ส.ส.ทรท.ชี้ แม้ว ไปไม่รอด-จี้ลาออกฝ่าวิกฤต

ส.ส.ทรท.ชี้ แม้ว ไปไม่รอด-จี้ลาออกฝ่าวิกฤต

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 21 กุมภาพันธ์ 2549 09:37 น.

ส.ส.ทรท.ใจถึง แนะ ทักษิณ - ครม.ผ่ากระแสวิกฤต ประกาศลาออก พร้อมตั้ง หมอเลี้ยบ นั่งนายกฯ สำรอง ส่วนคณะทำงานด้านการเมืองพรรคเตรียมหารือรับมือชุมนุม 26 ก.พ. ขณะที่ สุธรรม แสงประทุม ยังเชื่อ จำลอง เป็นพวกเดียวกัน ด้านเลขาฯสภาพัฒน์ เป็นห่วงหากยืดเยื้อ ระบุนักลงทุนเริ่มลังเลรอดูสถานการณ์ทั้งหมดก่อน

วานนี้ (20 ก.พ.) นายสฤต สันติเมทนีดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย อดีตแกนนำพรรคพลังธรรม ที่ใกล้ชิดทั้ง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เสนอทางออกต่อวิกฤตการณ์ทางการเมืองขณะนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ควรลาออกจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ได้หมายความว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความผิดอย่างที่กล่าวหา แต่เป็นการเสียสละทางการเมืองครั้งยิ่งใหญ่ เพราะสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลอยู่ลำบาก โดยเฉพาะการที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ประธานกองทัพธรรม ประกาศจะเข้าร่วมชุมนุมขับไล่นายกฯ ในวันที่ 26 ก.พ.ก็ยิ่งน่าห่วง ขณะเดียวกัน กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ยืนยันจะไม่ถอยถ้าไม่ชนะ ทำให้สถานการณ์ของรัฐบาลเข้าจุดตีบตันไม่มีทางเลือกอย่างอื่นนอกจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออกสถานเดียว

นายสฤต กล่าวว่า ถ้าฝ่ายม็อบขับไล่ และรัฐบาลต่างไม่ยอมลดละต่อกันก็ไม่มีใครช่วยอะไรได้ นอกจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์เดียวที่เชื่อว่าทรงทราบปัญหานี้ดี ความขัดแย้งวันนี้เปรียบเสมือนเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเข้ามายุติปัญหาโดยเรียก พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกฯ และ พล.ต.จำลอง ผู้นำม็อบมาสงบศึก ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีผู้ใหญ่ของบ้านเมืองมายุติศึก ประเทศชาติก็จะขาดความปรองดอง และเหตุการณ์จะบานปลายมากกว่านี้

นายสฤต กล่าวต่อว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ เสียสละเพื่อบ้านเมืองยอมลาออก ก็ต้องโละคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันด้วย เนื่องจากหลายคนถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีภาพไม่โปร่งใส มีชนักติดหลังจากปัญหาทุจริต ตั้งแต่ซีทีเอ็กซ์ คลองด่าน ส่วนคนที่จะเป็นนายกฯ แทนนั้น ตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องมาจาก ส.ส. ซึ่งส่วนตัวมองว่า นายกฯ มีตัวเลือกมากมาย ไม่ว่านายโภคิน พลกุล นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา แต่คนที่เหมาะสมที่สุด คือ นพ.สุรพงษ์ เพราะเป็นนักการเมืองหนุ่มรุ่นใหม่ เคยลงสมัคร ส.ส.พรรคพลังธรรม มาก่อน ชี้แจงประเด็นต่างๆ ได้ดี ส่วนนายโภคินติดข้อกล่าวหาเรื่องทุจริตรถดับเพลิง ขณะที่นายพงศ์เทพแม้จะมีภาพดีแต่ไม่มีลักษณะความเป็นผู้นำ

ถ้านายกฯ ออกก็ต้องออกทั้งหมด เป็นการแสดงสปิริตเสียสละเพื่อบ้านเมืองร่วมกัน เปลี่ยนทีมเอ เป็นทีมบี ท่านนายกฯ และรัฐมนตรีก็อยู่เบื้องหลัง พัฒนาพรรคให้เป็นสถาบันตามเจตนารมณ์ของท่าน วิธีนี้ไทยรักไทยก็อยู่ได้ และท่านก็อยู่ข้างหลังช่วย นพ.สุรพงษ์ เป็นนายกฯ แค่ชั่วคราว 3 ปีนี้เท่านั้น หลังจากนั้นถ้าสถานการณ์คลี่คลาย ท่านทักษิณก็กลับมาเป็นนายกฯ ใหม่ได้ เรื่องนี้ผมไม่ให้อยากมองว่าการลาออกเป็นการเสียเหลี่ยม หรือเสียศักดิ์ศรี อดีตแกนนำพรรคพลังธรรม กล่าว

นายสฤต กล่าวว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ เลือกวิธียุบสภาไม่เป็นผลดีแน่ เพราะเชื่อว่า สถานการณ์วันนี้ไม่มีทางที่พรรคไทยรักไทยจะได้เสียงมากถึง 300 เสียง และคงไม่มีคนลงให้ถึง 19 ล้านเสียง คะแนนจะต้องลดอย่างฮวบฮาบแน่

อดีตแกนนำพรรคพลังธรรม กล่าวว่า พรรคไทยรักไทยเสียท่าตั้งแต่ผลัก พล.ต.จำลอง ซึ่งเป็นมหามิตร ไปเป็นศัตรู ไม่รู้ว่าทำได้อย่างไร ที่เป็นเช่นนี้เพราะคนรอบตัวนายกฯ ให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง ซึ่งคนที่รู้จัก พล.ต.จำลอง จะเข้าใจดีว่าการออกมาของ พล.ต.จำลอง แต่ละครั้งเป็นเรื่องของความบริสุทธิ์ใจ ส.ส.พรรคไทยรักไทย ที่ออกมาเย้วๆ ด่า พล.ต.จำลอง จึงไม่ใช่พวกพลังธรรมแท้ อย่างไรก็ตาม วิธีแก้ของรัฐบาลที่จะให้มีการประชุมรัฐสภาเพื่อชี้ปัญหาบ้านเมืองนั้น คงช้าไปแล้ว ความจริงน่าจะทำตั้งแต่ช่วงที่เปิดประชุมวิสามัญเมื่อปลายเดือนที่แล้ว

ผมหนักใจจริงๆ ที่มีการสร้างกระแสให้ร้ายรัฐบาล โดยเฉพาะที่บอกว่า นายกฯ ไม่เสียภาษีจากการขายหุ้น 73,000 ล้านบาท โดยมีการนำประเด็นกรมสรรพากรไปเก็บภาษีถึงขั้นนับชามก๋วยเตี๋ยวเอามาเปรียบกัน ผมฟังก็ยังโกรธเลย เพราะมันเปรียบกันไม่ได้ ผมยืนยันว่าเท่าที่สัมผัสท่านทักษิณ ตั้งแต่ร่วมงานสมัยพรรคพลังธรรม ท่านเป็นคนมีจริยธรรม และคุณธรรมสูง แต่รัฐบาลอาจมาพลาดท่าที่ปล่อยนายสมัคร (สุนทรเวช) ออกมาว่าประธานองคมนตรี จนเมื่อมีกระแสเรียกร้องให้ขอโทษ รัฐบาลก็ยังนิ่งเฉย ทำให้ประชาชนคิดว่ารัฐบาลอยู่เบื้องหลัง เรื่องนี้ท่านทักษิณไม่ควรเฉย ควรกดดันให้นายสมัครขอโทษ นายสฤต กล่าว

นายสฤต ยังกล่าวว่า สิ่งที่น่าห่วงอีกเรื่อง คือ หลังจากที่ตนเดินทางไปอเมริกาในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ พบว่ากระแสคัดค้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ในหมู่ชาวไทยในอเมริกาที่อยู่ตามรัฐต่างๆ เช่น นิวยอร์ก ลอสแองเจลิส วอชิงตัน ดี.ซี. รุนแรงมาก เพราะคนที่นั่นติดตามการถ่ายทอดสดการชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ผ่าน ASTV ตลอด แม้จะอยู่ในช่วงเวลาตี 3 ก็ตาม แต่เขานัดไปฟังกันที่วัดไทยถึงรุ่งเช้าจนจบ มีการจุดเทียนร่วมกับผู้ชุมนุมที่ลานพระรูปด้วย

นอกจากนี้ รายงานข่าวจากพรรคไทยรักไทย แจ้งว่า ในวันพรุ่งนี้ (21 ก.พ.) เวลา 13.00 น.แกนนำพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นคณะทำงานติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมือง พรรคไทยรักไทย อาทิ นายวีระ มุสิกพงศ์ กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายสุธรรม แสงประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ นายวิวรรธนชัย ณ กาฬสินธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วย ส.ส.ไทยรักไทยจำนวนหนึ่ง จะหารือกันเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง ที่พรรคไทยรักไทย เป็นการภายใน โดยเฉพาะกรณีการประกาศชุมนุมในวันที่ 26 ก.พ.ของเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

โดย นายสุธรรม กล่าวว่า สบายใจขึ้นหลังจากทราบว่าในการชุมนุมวันที่ 26 ก.พ.จะมี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อดีตหัวหน้าพรรคพลังธรรม และอดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ มาร่วมเป็นแกนนำในการชุมนุม และถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเพราะ พล.ต.จำลอง เป็นพวกเดียวกับเรา และสมาชิกในพรรคไทยรักไทยหลายคนก็คบค้าสมาคมกับ พล.ต.จำลอง มานาน น่าจะพูดคุยกันได้ อะไรที่ไม่เข้าใจกันก็สามารถปรับความเข้าใจกันได้ง่าย มีอะไรไม่เข้าใจก็พูดคุยกัน รวมทั้ง พล.ต.จำลอง ก็เป็นบุคคลที่ถือศีล 5 ไม่นิยมความรุนแรง ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่ยอมให้มีการใช้ความรุนแรงอย่างแน่นอน และรัฐบาลนี้ก็ไม่ยอมให้มีการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมอย่างแน่นอน

ด้าน นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) กล่าวถึงการที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ประธานกองทัพธรรมมูลนิธิ แสดงตัวจะเป็นหนึ่งในผู้ชุมนุมขับไล่ให้นายกรัฐมนตรีลาออก จะมีผลกระทบกับภาวะเศรษฐกิจและสังคมของไทยอย่างไรว่า วันนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ตกไปกว่า 10 จุด ทำให้กลุ่มนักลงทุนต่างชาติเทขาย โดยทั้งหมดเป็นเงินดอลลาร์ และกลุ่มนักลงทุนต่างชาติก็นำเงินกลับ

กลุ่มนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน เขาก็คิดในเรื่องของกำไร เมื่อมีการชุมนุมอยากจะให้เปลี่ยนแปลงกติกา และที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติเขาก็จะต้องคำนวณผลกำไรก่อนที่เข้ามาลงทุน โดยเฉพาะการวิจัยต่างๆ ดังนั้น การที่นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนส่วนหนึ่งเขาก็คงไม่เข้าใจวัฒนธรรมของไทย โดยเฉพาะเรื่องของจริยธรรมทางธุรกิจ นึกถึงผลประโยชน์เป็นหลัก แต่ต้องการผลกำไรมากที่สุด นายอำพน กล่าว

นายอำพน กล่าวว่า ในเรื่องความมั่นใจของนักลงทุนต่างประเทศหากมีการชุมนุมที่ยืดเยื้อ นักลงทุนต่างชาติก็คงจะมีความกังวล และเก็บเงินไว้เพื่อรอท่าที

รายงานข่าวยังแจ้งว่า มีการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการในระดับเจ้าหน้าที่ของฝรั่งเศสก่อนช่วงที่นายฌากส์ ชีรัก ประธานาธิบดีประเทศฝรั่งเศส จะเดินทางมาเยือนประเทศไทยว่า ได้รับทราบสถานการณ์การชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสแสดงความตกใจไม่เชื่อว่าเหตุการณ์จะบานปลายมาถึงขั้นนี้

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์