สดศรีฉุนข่าวรั่ว เล็งรื้ออนุกกต.ปมเงิน258ล้าน ลงมติปชป.รอด ประชาธิปัตย์ออกตัวไม่มีสัมพันธ์5เสือ

"สดศรี" ฉุนข่าวรั่วเล็งรื้ออนุกกต.กรณีมีมติ 3 ต่อ 2 พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นเงิน 258 ล้านบาท ยันไม่มีผลต่อการวินิจฉัยกรรมการชุดใหญ่ ปชป.ออกตัวไม่มีสัมพันธ์ 5 เสือ พร้อมรับคำตัดสิน

"สดศรี" ฉุนข่าวรั่วเล็งรื้ออนุกกต.


คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมทบทวนการทำงานของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยทุกชุด หลังเกิดข่าวรั่วบ่อยครั้ง ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า อนุกรรมการวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนและคัดค้านการเลือกตั้งคณะที่ 10 มีมติ 3 ต่อ 2 ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นเงิน 258 ล้านบาท ที่บริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) ว่าจ้างบริษัท เมซไซอะ บิซิเนส แอนด์ครีเอชั่น จำกัด ทำประชาสัมพันธ์ แต่กลับนำเงินไปให้แกนนำพรรคประชาธิปัตย์บางคน โดยเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับพรรค จึงไม่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง


ทั้งนี้ นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ว่า ช่วงต้นเดือนหน้า จะสั่งทบทวนการทำงานของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยทุกชุดว่า มีการกระทำที่ถูกต้องตามระเบียบของ กกต.หรือไม่ เพราะขณะนี้ก็มีข่าวรั่วไหลหลายครั้ง หากพบว่ามีความผิดพลาดก็จะต้องมีเกิดความเปลี่ยนแปลง และยังสงสัยว่าเมื่อประชุม กกต.เพียงแค่ 5 คนแล้วทำไมสื่อถึงทราบเรื่องด้วย อาจเป็นไปได้ว่าจะมีเครื่องดักฟังหรือไม่ ถือเป็นเรื่องอันตรายมากที่ความลับรั่วไหลออกมา และอาจประสานให้เจ้าหน้าที่มาตรวจดูในห้องประชุมด้วย


ยันปม258ล้านไม่มีผลต่อ5เสือ


"มติของอนุกรรมการเรื่องปมเงิน 258 ล้านบาท ไม่มีผลต่อการตัดสินใจของ กกต.ทั้ง 5 คน ไม่ถือเป็นการผูกมัดให้ กกต.ต้องตัดสินตาม เห็นได้จากกรณีที่การตัดสินคดี 16 ส.ว.ถือหุ้นสื่อและสัมปทานรัฐ ที่ กกต.มีความเห็นต่างจากอนุกรรมการ และคิดว่าข่าวที่ออกมาก็เพื่อกดดัน กกต." นางสดศรีกล่าว และว่า ได้เคยหารือกับ กกต.ในที่ประชุมว่า ควรจะมีการปรับคณะอนุกรรมการไต่สวนใหม่หรือไม่ เพราะจากการตรวจสอบก็พบว่า ในอนุกรรมการ 15 ชุด มีบางคนเป็นสมาชิกพรรคการเมืองทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ดังนั้น ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีที่นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น ที่เข้ามาทำหน้าที่ใหม่ กกต.น่าจะได้มีการปรับเปลี่ยนอนุกรรมการกันใหม่ โดยได้มีการพูดคุยกันมาได้ประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว และเร็วๆ นี้น่าจะดำเนินการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกันใหม่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างที่ให้ กกต.แต่ละคนไปหารายชื่อมาคนละ 20 รายชื่อ 


ปชป.ออกตัวไม่มีสัมพันธ์กกต.


นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีมีกระแสข่าวว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนของ กกต. มีมติ 3 ต่อ 2 เสียง ให้ยกคำร้องเงินบริจาคของบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) 258 ล้านบาทให้กับพรรคประชาธิปัตย์ไม่ผิดกฎหมายเลือกตั้งนั้น ถือเป็นขั้นตอนเบื้องต้นของการสอบสวน อย่างไรก็ดี ต้องรอการพิจารณาของ กกต.ใหญ่ 5 คนก่อนว่าจะตัดสินอย่างไร แต่พรรคเชื่อมั่นคนของพรรคที่ไปให้ข้อมูลกับ กกต. รวมถึงเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม และการตัดสินของ กกต.มาตลอด ไม่ว่าคำวินิจฉัยจะออกมาอย่างไรพรรคจะยอมรับ


"กลุ่มที่อยากเห็นพรรคประชาธิปัตย์โดนยุบนั้น ก็อยากขอให้ความเป็นธรรมกับพรรคด้วย อย่ามีอคติ ไม่อยากให้โยงความเคลื่อนไหวว่า พรรคมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ กกต.หรือมีพลังแฝงมากช่วย ทำให้พรรครอดพ้นความผิดมาได้ และไม่อยากให้นำเรื่องนี้มาเป็นเรื่องการเมือง"  นายเทพไทกล่าว


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์