สนธิแฉหมอเขมรทำมนต์ดำ เผยนักการเมืองพาสาวเข้ารร.


"สนธิ"แฉหมอเขมรทำมนต์ดำ-อัดยับโพลล์ พธม.เผยคลิปนักการเมืองเมืองระดับชาติพาสาวเข้าโรงแรม "พระพุทธชินวัตรมุนี" ปางทรงเครื่องหน้าเหลี่ยมโผล่วัดอีกที่เมื่องเชียงใหม่ ส่วนที่วัดบางละมุงนายอำเภอสั่งปรับปรุงให้เหมาะสมและสั่งทำลายรูปปูนปั้น “ทักษิณ” แล้ว


พปช.ยืมมือ "ป๋าเปรม" ดึง พธม.-นปช.-กองทัพ เจรจายุติความขัดแย้งในสังคม นายกฯ เห็นด้วยแนวทาง "ป๋า-สุเมธ" ด้านกองทัพเตือนสองฝ่ายอย่าดึงสถาบันมาหาประโยชน์ ตร.สรุปสำนวนสั่งฟ้อง "จักรภพ" คดีหมิ่นเบื้องสูงแล้ว เพื่อแผ่นดินเคลียร์ลงตัว "ประสงค์" ยันนั่ง มท.3 ต่อ "ไชยยศ" เสียงอ่อน บอกแล้วแต่มติพรรค


ภาคการเมืองออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเป็นคนกลางเจรจาประสานให้ทุกฝ่ายจับเข่าคุยยุติความขัดแย้งในสังคม เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 ตุลาคม ที่รัฐสภา กลุ่มผู้แทนปวงชนชาวไทย นำโดยนายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี นายสุรชัย เบ้าจรรยา ส.ส.สัดส่วน นายสาธิต เทพวงศ์ศิริรัตน์ ส.ส.สุรินทร์ นายพีระเพชร ศิริกุล ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคพลังประชาชน ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นคนกลางในการประสานงานให้ทุกฝ่ายในสังคมมาร่วมเสวนาหาทางออกยุติความขัดแย้งร่วมกัน
 

นายอำนวยกล่าวว่า วิกฤติของประเทศที่เกิดขึ้นจากเสียงข้างน้อยในสภา ที่มีความคิดเห็นแตกต่างจากเสียงข้างมาก พยายามจะขยายปมขัดแย้งนอกสภาจนทำให้เกิดกระบวนการนำพาประชาชนสู่กระบวนการต่อต้านอำนาจรัฐ แม้ทุกฝ่ายจะยึดมั่นในความคิดของตัวเอง แต่ก็ไม่ควรปรารถนาเปิดศึกแตกหัก แต่วิธีการที่ดีที่สุดคือ จะต้องผสานระบอบการปกครองให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ ที่ผ่านมาผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหลายคนได้แต่พูดในเชิงนามธรรมว่า สังคมจะต้องไม่แตกแยกกัน มีความสามัคคี เสียสละ อดกลั้น และอดทนต่อกัน


ดังนั้นกลุ่มผู้แทนปวงชนชาวไทยจึงขอเสนอให้ พล.อ.เปรม ซึ่งเป็นที่เคารพของประชาชน และมีประสบการณ์ทางการเมืองที่ยาวนาน เชิญกลุ่มต่างๆ อาทิ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) รัฐบาล ฝ่ายค้าน องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และกองทัพ มาร่วมเสวนาเพื่อแก้ไขปมขัดแย้งในสังคม และหากกลุ่มใดไม่มาตามคำเชิญขอให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ พร้อมด้วยสื่อมวลชนและนักวิชาการ ร่วมกันประณามกลุ่มดังกล่าวให้ย้ายทะเบียนบ้านออกนอกประเทศไทย โดยข้อเรียกร้องดังกล่าวถือว่าเป็นความเห็นของ ส.ส.พรรคพลังประชาชนทั้งหมด ปชป.จวกรัฐ-พปช.ดึงป๋าเป็นเครื่องมือ



นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หาก พล.อ.เปรมยอมรับจะมาเป็นคนกลางจริงตามที่เสนอ ก็นับว่าเป็นโชคดีของประเทศไทย ที่มีบุคคลสำคัญของชาติอาสามาเป็นคนกลางในการแก้ปัญหาวิกฤติชาติ แต่ข้อเสนอของนายกฯ และ ส.ส.พรรคพลังประชาชน มีความจริงใจมากน้อยเพียงใด และให้ความสำคัญต่อ พล.อ.เปรมจริงหรือไม่


"เกรงว่าคนเหล่านี้จะใช้ พล.อ.เปรม เป็นเครื่องมือให้ตัวเอง เพราะวันที่ตัวเองมีอำนาจ มีกำลังเฟื่องฟู ก็ไม่เคยเห็น พล.อ.เปรมอยู่ในสายตา ปล่อยให้ลูกพรรคออกมาระราน พล.อ.เปรม ตลอดเวลา แต่พอวันที่ตัวเองจนตรอกก็เรียกร้องหา พล.อ.เปรม มาแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของตัวเอง จึงอยากถามหาความจริงใจของรัฐบาลว่ามีความจริงใจต่อข้อเสนอดังกล่าวมากน้อยเพียงใด หรือเป็นในลักษณะปากว่าอย่างมือทำอย่าง ใจคิดอย่าง อย่างนั้นหรือไม่" นายเทพไทระบุ


กองทัพฮึ่มอย่าดึงสถาบันมาหาประโยชน์

พล.ต.วิศณุ ศรียะพันธ์ โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศว่า ตามที่มีความขัดแย้งทางความคิดระหว่างคนไทยด้วยกัน และมีความพยายามดึงกองทัพเข้าไปสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง กองทัพขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจในสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดเห็น แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น และต้องคำนึงถึงว่าการกระทำต่างๆ จะต้องก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนโดยส่วนรวม ท่าทีและความคิดเห็นที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน สมควรจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ด้วยเหตุและผล โดยไม่นำเอาผลประโยชน์ของตนหรือกลุ่มตนเป็นที่ตั้ง อย่างไรก็ตาม ต้องตระหนักด้วยว่า ความขัดแย้งของคนไทยด้วยกันไม่ใช่สิ่งที่ต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ และไม่ได้ทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสบายพระราชหฤทัยแต่อย่างใด ประเด็นที่สำคัญคือ คนไทยทุกคนต้องร่วมมือกันทำให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย เพื่อให้พระราชพิธีสำคัญต่างๆ ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ


รมว.พม.มั่นใจ พ.ย.ไม่มีเหตุรุนแรง

 นายอุดมเดช รัตนเสถียร รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงการจัดงานความจริงวันนี้ ต้านรัฐประหาร ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ว่า มีคนออกมาระบุว่าเป็นการพยายามสร้างความรุนแรง แต่เห็นจากการนำเสนอผ่านสื่อเป็นเพียงการรวมกลุ่มทางการเมืองของคนที่มีความเห็นตรงกันให้อยู่ในกรอบเดียวกัน เพื่อให้สามารถควบคุมได้และป้องกันไม่ให้มีคนแอบอ้างกระทำสิ่งต่างๆ จนเกิดความผิดแผกและสร้างปัญหาตามมา ส่วนผู้จัดงานจะมีการโฟนอินเสียง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น เป็นวิธีการเชิญชวนให้คนเข้าร่วมงาน อย่าไปตกใจ เพราะกิจกรรมดังกล่าวไม่ได้ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เป็นการพูดกันเองของคนในกลุ่ม


นายกฯหนุน"ป๋า-สุเมธ"ลดขัดแย้ง


นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ได้ฟังข่าวทางสื่อมวลชน คิดว่าบ้านเมืองขณะนี้มีปัญหาความขัดแย้งและปัญหาต่างๆ พอสมควร แต่โชคดีที่มีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองออกมาช่วยแสดงความคิดและความเห็น เช่น พล.อ.เปรม ที่ออกมาพูดให้คนไทยสมัครสมานสามัคคี ให้มีความอดทน อดกลั้นและเสียสละ


"เรื่องเหล่านี้ผมคิดว่าเราน่าจะปฏิบัติตาม จะทำให้สังคมของเราไม่ต้องมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกัน รวมทั้งจะไม่มีปัญหาความขัดแย้งขึ้นมาอีก ซึ่ง พล.อ.เปรมแนะนำให้เสียสละ และผมคิดว่าท่านคงหมายถึงการเสียสละให้แก่บ้านเมืองและส่วนรวมทุกคน" นายสมชายกล่าว




นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า วันถัดมาก็ยังได้ฟัง ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ออกมาให้ความเห็นที่ดี ในการที่พวกเราจะมีการแสวงหาหนทางที่จะปรองดองกัน โดยให้มีการพูดคุยเจรจาอย่างสันติวิธีต่อกัน ลดการเผชิญหน้า ซึ่งส่วนตัวแล้วคิดว่าเป็นทางออกที่จะนำไปสู่ความสมานฉันท์ ความสงบสุขด้วยกัน


นายสมชายกล่าวอีกว่า รัฐบาลเห็นด้วยกับแนวคิด พล.อ.เปรม ให้อดทน อดกลั้นและเสียสละ ซึ่งขณะนี้ก็กำลังทำกันอยู่ โดยการต่อยอดในการสร้างความสามัคคีนั้น รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นเวทีไหนก็ตาม อะไรที่ทำได้ เราก็จะทำ เพราะข้อแนะนำของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองถือเป็นแนวทางที่ดี

ไม่ฟันธง"ประสงค์"ยังเป็นมท.3หรือไม่


 นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความชัดเจนในการดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ของนายประสงค์ โฆษิตานนท์ หลังมีปัญหาแย่งตำแหน่งจนเกิดความวุ่นวายขึ้นในพรรคเพื่อแผ่นดินว่า ถึงวันนี้นายประสงค์ยังไม่ได้ยื่นใบลาออกมาที่ตน และยังไม่ได้รับหนังสือลาออกของนายประสงค์เช่นกัน



ส่วนการเขียนใบลาออกด้วยลายมือไว้ เป็นการแสดงเจตจำนงที่มีผลทางกฎหมายหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ต้องไปดูให้ดี ก็ไม่กล้าฟันธงออกไป แต่ยืนยันว่ายังไม่ได้รับใบลาออกจากนายประสงค์อย่างเป็นทางการ


เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่านายประสงค์ยังเป็น รมช.มหาดไทย อยู่ใช่หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า “ก็คงเป็นอย่างนั้น แต่คงต้องไปถามนักกฎหมายอีกทีว่าเป็นอย่างไร และผมยังไม่มีโอกาสพูดคุยกับนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินเลย”


"ไชยยศ"เสียงอ่อนแล้วแต่มติพรรค


ด้านนายไชยยศ จิรเมธากร โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า ไม่อยากให้มองเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องความขัดแย้ง เมื่อนายประสงค์เขียนใบลาออกไว้และบอกให้ไปยื่นหนังสือลาออก ตนก็ไปยื่น หากนายประสงค์ไม่บอกก็คงจะไม่ไปยื่น สิ่งที่ทำยืนยันว่าถูกต้อง เพราะทำตามข้อตกลงภายในพรรค และย้ำว่าในหนังสือเป็นลายมือของนายประสงค์จริง ถึงตอนนี้คิดว่าตัวเองทำหน้าที่เสร็จสิ้นแล้ว ส่วนนายประสงค์จะไปพูดอะไรหรือทำอย่างไรต่อไป ไม่ใช่เรื่องของตนแล้ว


นายไชยยศกล่าวต่อว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาไปยื่นหนังสือชี้แจงต่อนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีแล้ว เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถึงระดับต้องไปพบหรือยื่นหนังสือต่อนายสมชาย เท่ากับว่าขั้นตอนนี้จบแล้ว ส่วนต่อไปจะเป็นอย่างไรคงขึ้นอยู่กับมติพรรค ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกันอย่างชัดเจน


"ประสงค์"เผยเคลียร์ลงตัวแล้ว


นายประสงค์กล่าวยืนยันว่า พร้อมทำหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยต่อไป ตอนนี้ตนสุขภาพดีและไม่มีปัญหาด้านธุรกิจ เรื่องการลาออกเป็นการเข้าใจผิดระหว่างตนกับนายไชยยศ ภายหลังเกิดเหตุก็ทำความเข้าใจกับผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อแผ่นดิน เคลียร์ทุกอย่างกันแล้ว โดยเช้าวันนี้ (29 ต.ค.) ผู้ใหญ่โทรศัพท์มาหาว่า ทุกอย่างเหมือนเดิม ไม่มีอะไร ขอให้สบายใจได้


ส่วนที่มีการระบุว่า มีการตกลงการเข้าดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย เพียง 2-3 สัปดาห์นั้น นายประสงค์ระบุว่า หากเป็นเช่นนั้นก็ไม่ควรเข้ามาดำรงตำแหน่ง เพราะอาจส่งผลเสียต่อพรรค รัฐบาลและประชาชน นอกจากนี้ หากตนมีปัญหาด้านสุขภาพจริงก็จะยื่นหนังสือลาออกด้วยตัวเอง ซึ่งวันที่ในจดหมายลาออกนั้นไม่อนุญาตให้ใครไปกรอก ต้องทำด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นไม่ตรงกับเจตนาที่ตนเขียนเอาไว้


นายประสงค์กล่าวด้วยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่รู้สึกติดใจเอาความนายไชยยศ ถือเป็นผู้ใหญ่ จะไปมีเรื่องกับเด็กคงไม่เหมาะสม และมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงสีสันของชีวิต ส่วนจดหมายดังกล่าวนายไชยยศรับว่าจะนำมาคืนด้วยตัวเอง


ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการตกลงเรื่องเงินไม่ลงตัวหรือไม่ นายประสงค์กล่าวว่า ไม่มี ช่วงนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดกันเรื่องเงิน ครั้งนี้ไม่มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง


"ประชา"ยัน พผ.ไม่มีมติปลด "ประสงค์"


พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.อุตสาหกรรม ที่ปรึกษาพรรคเพื่อแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาการแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีในโควตาของพรรคว่า ทั้งนายประสงค์ และนายไชยยศ ต่างก็เป็นผู้ใหญ่ของพรรค และทั้งสองคนก็มีบทบาทที่ทำให้พรรคเพื่อแผ่นดินเป็นพรรคขึ้นมาได้ แต่เมื่อนายประสงค์ยังอยู่ในตำแหน่งและยืนยันว่าไม่ได้ลาออก นายไชยยศก็ต้องรอคอย

 เมื่อถามว่าจริงหรือไม่ที่นายประสงค์เซ็นหนังสือลาออกไว้ล่วงหน้า พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ไม่ทราบว่าหนังสือลาออกดังกล่าวทั้งสองคนไปทำกันเมื่อไร ตอนไหน ยืนยันว่าในพรรคเพื่อแผ่นดินไม่มีการให้รัฐมนตรีทำหนังสือลาออกไว้ก่อน แม้กระทั่งตนก็ไม่มีเงื่อนไขดังกล่าว


เมื่อถามย้ำว่าพรรคยังไม่มีมติที่จะให้นายประสงค์ออกจากตำแหน่งใช่หรือไม่ ที่ปรึกษาพรรคเพื่อแผ่นดินกล่าวว่า พรรคไม่มีมติดังกล่าว เพราะรัฐบาลก็กำลังเดินหน้าทำงานไปได้ด้วยดี รัฐมนตรีทุกคนก็ทำหน้าที่ นายประสงค์เองก็มีงานในหน้าที่ ซึ่งวันนี้นายกฯ ก็ยังไม่มีนโยบายจะปรับ ครม. ดังนั้นเราจะไปทำก่อนก็เป็นการไม่เหมาะสม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ประชาแจ้งนายกรัฐมนตรีผ่าน นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เลขานุการส่วนตัวของนายกฯ ว่า ปัญหาในพรรคพรรคจะแก้ไขกันเอง ซึ่งจะไม่ให้มีผลกระทบมาถึงรัฐบาล 


"หมอแว"เชื่อ 111 อยู่เบื้องหลังเหตุป่วน


 นพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งภายในพรรค ว่า รู้สึกยิ่งกว่าอายที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นภายในพรรค อยากเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า 111 ซินโดรม เพราะมีคนจากบ้านเลขที่ 111 เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง อยากฝากบอกให้เห็นใจบ้านเมืองบ้าง การแย่งตำแหน่งไม่ควรเกิดขึ้นในช่วงที่บ้านเมืองวิกฤติ ทั้งนี้ ถ้าเกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งภายในพรรค ที่สร้างความเสียหายให้แก่ชาติบ้านเมืองมากกว่านี้ เขาอาจต้องทบทวนตัวเองว่าอาจจะลาออกจากพรรค เพื่อให้พรรคเดินต่อไปได้ ควรคำนึงถึงกลุ่มของตัวเองให้น้อยกว่าความจำเป็นของบ้านเมือง

พธม.ดาวกระจายไปสถานทูตอังกฤษ


 นายพิภพ ธงไชย และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายพิภพระบุว่า พฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พันธมิตรจะใช้ยุทธศาสตร์ดาวกระจาย เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนทราบถึงเหตุการณ์ที่ตำรวจใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม โดยจะเริ่มเดินจากหน้าสถานทูตอังกฤษในเวลา 10.00 น. และจะไปสิ้นสุดที่ห้างสรรพสินค้าดิ เอ็มโพเรี่ยม ถนนสุขุมวิท คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ก่อนออกเดินพันธมิตรจะยื่นหนังสือถึงสถานทูตอังกฤษ เพื่อให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน กลับมารับโทษ


ส่วนกรณี นายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำปราศรัยโจมตี ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ทำให้สังคมมองในแง่ลบ ดังนั้นพันธมิตรจะเปลี่ยนท่าทีหรือไม่ พล.ต.จำลองกล่าวว่า การปราศรัยบนเวทีจะไปจำกัดว่าพูดแค่นั้นแค่นี้ไม่ได้ แล้วแต่ว่าใครจะพูดอย่างไร เราไม่เคยมีมติว่าใครจะพูดอะไรไม่ได้ การพูดมีทั้งดีและเสีย หากเราเห็นว่าไม่มีอะไรสาหัสก็ไม่ได้กำหนด เนื่องจากเป็นสิทธิเสรีภาพ การพูดจะไปเอาใจทุกคนให้เขาชอบคงไม่ได้ เรื่องเดียวกันอาจมีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบ


ตร.สรุปสำนวนสั่งฟ้องจักรภพหมิ่นเบื้องสูง


พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวนคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพทุกคดีในสังกัด บช.ก. เพื่อติดตามความคืบหน้าและแนวทางการทำงาน โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง


พล.ต.ท.วรพงษ์กล่าวถึงการเร่งรัดติดตามดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพว่า ขณะนี้ บช.ก.มีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพค้างอยู่ 32 คดี โดยสรุปเสนอสั่งฟ้องให้อัยการไปแล้ว 4 คดี ที่เหลืออีก 28 คดี อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งแยกเป็นคดีหมิ่นทางเว็บไซต์ 15 คดี วิทยุชุมชน 2 คดี ที่เหลือก็เป็นคดีร้องทุกข์ทั่วไป วันนี้ก็เรียกพนักงานสอบสวนแต่ละคดีมาประชุมสอบถามความคืบหน้า และปัญหาอุปสรรคต่างๆ ในการทำงาน


ส่วนกรณีของนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ คณะกรรมการคดีหมิ่นระดับ บช.ก.มีความเห็นให้ยืนตามความเห็นเดิม สั่งฟ้องนายจักรภพในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และเสนอความเห็นไปยังคณะกรรมการคดีหมิ่นระดับ ตร.แล้ว ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา 

นอภ.สั่งทำลายรูปปูนปั้นทักษิณแล้ว


 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ที่บริเวณวัดบางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี กลุ่มพันธมิตรชลบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงทยอยเดินทางมาดูรูปปูนปั้นบุคคลสำคัญทางการเมือง ที่ใต้ฐานพระประธาน จนแน่นวัด ทั้งนี้ นายมงคล ธรรมกิตติคุณ นายอำเภอบางละมุง ได้ร่วมประชุมกับเจ้าคณะอำเภอบางละมุง เพื่อสอบถามถึงสาเหตุและรูปภาพดังกล่าวมีความเป็นมาอย่างไร ซึ่งได้คำตอบจากนายสำรวย เอมโอด ช่างปูนปั้น ว่า วัดให้อิสระในการปั้น ตนต้องการสื่อให้เห็นว่าในช่วงที่กระทำนั้นการเมืองมีใครมีความสำคัญบ้าง ส่วนที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวเมื่อคืนวันที่ 28 ตุลาคม บนเวทีว่า มีรูปบุคคลสำคัญนั้น นายสำรวยชี้แจงว่า เป็นภาพปูนปั้นนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์


 ล่าสุด เมื่อเย็นวันที่ 29 ตุลาคม มีการทำลายปูนปั้นรูป พ.ต.ท.ทักษิณ รวมทั้งรูปบุคคลดังต่างๆ ออกทั้งหมดแล้ว โดยนายอำเภอบางละมุงลงมาควบคุมการดำเนินการแก้ไขและทำลายรูปปั้นดังกล่าวด้วยตัวเอง

เชียงใหม่มีพระพุทธชินวัตรมุนี


ส่วนที่วัดป่าธรรมชาติ ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ภายหลังแกนนำพันธมิตรออกมาเปิดเผยถึงรูปปั้นใต้ฐานพระพุทธรูปในวัดบางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่ปรากฏเป็นรูปใบหน้า พ.ต.ท.ทักษิณ และนักการเมืองอีกหลายคน จนสร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้ที่พบเห็นนั้น ผู้สื่อข่าวรุดไปตรวจสอบพบว่าเป็นพระพุทธรูปปางโปรดพญาชมพูบดี หรือปางทรงเครื่อง ขนาดหน้าตักประมาณ 2.5 เมตร ฐานด้านหน้าสลักชื่อว่า "พระพุทธชินวัตรมุนี" ตั้งบนฐานไม้ภายในวิหาร ใบหน้าพระพุทธรูปมีรูปทรงคล้ายสี่เหลี่ยม



 ส่วนภายในวิหารพบป้ายโฟมระบุว่า พิธีเบิกเนตรพระพุทธชินวัตรมุนี กฐินสามัคคี วัดป่าธรรมชาติ นายพายัพ นางพอฤทัย ชินวัตร 18 พฤศจิกายน 2550 จากการตรวจสอบในบริเวณวัดพบเพียงพระลูกวัด 2 รูป ซึ่งอ้างว่าไม่ทราบรายละเอียดของพระพุทธรูป ขณะที่เจ้าอาวาสติดกิจนิมนต์ที่ จ.ชลบุรี


"สนธิ"แฉหมอเขมรทำมนต์ดำ-อัดยับโพลล์


 นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 20.50 น. ระบุว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองดูแลประเทศไทย และคนไทยให้ความนับถืออย่างสูง คือพระแก้วมรกต พระสยามเทวาธิราช ศาลหลักเมือง และรัชกาลที่ 5 ให้ความคุ้มครองดูแลประเทศไทยมาช้านาน แต่เมื่อไม่นานมานี้มีคนไทยบางคนร่วมมือกับหมอเขมร เข้าไปสกัดไม่ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ส่งพลังมาคุ้มครอง

โดยกรณีพระแก้วมรกตนั้น หมอเขมรร่วมกับเจ้าหน้าที่บางคนลักลอบนำหินที่อยู่หลังพระแก้วมรกตออก ขณะที่พระบรมรูปทรงม้ารัชกาลที่ 5 ก็พบว่ามีการนำหมุด 6 เหลี่ยมไปตอกตรึงรอบพระบรมรูปเอาไว้ รวมทั้งพระสยามเทวาธิราชและศาลหลักเมืองก็มีการทำพิธีสกัดพลังเอาไว้


นายสนธิบอกว่า แต่ผู้ทรงศีลของเรารับรู้และตามแก้ไขเป็นผลสำเร็จ สามารถนำหินด้านหลังพระแก้วมรกตกลับคืนไปติดและถอนหมุด 6 เหลี่ยมออกได้ รวมทั้งพระสยามเทวาธิราชและศาลหลักเมือง ก็ได้รับการแก้ไข


นายสนธิกล่าวว่า ทราบมาว่าอดีตผู้นำของไทยถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับทุกคืน เหมือนคนบ้าเพราะจิตใจมีแต่ความเคียดแค้น มีความต้องการจะทำลาย


 นอกจากนี้ นายสนธิยังบอกอีกว่ามีนายตำรวจบางคนที่หน้าเหมือนผี ทำซีดีมาแจกจ่ายระบุว่าพันธมิตรฆ่าประชาชน มีการตัดต่อรูปแล้วบอกว่าเป็นคนที่ถูกพันธมิตรฆ่าตาย แถมยังออกหนังสือซึ่งตนมองว่าเป็นการพยายามดิ้นเฮือกสุดท้ายก่อนขึ้นสู่เชิงตะกอน และโดนเผา


 นายสนธิยังตำหนิการสำรวจโพลล์ของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบคโพลล์) ที่บอกว่า 42% อยากให้พันธมิตรจับมือ นปช.และ 26% อยากให้นายสนธิจับมือ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะที่ 92% อยากให้กฎหมายเป็นกฎหมาย ซึ่งโพลล์ผิด เพราะถ้าอยากเห็นกฎหมายเป็นกฎหมายจริง ต้องไม่อยากเห็นพันธมิตรจับมือ นปช. ไม่อยากเห็นสนธิจับมือทักษิณแน่นอน เป็นโพลล์ที่โกหก


พธม.แฉคลิปพาสาวเข้าโรงแรม


เวลา 21.35 น. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตร ขึ้นเวทีปราศรัย พร้อมแฉคลิปแอบถ่าย โดยบรรยายรายละเอียดระหว่างเปิดคลิปให้ผู้ชุมนุมฟังว่า คลิปดังกล่าวเผยแพร่ทางเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ โดยถ่ายไว้ได้เมื่อปี 2549 มีชายร่างเล็ก สวมแว่นตา เป็นอดีตข้าราชการที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายนักการเมืองระดับชาติในขณะนี้ ขับรถเบนซ์สปอร์ตสีแดง ไปรับผู้หญิงคนหนึ่ง รูปร่างเล็ก อายุประมาณ 20 ปี หน้าตาสะสวย ไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านถนนเพชรเกษม จากนั้นแวะซื้อผลไม้ข้างทางและมาส่งที่บ้านพัก ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นหญิงคนเดียวกับที่มีข่าวว่าผูกคอตายหรือไม่


ขณะเดียวกันยังเปิดเผยอีกหนึ่งคลิป ระบุว่าเป็นฉากที่สอง โดยระบุว่าบันทึกไว้เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2549 นักการเมืองคนดังกล่าวนั่งรถบีเอ็มดับเบิลยู น้ำตาล โดยภาพที่แอบถ่ายพบว่าขับพาหญิงสาวคนหนึ่งเข้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ค่อนข้างมืด มีม่านรูดปิด จากนั้นขับรถออกมาและลงทางด่วนแจ้งวัฒนะ แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปยังกระทรวงยุติธรรม สักครู่หนึ่งได้ขับรถออกมาอีกครั้ง เลี้ยวเข้าเมืองทองธานี พาหญิงคนดังกล่าวไปรับประทานอาหารที่ร้านเก็จแก้ว จากนั้นพาไปที่โฮมโปร แวะดูตู้เย็น ก่อนพากันกลับมายังกระทรวงยุติธรรมอีกครั้ง


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์