สนั่นปัดเคืองสุเทพน้อยใจเติ้งเมินรมต. อ้างเป็นมานาน ชวนชี้ไม่มีสัญญาณพิเศษให้นั่งนายกฯ

"ผมบอกนายกรัฐมนตรีว่าสมควรแก่เวลาแล้วที่จะให้คนหนุ่มเข้ามาทำหน้าที่แทน ผมไม่มีเหตุผลอื่น นอกจากเป็นรองนายกรัฐมนตรีมานาน และอายุมากที่สุดแล้ว ผมจะกลับเป็น ส.ส. เพื่อไปเยี่ยมเยียนราษฎรอย่างเดียว แต่ถ้ารัฐบาลมีอะไรบอกมาได้ พร้อมที่จะช่วยเหลือ ผมอยู่ในตำแหน่งนี้มานานไป มันไม่สนุก ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มันต้องมีชก มีต่อสู้บ้าง จะให้เรื่อยเฉื่อย เช้าชาม เย็นชามทำไม" พล.ต.สนั่นกล่าว

ปัดเกาเหลา"สุเทพ"น้อยใจ"บรรหาร"

พล.ต.สนั่นกล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหาเรื่องสุขภาพ และไม่มีปัญหาเรื่องงาน หรือเกาเหลากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี อย่างที่เป็นข่าว เพราะทำงานร่วมกันมานาน นอกจากนี้ นายบรรหาร ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ก็ไม่ได้น้อยใจที่ไม่ได้แจ้งให้ทราบก่อนอย่างที่เป็นข่าว เพราะแม้จะออกจากตำแหน่ง ยังทำงานให้พรรค ยังช่วยหาเสียง และเตรียมการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งจะทำให้ทำงานได้ถนัดขึ้น แม้ส่วนตัวจะยังไม่คิดว่าจะเลือกตั้งในเร็วๆ นี้

พล.ต.สนั่นย้ำอีกว่า หากมีการปรับ ครม. พรรคชาติไทยพัฒนาจะไม่แลกกระทรวงกับพรรคใด ส่วนจะปรับเล็กหรือปรับใหญ่ ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ปรับ ครม. 1 ปีแล้ว แต่ละพรรคต้องไปตรวจสอบ จะให้วิพากษ์วิจารณ์คงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าถ้ามีการปรับ ครม. คงจะทำให้รัฐบาลสะเทือนบ้าง แต่จะปล่อยไปเรื่อยเปื่อยไม่ได้ นายกรัฐมนตรีจะต้องพิจารณาและตัดสินใจ

"สุวิทย์"ดักคอปรับครม.

ด้านนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคกิจสังคม กล่าวว่า ในส่วนของพรรคกิจสังคมจะไม่ปรับเปลี่ยนหรือขอเปลี่ยนแปลงกระทรวงอย่างแน่นอน ทุกอย่างควรเป็นไปตามข้อตกลงเดิมก่อนจัดตั้งรัฐบาล การปรับเปลี่ยนอะไรที่จะมีขึ้นอีกในเร็วๆ นี้ ก็คงเป็นเรื่องของแต่ละพรรคเท่านั้น เชื่อว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนหรือแลกกระทรวงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลแต่อย่างใด เพราะหากทำเช่นนั้นยิ่งจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลโดยตรง

เมื่อถามว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ได้ดูแลกระทรวงเศรษฐกิจเบ็ดเสร็จจะช่วยทำให้การผลักดันนโยบายหรือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจทำได้สัมฤทธิผลมากขึ้นหรือไม่ หัวหน้าพรรคกิจสังคมกล่าวว่า ไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะในสถานการณ์ที่รุมเร้าทั้งปัจจัยภายนอกและภายใน รวมถึงรัฐธรรมนูญปี 2550 เป็นตัวฉุดให้การแก้ไขปัญหาต่างๆ ทำได้ยากขึ้น จึงไม่คิดว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ได้ดูแลกระทรวงเศรษฐกิจอย่างเบ็ดเสร็จจะทำให้สามารถแก้ไขอะไรได้ง่ายเหมือนที่คิดกัน

ภท.ติงเสธ.หนั่นดันลูกไม่เหมาะ

ด้าน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณี พล.ต.สนั่นจะลาออกจากตำแหน่ง และมีกระแสข่าวจะให้นายศิริวัฒน์ บุตรชาย มารับตำแหน่งแทนว่า ในพรรคภูมิใจไทยมีการพูดคุยกันว่า พล.ต.สนั่นอาจจะต้องการที่จะโปรโมตลูกชาย เพราะ พล.ต.สนั่นเป็นถึงรองนายกรัฐมนตรี แต่การที่จะให้ลูกชายมารับตำแหน่งแทนคงจะดูไม่เหมาะสม จะให้นายศิริวัฒน์เป็นรองนายกรัฐมนตรีเลยคงจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น เชื่อว่าหาก พล.ต.สนั่นต้องการให้ลูกชายมารับตำแหน่งรัฐมนตรี ควรจะเป็นรัฐมนตรีช่วย แต่พรรคชาติไทยพัฒนาจะยอมแลกระหว่างตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี กับรัฐมนตรีช่วยหรือไม่ พรรคชาติไทยพัฒนาคงจะมองว่าไม่คุ้ม หรืออาจจะต้องสลับตำแหน่งในพรรคชาติไทยเอง ก็เป็นเรื่องภายในของเขา อย่างไรก็ตาม พรรคภูมิใจไทยไม่แลกเปลี่ยนกระทรวงแน่นอน

นายชวรัตน์ยังยืนยันว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่มีการปรับ ครม.แน่นอน เพราะยังไม่มีรัฐมนตรีของพรรคคนไหนที่มีจุดบกพร่อง ทุกคนยังสามารถทำงานได้เป็นอย่างดี สำหรับนายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่มีปัญหาเรื่องหุ้นนั้นยังไม่ชัดเจน ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ชี้ขาด และหากพ้นจากตำแหน่งสามารถกลับเข้ามารับตำแหน่งได้อีก

"ชวน"ปัดหนุนปรับครม.-เปลี่ยนนายกฯ

ด้าน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวเป็นผู้สนับสนุนให้ปรับครม. รวมถึงกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีว่า ไม่เคยได้ยินเรื่องดังกล่าว และแปลกใจว่าทำไมจึงมีข่าวลักษณะนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตนเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศเยอรมนี มีสื่อมวลชนโทรศัพท์มาสอบถามว่ามีการระบุว่า ตนและนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษา สนับสนุนให้มีการปรับ ครม. ขอยืนยันว่าไม่มีแน่นอน โดยเฉพาะที่มีการส่งสัญญาณให้เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีนั้น ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เรื่องอะไรที่เกี่ยวกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่เกี่ยวกับตนแน่นอน

"ผมได้ยินเรื่องที่ระบุว่าจะให้ผมเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ตั้งรัฐบาลใหม่ๆ แต่ความจริงแล้วการที่จะให้ผมเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะตามระบบของพรรคประชาธิปัตย์ และระบอบประชาธิปไตย คนที่เป็นหัวหน้าพรรคเท่านั้นจึงจะได้เป็นายกรัฐมนตรี ดังนั้น อย่าเอาผมไปเป็นตัวต่อรองเลย เพราะขณะนี้ นายกฯอภิสิทธิ์ทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเปลี่ยนตัว ซึ่งผมไม่เข้าใจว่ากระแสข่าวลักษณะนี้มีเจตนาอย่างไร" นายชวนกล่าว

ย้ำไม่มี"สัญญาณพิเศษ"เตือน

เมื่อถามว่า มีการระบุว่ามีสัญญาณพิเศษต้องการให้นายชวนเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ ทุกวันนี้ตนมีบทบาทในการช่วยงานพรรคเท่านั้น

ขณะที่ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าข่าวลักษณะดังกล่าว หากตรวจสอบต้นตอที่ผ่านมามีความเป็นไปได้ว่ามาจากฝ่ายค้าน ดูได้จากกรณีที่มีการปล่อยข่าวว่า นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี จะย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย หรือข่าวพรรคประชาธิปัตย์จะจับมือกับพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล 2 พรรค ข่าวลักษณะนี้ จงใจที่จะให้เกิดความแตกแยกในพรรคร่วมรัฐบาล และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล

ชี้แค่เกมฝ่ายค้าน-ปัดคลื่นภายใน

นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นยุทธศาสตร์ เป็นความจงใจของฝ่ายค้านที่จะทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล เพราะตลอดเวลา 1 ปีที่ผ่านมา นโยบายต่างๆ ของรัฐบาลเป็นรูปธรรม และได้รับการยอมรับจากประชาชนเป็นอย่างมาก จึงทำให้ฝ่ายค้านเกิดความกังวลและทำงานลำบากมากขึ้นจึงปล่อยข่าวดังกล่าวออกมาเพื่อทำลายรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้ว่า ข่าวดังกล่าวจากมาจากพรรคร่วมรัฐบาลเอง เพราะไม่พอใจการทำงานของนายกรัฐมนตรี นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า "ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้จากพรรคร่วมหรือในวงสนทนาในพรรคประชาธิปัตย์ และในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยืนยันว่ายังมีภารกิจแก้ปัญหาประเทศอีกมากมาย และทุกคนในพรรคประชาธิปัตย์ ต่างมั่นใจในตัวนายกรัฐมนตรีโดยเฉพาะท่านอดีตนายกฯชวนที่สนับสนุนนายกฯอภิสิทธิ์ และรัฐบาลมาโดยตลอด"

อ้างมีข้อมูล"มาร์ค"ปรับหนีอภิปราย

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ว่า ได้รวบรวมข้อมูลและจัดทำแผนผังแสดงรายละเอียด และจะเปิดแถลงข่าวในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ที่พรรค เพื่อแสดงให้เห็นว่านายอภิสิทธิ์ มีแผนจะปรับ ครม.หนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และแก้ปัญหาภายในพรรคและเพื่อพวกพ้องตนเอง โดยทำเหมือนตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นสมบัติผลัดกันชม