สมชาย-เปล่าสั่ง จับ จำลอง ขณะออกไปใช้สิทธิ

เมื่อเวลา 16.00 น. ที่หมู่บ้านเบเวอร์ลี่ฮิลส์ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม

ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ตำรวจควบคุมตัว พล.ต. จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีหรือคนในรัฐบาลว่า คงจะเห็นแล้วใช่หรือไม่ว่าอันนี้มีหมายศาลมาตั้งนาน หลายเดือนมาแล้ว ก่อนตนเป็นนายกฯเสียอีก ต้องคิดว่าเป็นส่วนของกระบวนการยุติธรรม ทางตำรวจไปตั้งข้อหา ศาลอนุมัติหมายจับก็ว่ากันไปนั่นคือกระบวนการ “ผมคิดว่าใครไปแทรกแซง ไปสั่งไม่ได้หรอก แม้แต่ตำรวจเวลาจับแล้วก็มาสอบสวน เราก็สั่งว่าให้เป็นอย่างนั้น สั่งไม่ได้ครับ กฎหมายเขาเขียนไว้แน่นอน ถ้าขืนไปทำตามคำสั่งอะไรของใครอะไรเนี่ย ถือว่าการสอบสวนไม่ชอบ” นายสมชายกล่าว  
ยังเดินหน้าเปิดเจรจาพันธมิตรฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางเจรจาของรัฐบาลกับพันธมิตรฯจะดีขึ้นหรือไม่หลังเกิดเหตุการณ์แบบนี้ นาย สมชายตอบว่า จะดีไม่ดีก็อยู่ที่คนไปเจรจา มันต้องแยกจากกัน

อันนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ว่า มันเป็นการที่เจ้าหน้าที่เขาปฏิบัติตามกฎหมาย จะเห็นว่าท่านออกไปแล้ว ถ้าเจ้าหน้าที่เขาถือหมายไปพบตัวเขาก็ต้องดำเนินการ เพราะถ้าตำรวจไม่ดำเนินการก็ถือว่าละเว้นปฏิบัติหน้าที่เหมือนกัน อันนี้กฎหมายเขากำกับอยู่ เมื่อถามย้ำว่าแล้วจะ เจรจากันได้หรือไม่ นายกฯตอบว่า ก็ได้ ถ้าเจรจาทำไมจะไม่ได้ มันเรื่องธรรมดา 

เมื่อถามว่า มองหรือไม่ว่าเรื่องนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังยังไงกับการที่ พล.ต.จำลองออกมาให้จับกุม นายสมชายตอบว่า ก็ต้องไปถามท่าน (พล.ต.จำลอง)

เมื่อถามว่า ในส่วนของคนเจรจาเองอย่าง พล.ท.พิรัช สวามิวัศดุ์ นายทหารคนสนิทของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายในการเจรจากับพันธมิตรฯก็งง เพราะกำลังคุยอยู่แล้วจู่ๆก็ไปจับแกนนำ ท่านเลยประกาศยุติการเจรจาไปแล้ว นายสมชายตอบว่า ก็ที่บอกไปว่าหลักการอยู่ที่ว่า มันมีหมายจับอยู่ แล้วฟังตามข่าวท่าน (พล.ต.จำลอง) ก็เป็นสุภาพบุรุษ ท่านไม่ได้ขัดขืนอะไร ท่านก็เคารพหมายจับของศาลที่ออกให้ เมื่อถามย้ำว่า คนก็ยังมองว่า พล.ต.จำลองมีอะไรหรือไม่ที่ยอมออกมาให้จับตัว นายสมชายตอบว่า ไม่ทราบว่ามีอะไรหรือเปล่า แต่ว่าเหตุการณ์ก็เป็นไปตามเนื้อผ้าที่เห็นๆอยู่ “ก็ง่ายๆคือผมก็บอกว่า ผมขึ้นมาเป็นผู้บริหารตรงนี้ก็เคารพกฎหมาย เคารพกระบวนการยุติธรรม มันก็เป็นไปตามนั้นนะ มันไม่มีอะไรตื้นลึกหนาบางอะไรสำหรับความรู้สึกของผมนะครับ” นายกฯกล่าว

เมื่อถามว่า ต่อจากนี้พันธมิตรฯจะลุกฮือขึ้นมาอีกหลังจากจับแกนนำไปแล้ว นายกรัฐมนตรีตอบว่า ไม่ทราบ คือมันเป็นเหตุเป็นผล มันไม่ใช่ว่าไม่มีใครแกล้งใครได้เรื่องอย่างนี้

เมื่อถามว่า ในหลักการของรัฐบาลเองจะคงใช้การเจรจาใช่หรือไม่ นายสมชายตอบว่า ถูกต้อง เพราะมันต้องแยกคนละเรื่อง อันนั้นมันเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม เป็นเรื่องที่ศาลท่านออกหมายมา เจ้าหน้าที่ก็ปฏิบัติตามนั้น ต้องแยก เรื่องจับตัวไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล เป็นการที่ปฏิบัติตามกฎหมายและตามหมายของศาล รัฐบาลเกี่ยวไม่ได้เลย 

เมื่อถามว่า แนวทางสมานฉันท์ของรัฐบาลจะมีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับ 9 แกนนำหรือไม่ในอนาคตต่อไป นายสมชายตอบว่า มันคงไปถึงขั้นนั้นไม่ได้
ความว่าสมานฉันท์เราทำเป็นภาพรวมทั้งประเทศ ต้องการให้คนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่คนที่เฉพาะมาชุมนุมให้อยู่ในความรู้สึกว่าเราต้องปรองดองสมานฉันท์กัน เพื่อให้บ้านเมืองได้พัฒนาเดินทางไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองทั่วกัน พี่น้องประชาชน ชาวไร่ชาวนา ชาวอะไรต่ออะไรรักสามัคคีกัน ทำมาหากินให้มันสงบเรียบร้อย ไม่ใช่ว่าการสมานฉันท์มาทำเฉพาะของ 2-3 คน นี่คือเป็นภาพรวมรัฐบาลมองอย่างนั้น ใครที่คิดว่า ถ้าหากว่าช่วยเหลือให้บ้านเมืองมันสงบสุขได้ และอยู่กันได้อย่างสงบสบายมันก็เป็นผลดีในส่วนรวม เมื่อถามย้ำว่าต้องปรับการเจรจาและจะกระทบกับการเจรจาหรือไม่ นายกฯตอบว่า อันนี้ต้องไปถาม พล.อ.ชวลิต เพราะท่านเป็นผู้ดำเนินการเอง

เมื่อถามว่า หลังจากตำรวจจับ พล.ต.จำลองแล้วได้คุยกับ พล.อ.ชวลิตหรือยัง นายสมชายพยายามเลี่ยงตอบคำถาม โดยกล่าวว่า ก็คุยในหลักการไปแล้ว แล้วก็ท่านเป็นผู้ใหญ่ ท่านมีวิธีการของท่าน คือคุยกันปกติ แต่เราไม่คุยเรื่องการจับกุม เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการ