สธ.สั่งซื้อชุดทดสอบ “อีโบล่า” เผย ตายแล้ว 1,065 ราย

สธ.สั่งซื้อชุดทดสอบ “อีโบล่า”  เผย ตายแล้ว 1,065 ราย


สธ.สั่งซื้อชุดทดสอบ “อีโบล่า” รู้ผลเร็วใน 8 ชั่วโมง เผย ตายแล้ว 1,065 ราย

วันที่ 16 ส.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) น.พ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. ให้สัมภาษณ์ว่าวันนี้กระทรวงสาธารณสุขได้สรุปการเตรียมการรองรับการแพร่ระบาดของโรคไวรัสอีโบล่าให้แก่ที่ปรึกษาหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิยา โดยมีข้อสรุปใน  2 มาตรการใหญ่ คือ 1.มาตรการการตรวจสอบ คัดกรองผู้ที่เสี่ยงจากพื้นที่ระบาดที่จะเข้ามาในประเทศ  ดำเนินการที่ท่าอากาศยาน 5 แห่งคือสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ตและหาดใหญ่ และท่าเรือ17 แห่ง รวมทั้งในชุมชน โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอาสาสมัครสาธารณสุข  และ2.การเตรียมรับสถานการณ์ภายในประเทศ เตรียมพร้อมสถานพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยในวันนี้ได้มีการจำลองฉากทัศน์ต่างๆ ถ้ามีเหตุการณ์ เช่นยังไม่พบผู้ป่วยไวรัสอีโบล่าในประเทศ หรือพบผู้สงสัยเดินทางมาจากพื้นที่ระบาดกระทรวงสาธารณสุขจะเตรียมการอย่างไร

นอกจากนี้ ได้เตรียมความพร้อมของห้องปฏิบัติการที่จะใช้วินิจฉัยโรคว่าเป็นหรือไม่ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้เตรียมพร้อมการตรวจการติดเชื้อที่ทราบผลได้ใน 8ชั่วโมง โดยได้สั่งซื้อชุดทดสอบเชื้อโรคจาก 3 ประเทศคือเยอรมัน จีน และญี่ปุ่นจำนวน 300 ชุด จะนำเข้ามาใช้ได้ภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งชุดทดสอบนี้มีความแม่นยำประมาณ90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งช่วยให้แนวทางการควบคุมโรคเป็นไปอย่างรวดเร็ว ส่วนเรื่องมาตรฐานการรักษาพยาบาลการดูแลผู้ป่วย กรมการแพทย์ได้เตรียมพร้อมโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วด้านการสื่อสารกับประชาชน เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครสาธารณสุข มอบให้ น.พ.วชิระเพ็งจันทร์ รองปลัดสธ.เป็นผู้ดำเนินการ สื่อสารเพื่อไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนกส่วนในภาพรวมการดำเนินงานกรมควบคุมโรคมีการประชุมวอร์รูมติดตามสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิดกับองค์กรต่างประเทศทุกวันและมีวอร์รูมระดับกระทรวงสาธารณสุขประชุมทุกสัปดาห์เพื่อปรับแผนรับสถานการณ์ได้รวดเร็ว

“  สำหรับสถานการณ์ของโรคไวรัสอีโบล่าข้อมูลถึงวันที่ 13 ส.ค. 57 พบผู้ป่วย 1,995 ราย เสียชีวิต 1,065 ราย ใน 3 ประเทศกับ 1 เมืองคือ ได้แก่  กินีเชียร์ล่าลีโอน ไลบีเรีย  และเมืองลากอสของไนจีเรีย ยืนยันประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำต่อโรคนี้  ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ที่สำคัญโรคนี้ติดต่อได้ยาก เชื้อโรคอยู่ในเลือด และสารคัดหลั่งการติดต่อต้องสัมผัสเชื้อเข้าทางบาดแผล หรือกระเด็นเข้าตา ไม่ติดต่อทางอาหาร น้ำดื่ม อากาศ  ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้วางระบบการคัดกรองเฝ้าระวัง การป้องกันโรค ตลอดจนการตรวจทางห้องปฏิบัติการตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ”  น.พ.ณรงค์ กล่าว


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์