สพรั่ง ชี้บ้านเมืองจะมีปัญหาอีก

การที่นายสมัครยอมรับเป็นนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น บ้านเมืองคงจะมีปัญหาต่อไป


ด้าน พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. ให้สัมภาษณ์ว่า การที่นายสมัครยอมรับเป็นนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น บ้านเมืองคงจะมีปัญหาต่อไป เพราะเวลาในการแก้ปัญหาที่ผ่านมาน้อยไปหน่อย แต่เป็นความจำเป็นของกติกาที่ประชาคมโลกเข้าใจถึงความจำเป็น และลักษณะสังคมไทยที่มีลักษณะพิเศษ เมื่อมีปัญหาเราก็แก้ไขกันแบบที่เราคุ้นเคย เป็นลักษณะถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน นั่นคือสิ่งที่เราจำเป็นต้องใช้เวลาที่ค่อนข้างจำกัด แต่ขอบเขตปัญหาเยอะ


เมื่อถามว่า ปัญหาความรุนแรงทางการเมืองจะมีหรือไม่

พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า ปัญหาคือเรื่องของการให้ การศึกษาความเข้าใจในการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ประชาชนต้องให้ความสำคัญกับการเลือกนักการเมืองที่จะทำหน้าที่ให้บ้านเมืองสงบสุขอย่างแท้จริง แม้บางอย่างอาจเป็นการพึ่งพากันในลักษณะบุญคุณ ซึ่งเป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่เขาเห็นว่าเขาต้องเลือกก่อน นั่นคือสิ่งที่เราจะต้องช่วยกันปลดล็อก ต้องให้ประชาชนตัดสินใจว่าความยากจนกับบุญคุณนั้น ถ้าเพื่ออนาคตของประเทศชาติและลูกหลานจะต้องเลือกอย่างไร ตรงนี้ต้องอาศัยนักการเมืองที่เสียสละ


วอนคนไทยเลือกคนสำนึกดี


เมื่อถามว่า มองการเลือกตั้งในอนาคตอย่างไร พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า ต้องไปถามกลุ่มต่างๆที่รวมตัวกันจัดตั้งพรรคการเมืองว่าหนักใจแค่ไหน อย่างไร เพราะเป็นการต่อสู้ด้วยการจัดกลุ่ม ตอนนี้เราไปวิจารณ์ไม่ได้ เพราะสิ่งที่กำลังเป็นจริงอาจจะพลิกล็อกได้ “กลุ่มต่างๆพยายามปรับตัวอยู่แล้วทุกวินาที ถ้าเราจะไปบอกว่าต้องเป็นอย่างที่เราคิดคงไม่ได้ เพราะเราไม่ใช่ผู้เล่น เราเป็นผู้กำกับผู้ดูแล เป็น 1 ในคนไทย 60 ล้านคนเศษที่ใช้สิทธิถูกต้อง เป็นคนให้โอกาสเขาทำหน้าที่ ดังนั้น ต้องพินิจพิเคราะห์ว่าคนไหนพรรคไหนตัวจริงเสียงจริง คนไหนที่มุ่งมั่น พรรคไหนที่เป็นคนดี แต่อาจผิดพลาดไปบ้าง แล้วมีสำนึกที่ดีต่อชาติบ้านเมือง เราก็ให้โอกาสเขา ถ้าทำได้อย่างที่ผมพูด รับรองบ้านเมืองจะดีขึ้นตามลำดับ แม้หมอดูจะมาทำนายทายทักว่าบ้านเมืองจะแย่ ถ้าความดีเกิดขึ้น ความเลวร้ายบรรเทาลงได้”


“มนตรี” ยันใครผิดหวังก็ไม่คิดปฏิวัติ


พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ เสนาธิการทหารบก กล่าวถึงกระแสข่าวความขัดแย้งระหว่าง 3 ตัวเก็งตำแหน่งผบ.ทบ. ว่า ไม่มีความขัดแย้ง ทุกวันนี้ก็ยังเจอกันคุยกันอยู่ ไม่มีปัญหาอะไร ทหารมีวินัย ถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา สื่อมวลชนก็เห็นว่า ทุกครั้งเมื่อบัญชีรายชื่อมีการโปรดเกล้าฯลงมา ทุกอย่างก็จบ ผู้สื่อข่าวถามว่ายืนยันหรือไม่ว่า หากรุ่นพี่หรือรุ่นน้องขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ. ก็สามารถทำงานร่วมกันได้ พล.อ.มนตรีตอบว่า ในกองทัพก็เคยมีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้น ก่อนที่จะมีการโปรดเกล้าฯ มักมีข่าวอย่างนี้ทุกครั้ง แต่ในความจริงลึกๆแล้วไม่มีอะไรกันเลย

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าหากใครผิดหวังในตำแหน่ง ผบ.ทบ. อาจจะมีการปฏิวัติ พล.อ.มนตรีกล่าวว่า ไม่มีทาง เพราะทหารมองเรื่องความมั่นคงเป็นหลัก เมื่อถามว่า เชื่อหรือไม่ว่าการโยกย้ายครั้งนี้จะไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง พล.อ.มนตรีกล่าวว่า ยิ่งตอนนี้ยิ่งสบายใหญ่ ไม่มีการเมืองมาเกี่ยวข้องการทหารแน่นอน


สพรั่ง เป็นงงคำพูด บุญรอด

ขณะที่ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ว่า ธรรมชาติของตนเป็นคนที่ไม่ติดยึดกับอะไร เรียบง่ายมาก แต่บางครั้งมีคนมาตั้งคำถาม เราก็อธิบายไปแบบพี่แบบน้อง เพื่อให้รู้จักทหารอาชีพคนหนึ่ง จนกระทั่งกลายเป็นว่าตนเป็นคนแคร์ความรู้สึกบ้าบอคอแตกไปเลย


ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม มีความกังวลเรื่องการปรับย้ายทหารอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า

เรื่องนี้ต้องถาม พล.อ.บุญรอด ขอความกรุณาผู้สื่อข่าวไปสอบถามท่านอีกทีว่าหมายความว่าอะไร เมื่อถามว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. เคยเรียกบรรดาแคนดิเดตไปหารือบ้างหรือไม่ พล.อ.สพรั่งตอบว่า ได้พบกันในที่ประชุมสัปดาห์ละครั้งอยู่แล้ว แต่ไม่ได้เรียกไปพบเป็นการส่วนตัว


ระบุสถานการณ์คือตัวกำหนดเงื่อนไข


ต่อข้อถามว่า ตำแหน่ง ผบ.ทบ.ในวาระ 1 หรือ 2 ปี มีความหมายอย่างไรในการทำงานให้กองทัพ พล.อ. สพรั่งกล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาอธิบายชัดเจนแล้วว่ามีนโยบายความต้องการกับเรื่องของผลงานอาจจะแปรผันตามหรือแปรผันกลับได้ คือจะ 1 ปี 2 ปี หรือ 3 ปี ขึ้นอยู่ กับผู้ที่ตัดสินใจมองอะไรเป็นหลัก เรื่องผลงานจะมีผลต่อระยะเวลาถูกต้อง แต่ไม่ใช่เป็นกฎตายตัว เมื่อถามว่า ระยะเวลาที่จะเป็น ผบ.ทบ. 1 หรือ 2 ปี ก็มีค่าเท่ากันใช่หรือไม่ พล.อ.สพรั่งตอบว่า แล้วแต่ผู้บังคับบัญชาพิจารณามองเงื่อนไขเวลากับภารกิ0สถานการณ์ในอนาคตจะเป็นตัวกำหนด ฉะนั้น จึงไม่ใช่ เงื่อนไขตายตัว แต่เป็นเงื่อนไขที่นำมาพิจารณาได้ เช่นเอาคน 5 ปี 4 ปี 3 ปี 2 ปี หรือ 1 ปี มาเป็น ผบ.ทบ. ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร เหมือน กับเจ้าของกิจการที่เป็นผู้ตกลงใจจ้างคนมาเป็นผู้จัดการ บางทีก็จ้าง 1 ปี 2 ปี หรือ 3 ปีก็แล้วแต่


ซินแสชื่อดังแนะจัดเลือกตั้ง 20 ม.ค.


วันเดียวกัน นายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ซินแสชื่อดัง ประธานสถาบันศาสตร์แห่งชีวิตแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงการวิเคราะห์ดวงเมืองและดวงของนักการเมืองชั้นแนวหน้าว่า ดวงเมืองตามพื้นฐานดวงยังไม่ควรจัดให้มีการเลือกตั้งภายในปีนี้ เพราะอยู่ในช่วงปีกุน ธาตุไฟ หมายถึงทหารยังมีบทบาท มีอำนาจ กุมอำนาจรัฐอยู่ ถึงลุยให้มีการเลือกตั้งก็จะเกิดความวุ่นวายในอนาคต ถือเป็นการเริ่มต้นที่ไม่เหมาะสม และช่วงนี้จนถึงช่วงก่อนตรุษจีนปี 2551 ให้ระวังคลื่นใต้น้ำที่ยังคงก่อตัวอยู่ แม้ภายนอกดูสงบนิ่งแล้ว แต่ภายในยังมีอันตราย อีกทั้งอุบัติเหตุทาง

การเมืองเป็นสิ่งที่น่าคิด โดยเฉพาะการแต่งตั้ง ผบ.ทบ. คนผิดหวังจะไม่ยอมง่ายๆ

เพราะดาวไฟยังกุมดวงบ้านเมืองไปจนถึงปี 2551 จะเริ่มดีขึ้นในปี 2552 สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเลือกตั้งนั้น น่าจะเป็นหลังวันที่ 7 ก.พ. 2551 เป็นช่วงหลังตรุษจีนไปแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะให้ทำได้หรือไม่ ถ้าทำไม่ได้ อาจจะกำหนดวันเลือกตั้งในช่วงต้นเดือน ม.ค. 2551 ก็ได้ แต่ไม่ควรเป็นวันที่ 6 ม.ค. 2551 เพราะจะไปสมพงศ์กับดวงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาจทำให้สถานการณ์บ้านเมืองวุ่นวายตามมาอีก ดังนั้น วันเลือกตั้งที่เหมาะสมควรเป็นวันที่ 20 ม.ค. 2551 ถือเป็นวันที่ดีกับผู้ใหญ่ในบ้านเมือง และเป็นวันชงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์