ ไม่ได้เร่งร้อนอะไร ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลเข้าใจกันหมด ไม่มีปัญหาอะไร ปชป.ไล่บี้ขอเปิดอภิปรายทั่วไป ขณะที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขอเรียกร้องนายกฯให้เปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอเพื่อเป็นช่องทางในการแก้ปัญหา เพราะมาตรานี้เปิดโอกาสให้ ส.ส.และ ส.ว.ได้เสนอข้อคิดเห็นอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ จะก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อสังคม และคลี่คลายวิกฤติที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน พรรคเชื่อว่าจะเป็นช่องทางช่วยให้ปัญหาทางการเมืองและวิกฤติเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น และทำให้ ประชาชนมั่นใจในระบบรัฐสภาไทยจะเป็นที่พึ่งของประชาชนได้  อัดรัฐบาลเล่นลิ้นดิ้นหนี ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลอ้างว่าเวลาการประชุมสมัยวิสามัญไม่พอต่อการอภิปรายทั่วไป นายองอาจตอบว่า เป็นการเล่นลิ้นดิ้นไม่ให้เวทีรัฐสภาเป็นเวทีในการแก้ปัญหาให้ประชาชน ถือว่าเป็นการปิดกั้นโอกาสของรัฐบาลและประชาชน เพราะพรรคเชื่อว่ายังมีเวลาพอ อยู่ที่การบริหารจัดการเวลา ซึ่งไม่จำเป็นต้องประชุมสภาเพียงวันพุธและวันพฤหัสบดีเท่านั้น ส่วนที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่าไม่มีประเพณีปฏิบัติว่าการประชุมสภาสมัยวิสามัญจะมีการเปิดอภิปรายทั่วไปนั้น ขอว่ารัฐบาลอย่ามาอ้างเรื่องประเพณี และควรแหวกม่านประเพณีเพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพราะบ้านเมืองมีปัญหามากมาย  อภิสิทธิ์นัดแกนนำกำหนดท่าที โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ส่วนที่มีผู้เสนอให้พรรคประชาธิปัตย์ใช้ช่องทางในการพิจารณางบประมาณเพื่ออภิปรายเสนอแนะติติงรัฐบาลไปเลยนั้น การพิจารณางบประมาณต่างจากการอภิปรายทั่วไป ไม่อย่างนั้นรัฐธรรมนูญคงตราไว้ในมาตราเดียวกัน ส่วนที่พรรคไม่ใช้ช่องทางอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น เนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่สามารถเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหาได้ แต่จะให้พูดเพียงกรอบการทำงานของรัฐบาลที่บกพร่อง ขัดกฎหมาย ส่อไปในทางทุจริตเท่านั้น ทั้งนี้หลังจากที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี พูดในรายการสนทนาประสาสมัครแล้ว ในเวลา 14.00 น. วันที่ 15 มิ.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเรียกประชุมแกนนำพรรคเพื่อกำหนดท่าทีต่อไป ทรงศักดิ์ยันเช่ารถเมล์โปร่งใส 

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ ในรายการ คุยนอกทำเนียบทางสถานีวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ระบุมีคนในรัฐบาลได้รับประโยชน์ 6,000 ล้านบาท จากโครงการเช่ารถเมล์ ปรับอากาศ เพื่อให้บริการประชาชนจำนวน 6,000 คันของ ขสมก. ว่า ไม่ทราบว่าคิดได้อย่างไร คนที่คิดอาจเคยทำมาก่อน โดยรถจำนวน 6,000 คัน จะเป็นรถเช่าวิ่งที่ผู้ให้เช่าต้องลงทุนหลายอย่าง คือ ต้องมีรถวิ่งให้บริการวันละ 6,000 คัน ทำอู่ ทำลานจอดรถ สร้างระบบเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ ซึ่งเป็นเงินลงทุนจำนวนมาก แต่จะได้รายได้ จากการจัดเก็บเป็นรายวัน เมื่อรถวิ่งให้บริการแล้ว เปรียบเทียบได้กับคนขับรถเบนซ์แล้วมาเก็บเหรียญสลึง ไม่รู้ว่าจะเอาเงินพันล้านบาทมาให้ตรงไหน ยังคิดไม่ออก คนที่พูดอาจมีความรู้เรื่องนี้ แต่ตนไม่มี ยืนยันการประมูลโครงการเป็นไปอย่างโปร่งใสแน่นอน ทั้งนี้จะนำโครงการเสนอขอความเห็นชอบต่อ ครม.ในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ หลังจากที่ ครม.เห็นชอบในหลักการแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์