สนธิ จี้ คตส.เช็กบิลคดีทุจริต

"ปรับการทำงานเชิกรุก"


กรณีที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เริ่มปรับแนวทางการทำงานเป็นเชิงรุกมากขึ้น เพื่อให้ ประชาชนมองเห็นเหตุผลในการยึดอำนาจอย่างเป็นรูปธรรมนั้น ล่าสุด พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในฐานะประธาน คมช. ได้เรียกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เข้าพบ เพื่อเร่งรัดความคืบหน้าในการตรวจสอบเรื่องทุจริตในรัฐบาลชุดก่อน ขณะที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เสนอความเห็นว่า คตส.ควรจะเร่งสรุปสำนวนคดีจัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ และกรณีการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป เพื่อส่งฟ้องศาลภายใน 2 เดือน

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 1 พ.ย. ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เชิญคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เข้าพบ เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่บ้านรับรองเกษะโกมล เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าในการทำงานในช่วงที่ว่าเชิญคตส.มาสอบถามว่ามีอุปสรรคในการทำงานหรือไม่ อย่างไร และมีความคืบหน้าไปมากน้อยแค่ไหน รายละเอียดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ในขั้นต้นขอเรียนว่ามีความคืบหน้าไปมาก แต่รายละเอียดการดำเนินการในแต่ละโครงการที่พบ ข้อมูลที่จะนำไปสู่การดำเนินการทางคดียังไม่สมบูรณ์ จึงต้องพยายามรวบรวมข้อมูลข่าวสารให้ละเอียดมากขึ้น

คตส.ครวญคนน้อยกว่างาน


ผู้สื่อข่าวถามว่า คตส.ได้ระบุถึงอุปสรรคในการหาข้อมูลเพื่อนำไปสู่การดำเนินหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ที่ผ่านมาเป็นช่วงของการเขียนหลักการตามหลักในการปฏิบัติ เพราะฉะนั้น ปัญหาที่ผ่านมาขึ้นอยู่กับจำนวนคนของ คตส. ที่ตั้งไปเพียง 11 คน ซึ่งคนน้อยกว่างาน ฉะนั้นก่อนที่จะกำหนดแนวความคิดที่จะหาคณะทำงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็อยู่ในห้วงเวลาที่ผ่านมา คมช.เพิ่งมอบให้ทำเพียง 2 สัปดาห์เศษ ทั้งนี้ เชื่อว่าทุกคนที่เป็นเจ้าหน้าที่ คตส. มีความมุ่งมั่นและตั้งใจ ขอให้ทุกคนสบายใจกับการทำงานของ คมช. ส่วนอุปสรรคเรื่องการไม่ให้ความร่วมมือในส่วนนี้ ไม่มีปัญหา คมช. และรัฐบาลจะต้องเข้าไปสนับสนุนอย่างเต็มที่

ต่อข้อถามว่า คตส.ได้ขอความร่วมมือจาก คมช. เพิ่มเติมหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ยัง ทุกอย่างยังไม่มีปัญหา คตส.ยังสามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้ เมื่อถามว่า คตส.ได้บอกหรือไม่ว่ามีคดีใดที่สามารถดำเนินการได้ พล.อ.สนธิกล่าวว่า คดีที่ คตส.หยิบมาถือเป็นคดีที่สำคัญ และได้มองเห็นความไม่เรียบร้อยของแต่ละคดี ขอให้เป็นหน้าที่ของส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ชี้แจงเอง

เตรียมแถลงผลสอบชุดแรก


พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. และรองประธานคมช. กล่าวถึงกรณี พล.อ.สนธิเชิญ คตส.ไปหารือเพื่อเร่งรัดการทำงานว่า เป็นการพูดคุยกันธรรมดา ไม่ได้เร่งการทำงานของ คตส. แต่จะประชาสัมพันธ์ข้อมูลและผลงานให้เป็นที่รับทราบของประชาชนมากขึ้น ภายในไม่กี่วันจะได้ทราบผลงานชุดแรกที่ออกมา ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ามีคดีที่คืบหน้าแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิตตอบว่า เริ่มมี แต่จำไม่ได้ว่าเป็นคดีใดบ้าง แต่เกี่ยวข้องกับเหตุผล 4 ข้อ ที่คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ยึดอำนาจ ในเรื่องการทุจริตต่างๆ เป็นเรื่องที่มีหลักฐาน กฎหมายสามารถดำเนินการได้ เราต้องรีบทำ ยืนยันว่าไม่มีอะไรหนักใจ

แก้วสรร ปลื้มได้ ตร.มือดีช่วยงาน


ด้านนายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการ คตส. กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช. จะตั้งกรรมการ คตส.เพิ่ม ว่า ไม่ทราบ แต่ถือว่าดี จะได้หยิบโครงการทุจริตมาสอบเพิ่มได้อีก อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาได้ประสานขอความร่วมมือจาก คมช. ผ่าน พล.ต.อ. โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดี โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่มือดีชั้นสัญญาบัตรทั้งด้านการสืบสวนสอบสวนมาช่วยงาน 15 คน แต่การเร่งรัดงานให้เร็วนั้น อยู่ที่พยานหลักฐาน หากซับซ้อนก็ใช้เวลานาน ต้องเข้าใจว่า คตส.ไม่มีอำนาจมากมาย ผู้มีอำนาจที่แท้จริงคือ คปค. หากต้องการให้เร่งดำเนินการอะไร ก็ต้องปฏิบัติตามเพื่อให้งานเดินหน้า

เตรียมออกระเบียบค่าตอบแทน


นายแก้วสรรยังกล่าวถึงความคืบหน้าการร่างระเบียบงบประมาณในการใช้จ่ายของ คตส. ว่า ได้ดำเนินการเสร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือจะพิจารณาให้เสร็จในการประชุมวันที่ 6 พ.ย. โดยค่าตอบแทนของกรรมการคตส.ทั้ง 11 คน กรมบัญชีกลางจะเป็นผู้กำหนดอัตราค่าตอบแทนให้ เบื้องต้นกำหนดฐานะของ คตส. เทียบเท่าป.ป.ช. เฉลี่ยคือ 108,000 บาทต่อเดือน ส่วนผู้ช่วยได้รับค่าตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 12,000 บาทต่อเดือน ทำงานก็ต้องใจถึงหน่อย ยืมคนเขามาทำงาน เหนื่อยก็เหนื่อย บางเรื่องทำหามรุ่งหามค่ำ ก็ต้องให้ค่าเหนื่อยบ้าง ไหนจะเสี่ยงตายอีก จะให้แค่ 6-7 พันบาท ก็เป็นไปไม่ได้

ธปท.ยันขายที่ หญิงอ้อ ถูก กม.


นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายเสถียรภาพสถาบันการเงิน กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อจาก คตส. และ ป.ป.ช. เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อที่ดินถนนรัชดาภิเษกของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเรื่องการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย แต่ ธปท.พร้อมให้ความร่วมมืออยู่แล้ว

นางสว่างจิตต์ จัยวัฒน์ รองผู้ว่าการ ธปท. ด้านบริหาร ในฐานะอดีตผู้จัดการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน กล่าวว่า คตส.คงเรียกไปชี้แจงปัญหาการขายที่ดิน 33 ไร่ ให้คุณหญิงพจมานในเร็วๆนี้ ซึ่ง ธปท.พร้อมชี้แจงอยู่แล้ว เพราะกองทุนฟื้นฟูฯทำทุกอย่างถูกต้องตามขั้นตอน ไม่ได้ทำอย่างเร่งรัดหรือมีปัญหาตุกติก ยืนยันว่าการขายที่ดินแปลงดังกล่าวไม่ขัดกฎหมาย ป.ป.ช. ก่อนที่จะขายก็ได้ปรึกษากับ ป.ป.ช. ส่วนการเพิ่มค่ามัดจำการประมูลจาก 10,000 บาท เป็น 100 ล้านบาท ก็เพื่อให้แน่ใจว่ามีคนสนใจประมูลจริง ไม่ใช่เข้ามาเยอะๆ แต่พอจะประมูลจริงก็หายและแม้จะเพิ่มค่ามัดจำก็มีผู้เข้าร่วมประมูลถึง 3 ราย ซึ่งคุณหญิงพจมานได้ไปในราคาสูงสุด และเป็นราคาที่สูงกว่าราคาประเมิน

ป.ป.ช.เตรียมเข้าพบ สนธิ


นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธานคมช. ได้เชิญกรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน ไปรับประทานอาหารร่วมกันในวันที่ 2 พ.ย. โดยแจ้งว่าเป็นการเชิญเพื่อไปพูดคุยทำความรู้จักกันระหว่าง คมช.กับกรรมการ ป.ป.ช. แต่จะไม่มีการรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการทุจริตต่างๆที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ป.ป.ช. อย่างไร ก็ตาม หลังจากกลับมาจากรับประทานอาหารแล้ว ในช่วงบ่าย ป.ป.ช.จะแถลงข่าวผลการทำงานในรอบ 1 เดือน


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์