สภาโหวตประชุมวันพุธ บ่ายโมงถึงสามทุ่ม, พฤหัสฯ สิบโมงถึงหกโมงเย็น


เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 17 ส.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาเรื่องที่ค้างการพิจารณามาจากคราวที่แล้ว  กำหนดวัน และเวลาการประชุมสภาผู้แทนราษฎร

ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระแค่เริ่มประชุมได้เกิดความวุ่นวายเล็กน้อย เมื่อมีการปะทะคารมกันระหว่าง ส.ส.หญิง คือ นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กับ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สุมทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีการพูดพาดพิงถึงการทำหน้าที่ ส.ส.ที่ทำให้สภาล่มซ้ำซาก แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 จากนั้นเริ่มดำเนินการประชุมต่อโดยนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่เคยเสนอญัตติให้เริ่มประชุมวันพุธ เวลา 13.30 น. วันพฤหัสบดี เวลา 10.00 น.นั้นตนขอถอนญัตติออก จากนั้นนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ได้เสนอญัตติให้เริ่มประชุมวันพุธเวลา 13.00-21.00 น. และวันพฤหัสบดี เวลา 10.00-18.00 น. โดยให้เหตุผลว่าที่กำหนดเวลาปิดประชุมด้วย เพื่อให้ส.ส.ที่เป็นตัวแทนประชาชนได้ทำงาน แสดงให้เห็นว่าทำงานไม่น้อยกว่าภาคราชการ

 "เหตุที่ต้องประชุม 13.00 น. เพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ให้การประชุมมีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนวันพฤหัสบดีที่เริ่ม 10.00 น. เพื่อให้การทำหน้าที่ของส.ส. 7 วันที่มีอยู่ ต้องทำทั้งในและนอกสภา การทำงานในบทบาทกรรมาธิการอาจเป็นวันอังคารและวันศุกร์ด้วย และเราก็เปิดประชุมสภาในเวลา 13.00 น. มาตลอด เพิ่งมาเปลี่ยนเวลาเอาสมัยรัฐบาลที่แล้ว ปัญหาทุกคนก็รู้กันอยู่ นั่งประชุมกรรมาธิการอยู่ก็ต้องลุกมาลงคะแนน ความไม่สอดคล้องกันตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพ และเรามีพ.ร.บ.คำสั่งเรียกบังคับใช้แล้ว หากเรียกเจ้าหน้าที่เขามาแล้ว ประชุมไม่ได้อาจจะย้อนกลับทำให้ถูกฟ้องเองได้ ดังนั้นการเรียกประชุมเหลื่อมเวลาแบบนี้ จะทำให้การทำงานเต็มประสิทธิภาพขึ้น" นพ.ชลน่าน กล่าว

ขณะที่นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ยังขอยืนยันญัตติเดิมคือให้เปิดประชุมทั้ง 2 วัน ในเวลา 09.00-17.00 น. เพราะมีประสิทธิภาพสูงสุดในการออกกฎหมาย อย่างไรก็ตาม หากฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยหรือไม่พอใจกับฝ่ายเสียงข้างมาก เราจะใช้กติกาสากล คือ การวอล์คเอ้าท์ออกจากห้องประชุม

ภายหลังผ่านการหารือ ประธานขอมติที่ประชุมจึงใช้วิธีโหวตตัดสิน ปรากฎว่าที่ประชุมมีมติเสียงส่วนใหญ่ ให้กำหนดเวลาเริ่มประชุมตามญัตติของ นพ.ชลน่าน 273 คือ ให้เริ่มประชุมสภาในวันพุธเวลา 13.00-21.00 น. , วันพฤหัสบดี 10.00-18.00น.

จากนั้น ที่ประชุมยังให้ความความเห็นชอบในการกำหนดวันเริ่มสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.54 -28 เม.ย. 55 ตามที่นายไพจิต เสนอซึ่งที่ประชุมไม่มีความเห็นเป็นอย่างอื่น ประธานได้สั่งปิดการประชุมทันทีใน เวลา11.45น. อย่างไรก็ตาม สำหรับกำหนดการประชุมสมัยประชุมสามัญทั่วไป ได้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.ถึงวันที่ 28 พ.ย.2554


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์