สนธิปัดโจรใต้เข้ากรุง ลุยส่งนศ.มุสลิมกลับบ้าน

วันนี้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยหลังจากมีกระแสข่าวคนร้ายจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เตรียมเข้ามาก่อเหตุในกรุงเทพฯ ช่วงวันที่ 13 -15 มี.ค. 2550 ที่ตรงกับวันสถาปนากลุ่มบีอาร์เอ็นว่า

ในส่วนที่ดูแลงานด้านความมั่นคงยังไม่ได้รับรายงาน ข่าวที่ออกมาเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของมาตรการระวังป้องกัน พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ประสานงานกับตำรวจและฝ่ายปกครองเพื่อดูแลเป็นพิเศษแล้ว

พล.อ.สนธิ กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง "พลังเยาวชนกับการเสริมสร้างความรัก ความสามัคคีและความสันติสุขของสังคม" ในโอกาสเป็นประธานพิธีเปิดโครงการ "กลับบ้านเรา รักรออยู่" ตอนหนึ่งว่า

ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (ผอ.รมน.) จะดำเนินการสุดความสามารถเพื่อให้เหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ยุติลง ปัญหาในขณะนี้ ยังมีความน่าเป็นห่วง แต่หากได้พบปะพูดคุยกันมากขึ้นจะทำให้ทุกฝ่ายเกิดความเข้าใจ

โดยโครงการ กลับบ้านเรา รักรออยู่เป็นโครงการที่เยาวชนให้ความสำคัญในการรับรู้รับทราบต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านเรา ทั้งเรื่องศาสนา วัฒนธรรม เทคโนโลยีและสังคม

"ต้องพยายามทำให้สังคมเกิดความเท่าเทียมกัน แก้ปัญหาความแตกต่างทางสังคมอันจะนำไปสู่การแตกแยกทางความคิด เยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้นำเอาประสบการณ์ที่ได้รับในครั้งนี้ ไปพูดคุย แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับครอบครัวและคนในพื้นที่

หากทุกฝ่ายยอมรับการเปลี่ยนแปลงได้ก็ลดปัญหาความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้น ที่ผ่านมา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้จัดกิจกรรมต่างๆ โดยนำนักศึกษาใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้ามาอยู่ในกรุงเทพมหานครกับครอบครัวอุปถัมภ์ เพื่อให้ได้เห็นสังคมการอยู่ร่วมกันและมีความรู้สึกว่า แม้สังคมมุสลิมภาคกลางจะแตกต่างกับสังคมมุสลิมภาคใต้ แต่ผู้นำมุสลิมภาคกลางก็มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน

รวมทั้งนักศึกษาที่ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จะได้นำเอาประสบการณ์ไปพัฒนาในพื้นที่บ้านเกิดของตัวเอง สร้างสังคมให้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข" ประธาน คมช. กล่าว

การมาเรียนในที่แห่งนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่มุสลิมในประเทศไทยที่มาจากหลากหลายและแตกต่างกันทางสังคมสามารถอยู่ร่วมกันได้ อย่างไรก็ตาม ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบรัฐบาลต้องเป็นเจ้าภาพในการทำงาน และ

พยายามนำวัฒนธรรมแบบเดิม คือ วัฒนธรรมที่ไม่ใช้ความรุนแรงมาใช้ โดยยืนยันว่า ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกันแล้วอีกไม่นานเกินรอความสุขก็จะกลับคืนมา ดังนั้น จึงขอให้ทุกคนตั้งมั่นและจงรักภักดีต่อบ้านเกิด มีความรัก ความจริงใจและเอื้ออาทร อันนำไปสู่สังคมแห่งความรัก

สำหรับโครงการ "กลับบ้านเรา รักรออยู่" เป็นการนำนักศึกษามุสลิมจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เดินทางมาศึกษาต่อในกรุงเทพฯ จาก 20 สถาบันการศึกษา มาเข้าร่วมกิจกรรมอบรมจริยธรรมก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านในช่วงปิดเทอม

โดยกิจกรรมที่จัดให้กับเยาวชนครั้งนี้ เน้นความพอเพียง ความรัก ความสามัคคี มีวินัยและความรู้ความเข้าใจในหลักการของศาสนาและอุดมการณ์รักชาติ ที่จะก่อประโยชน์ต่อการสร้างความสำเร็จในการฟื้นฟูพลังประชาชนอันสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล

จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ