สพช.ร้าว! บิ๊กชุมชนพอเพียงไล่ทีมสอบพ้นงาน เหตุขุดคุ้ยเรื่องที่อยุธยา ดันคนตัวเองลงพื้นที่แทน

สพช.ป่วน! "บิ๊ก"ชุมชนพอเพียงไล่"ทีมสอบ" 3 คนพ้นงาน เหตุขุดคุ้ยเรื่องฉาวใน"อยุธยา" โวยทำงานข้ามหน้าข้ามตา จัดคนตัวเองลงพื้นที่แทน เผยเบื้องหลังยิ่งสาวยิ่งโยงใย หลายคนจึงโดนเขี่ย นอภ.สตึกยืนยันไม่มีการ"หมูวิ่ง"


ผู้สื่อข่าว "มติชน" รายงานจากสำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (สพช.) เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมว่า ขณะนี้ได้เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่คณะทำงานตรวจสอบข้อร้องเรียนในโครงการชุมชนพอเพียง ซึ่งมีพล.อ.ชัชวาลย์ ทัตตานนท์ รองผู้อำนวยการ สพช.ฝ่ายตรวจสอบและประเมินผล เป็นประธาน กับผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งใน สพช. หลังจากเจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าวไปตรวจสอบข้อร้องเรียนในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้ผู้บริหารคนดังกล่าวไม่พอใจอย่างมาก และได้ออกคำสั่งด้วยวาจาให้เจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าวซึ่งมีอยู่ 3 คนพ้นจากงานใน สพช. ขณะนี้ทั้งหมดได้ทยอยเก็บข้าวของออกจากสำนักงานแล้ว


แหล่งข่าวใน สพช. เปิดเผยถึงสาเหตุแห่งความขัดแย้งว่า หลังจากคณะทำงานตรวจสอบฯของ พล.อ.ชัชวาลย์เสร็จสิ้นภารกิจ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว และเริ่มตรวจสอบใน จ.ภาคกลาง โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ลงตรวจสอบ 160 โครงการในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนกล่าวหาผู้บริหารระดับสูงใน สพช.ช่วยอนุมัติงบฯ ให้หัวคะแนนในพื้นที่ จากการลงพื้นที่ชุมชน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พบบางชุมชนเสนอโครงการซ่อมร้านค้าชุมชนไปยังคณะกรรมการอนุมัติโครงการ แต่กลับได้รับอนุมัติเป็นโครงการปุ๋ยอินทรีย์ อีกชุมชนขอสร้างโรงเรือนต้นไม้ กลับได้โครงการปุ๋ยอินทรีย์เช่นกัน


"ประชาชนแจ้งว่า หลังเสนอโครงการไปแล้วเจ้าหน้าที่ระดับสูงใน สพช.แจ้งชุมชนให้เปลี่ยนโครงการตามที่คณะกรรมการกำหนด จึงจะอนุมัติงบฯให้ จากนั้นมีการเปลี่ยนเป็นอีกโครงการหนึ่งทันที ทั้งที่ต้นขั้วขอโครงการที่อยู่กับชุมชนยังคงเป็นโครงการเดิม แต่เอกสารที่คณะกรรมการอนุมัติกลับเป็นอีกโครงการ เจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบจึงได้ถ่ายสำเนาข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน" แหล่งข่าว เปิดเผย


แหล่งข่าว กล่าวต่อไปว่า เมื่อไปตรวจสอบที่ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือและไม่ให้เอกสารข้อมูลมาตรวจสอบ ทางเจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบทั้งสามจึงกลับกรุงเทพมหานคร (กทม.) เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อขอหนังสือจาก พล.อ.ชัชวาลย์ไปยืนยันขอเอกสารที่ต้องการ ขณะเจ้าหน้าที่นั่งรอออกหนังสืออยู่ในห้องของ พล.อ.ชัชวาลย์ โดยเจ้าของห้องไม่ได้อยู่ด้วยนั้น ปรากฏว่าผู้บริหารระดับสูงคนดังกล่าวได้เดินเข้ามาพบ และแสดงกิริยาอาการไม่พอใจ พร้อมสั่งห้ามทำงานที่ สพช.อีกต่อไป และจะให้ พล.อ.ชัชวาลย์เป็นผู้ตรวจสอบเอง โดยให้นำเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นลูกน้องผู้บริหารคนดังกล่าวไปร่วมงานแทน ทำให้เจ้าหน้าที่ทั้งสามคนต้องหยุดปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคมเป็นต้นไป


"ผู้บริหารคนดังกล่าวตำหนิเจ้าหน้าที่ชุดที่ลงไป จ.อยุธยาว่า ทำไมไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อนลงพื้นที่ ผู้รับผิดชอบพยายามชี้แจงว่า ฝ่ายตรวจสอบไม่ได้เกี่ยวข้องกับฝ่ายอนุมัติ ทำให้ผู้บริหารคนดังกล่าวออกอาการฉุนเฉียวอย่างแรงว่า ทำงานข้ามหน้าข้ามตา เนื่องจากว่า จ.พระนครศรีอยุธยาเป็นพื้นที่ของตนเองมานานแล้ว"แหล่งข่าว กล่าวและว่า ขณะนี้คณะกรรมการตรวจสอบฯ และอนุกรรมการหลายๆ ส่วนถูกบีบให้ออกจากการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากยิ่งสืบข้อมูลลงลึกยิ่งเชื่อมโยงถึงผู้มีอำนาจในรัฐบาล แต่ทำไปทำมา ฝ่ายตรวจสอบกลับไม่ได้รับการปกป้องจากผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งที่การตั้งคณะทำงานตรวจสอบโครงการนั้นเป็นคำสั่งจากผู้ใหญ่ในพรรค


สำหรับความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการตรวจสอบโครงการชุมชนพอเพียงของพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า ลงตรวจสอบพื้นที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พบหลายชุมชนทำโครงการเลี้ยงหมู หลังคาเรือนละ 1 ตัว และมีการทุจริตในลักษณะหมู่วิ่ง โดยซื้อหมูแจกชาวบ้านไม่ครบตามงบฯ แต่ใช้วิธีนำลูกหมูไปเวียนเทียนแจกชาวบ้านรายอื่นๆ ต่อนั้น นายยลยง มีพืช นายอำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ทั้ง 12 ตำบล 190 หมู่บ้านใน อ.สตึก มีการเสนอโครงการเลี้ยงหมู 1 ครัวเรือน เพียง 1 หมู่บ้าน ใน ต.ร่อนทองเท่านั้น สพช.โอนเงินมาให้แล้ว 250,000 บาท แต่ยังไม่ได้เบิกเงินออกมาแต่อย่างใด จึงยังไม่ได้ดำเนินโครงการ แต่ยืนยันว่าในเขตพื้นที่ อ.สตึกไม่มีโครงการหมูวิ่งหรือการเวียนเทียนเลี้ยงหมูอย่างแน่นอน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สพช.ได้อนุมัติโครงการส่งเสริมกลุ่มอาชีพเลี้ยงสุกรขุนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ให้ชุมชนใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ จำนวน 19 ชุมชน วงเงินรวมทั้งสิ้น 4 ล้านบาท 


นายทำนอง ศรีเมือง นายอำเภอนางรอง กล่าวว่า หลายตำบลและหลายหมู่บ้านเสนอโครงการเลี้ยงสุกรมายังอำเภอ จากนั้นอำเภอได้เสนอส่วนกลางพิจารณาอนุมัติโอนเงินตรงไปยังหมู่บ้าน และเบิกจ่ายได้เอง เพราะมีคณะกรรมการหมู่บ้านดูแล โดยอำเภอไม่มีส่วนเข้าไปรับผิดชอบในส่วนนี้ ส่วนจะนำหมูไปเวียนเทียน หรือทุจริตหรือไม่นั้น ยังไม่เคยได้รับรายงานเรื่องนี้ แต่หากมีการร้องเรียนมาก็พร้อมเข้าตรวจสอบทันที


นายศุภชัย ใจสุมทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีมีการโยงปัญหาทุจริตมายัง จ.บุรีรัมย์ โดยเฉพาะการทำโครงการหมูวิ่งว่า อย่าพยายามโยงเรื่องนี้มาเกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทย แม้นายประโภชฌ์ สภาวสุ เคยอยู่พรรคมัชฌิมาธิปไตยก็ตาม แต่ขณะนี้ไม่ได้อยู่แล้ว จึงไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกัน


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์