ศิริโชคงานเข้า เทือกบี้ ส่งข้อมูลเซ็งลี้

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (13 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง

ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า มีการซื้อขายตำแหน่งระดับนายพัน โดยเฉพาะในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ว่า ตนได้ร่างหนังสือเพื่อส่งถึง นายศิริโชค เป็นทางการว่าให้นายศิริโชค ส่งเอกสารหลักฐาน และพยาน ที่เห็นว่า มีการซื้อขายตำแหน่งอย่างที่นายศิริโชคได้พูดกับสื่อ เพื่อตนจะได้นำมาเป็นหลักฐานประกอบการสืบสวนสอบสวน เพราะปล่อยให้มีการซื้อขายตำแหน่งกันอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้านายศิริโชคมีหลักฐานเอกสารต้องส่งให้เรา เราจะได้ดำเนินการ ส่วนที่นายศิริโชคระบุจะส่งเอกสารหลักฐานไปให้คณะกรรมาธิการตำรวจของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อดำเนินการด้วยนั้นก็ไม่เป็นไรเป็นเรื่องของนายศิริโชค แต่ตนจะทำหนังสือไป

นายสุเทพ กล่าวว่า ในการประชุม ก.ตร. วันเดียวกันนี้ ตนจะปรึกษากับคณะกรรมการ ก.ตร. เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

กรณีข้อกล่าวหาการซื้อขายตำแหน่งใน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ด้วย เพราะในการประชุมคณะกรรมการ ก.ตร.เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ในฐานะกรรมการก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้บอกว่าต้องดำเนินการเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่างชัด เพื่อปกป้องรักษาศักดิ์ศรีของคนดี ๆ เพราะตำรวจมีอยู่ถึง 2-3 แสนคน ถ้าไปพูดกันอย่างนี้ ตำรวจดี ๆ จะเสียกำลังใจ ส่วนใครที่วิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งจริง ๆ ก็ต้องสอบสวนเอามาดำเนินการ ทั้งนี้ตนจะสอบถาม ก.ตร.ว่ากรรมการสอบสวนควรจะมีใครบ้าง และควรใช้เวลาสอบสวนนานเท่าไหร่ เพราะใน ก.ตร.มีผู้มีความรู้ ระบบงานของตำรวจดีอยู่หลายคน และเป็นผู้ใหญ่คงจะให้คำปรึกษาตนได้ ขณะนี้ยังไม่ได้มองว่าจะให้ใครเป็นประธานคณะกรรมการสอบสวน เรียนตรง ๆ ตนมาเป็นรองนายกรัฐมนตรีรับผิดชอบงานตำรวจ 7 เดือน รู้จักตำรวจน้อย

เมื่อถามว่า แสดงว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินเรื่องการซื้อขายตำแหน่งใน สตช. มีแต่นายศิริโชค ออกมาพูดเรื่องนี้คนเดียว นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่เคยได้ยินเลย
แต่เมื่อมีคนพูดเราต้องฟัง ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะท่านเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และนายศิริโชค เป็นลูกพรรคอยู่ในพรรคเดียวกัน ทำไมจึงไม่สอบถามด้วยปากเปล่า นายสุเทพ หันมายิ้มก่อนกล่าวว่า ตั้งแต่ที่นายศิริโชค ออกมาพูด ตนยังไม่เคยเจอหน้าก็พยายามหาตัวอยู่ แต่ตนทำหนังสือไปดีกว่า

ต่อข้อถามว่ามีการประเมินหรือไม่ว่าการออกมาปล่อยข่าวผ่านสื่อมีวัตถุประสงค์อะไร ที่นอกเหนือจากการที่จะบอกข้อเท็จจริง นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่พยายามจะมองอะไรในแง่ร้าย

แต่จะทำตามความเป็นจริงคือ เมื่อนายศิริโชคได้พูดจาอย่างนี้ถือว่ากล่าวหาคนในสตช. ถ้าจะกรุณาให้ความร่วมมือต้องบอกตน  "คนที่คุณศิริโชคกล่าวหานั้นชื่ออะไร ยศอะไร และคุณศิริโชคมีหลักฐานอะไร ก็ต้องบอก เพื่อผมจะได้สอบสวนได้ แต่เมื่อมาถึงขณะนี้แล้ว ถึงคุณศิริโชคจะไม่บอกผมก็ต้องสอบสวนอยู่ดี” นายสุเทพ กล่าว


ผู้สื่อข่าวถามว่า คณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้น จะสอบทั้งข้อกล่าวหาจากฝ่ายนายศิริโชค และจะไปสอบข้อมูลก่อนหน้านี้ที่มีข้อกล่าวหาจากฝ่ายตำรวจว่ามีฝ่ายการเมืองคนใกล้ชิด นายกรัฐมนตรี ไปวิ่งเต้นฝากตำรวจ

เมื่อไม่ได้จึงเกิดความไม่พอใจด้วยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนั้นตนได้ยินแต่ข่าวเหมือนกัน กรณีที่กล่าวหาว่ามีการซื้อขายตำแหน่งใน สตช. ได้ชื่อคนกล่าวหาแล้วคือ นายศิริโชค แต่เราจะต้องหาผู้ที่ถูกกล่าวหา เพื่อจะสอบสวนได้ ส่วนที่มีข่าวว่า มีนักการเมืองไปวิ่งเต้นโยกย้ายตำรวจมันมีแต่ข่าว เป็นข่าวลือ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนกล่าวหา และนักการเมืองที่เขากล่าวหาไปวิ่งเต้น ตนไม่ทราบว่าชื่ออะไร แต่ถ้าสมมติว่ามีคนกล่าวหาเป็นใคร และผู้ถูกกล่าวหาเป็นใคร ตนก็จะได้ดำเนินการได้ เพราะข้อนี้มีกฎหมายอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า นายศิริโชค ระบุว่าได้เคยคุยถึงข้อมูลดังกล่าวกับนายกรัฐมนตรีบ้างแล้ว ในฐานะเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับ สตช.ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีบ้างหรือยัง นายสุเทพ กล่าวว่า “ผมไม่ค่อยได้อยู่ใกล้นายกรัฐมนตรีที่จะไปคุยเรื่องอะไรพรรค์อย่างนี้ ผมไม่ได้ไปอยู่ใกล้ที่จะไปคุนโน้น คุยนี้เล็ก ๆ น้อย ๆ อะไร เรื่องใหญ่ ๆ เท่านั้นที่ นายกรัฐมนตรีจะสั่งผม ผมก็รับหน้าที่ว่าท่านใช้ให้ผมทำอะไร มอบหมายให้ทำอะไร ผมก็ทำเรื่องเหล่านั้น"

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีระบุว่า ไม่อยากให้คนรอบข้างไปยุ่งกับเรื่องของตำรวจ นายกรัฐมนตรีกำกับเฉพาะเรื่องนโยบายจึงดูเหมือนว่า นายกรัฐมนตรีปรามแล้ว แต่นายศิริโชคไม่ฟังหรือไม่

นายสุเทพ กล่าวว่า ขอความกรุณาให้ถามนายกรัฐมนตรี ตนตอบแทนท่านไม่ได้ หลังจากที่มีข่าวออกมานายศิริโชค ก็ไม่เคยติดต่อมาที่ตน ตนพยายามหาตัวอยู่ 2 สัปดาห์ก็ไม่เจอ ไปประชุมพรรคไม่เจอ ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าคณะกรรมการตรวจสอบออกมาแล้วไม่เป็นไปตามข้อกล่าวหา นายศิริโชคต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า เอาเป็นว่า อย่าเพิ่งพูดอย่างนี้เลย ให้ตนได้ไปดำเนินการก่อนว่าผลจะเป็นอย่างไร หลักการของตนไม่อยากจะให้คนทะเลาะกัน และถ้าคนจะต้องทะเลาะกัน ก็ควรจะทะเลาะโดยยึดประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลักจึงคุ้มค่าที่จะทะเลาะกัน ไม่ใช่เอาเรื่องความพอใจหรือไม่พอใจส่วนตัวมาทะเลาะกัน อย่างนี้ตนไม่เข้าไปยุ่งด้วย แต่กรณีที่นายศิริโชคให้สัมภาษณ์สื่อ เข้าข่ายเป็นเรื่องส่วนรวม เราไม่ควรจะให้ใครมาซื้อขายตำแหน่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตนเป็นนักการเมืองมานาน เคยเป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง ข้าราชการทั้งที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม จะรู้จักตนดีว่าตนพยายามช่วยปกป้องข้าราชการ โดยเฉพาะข้าราชการดี ๆ ถ้าเขาได้รับการเลื่อนชั้น เลื่อนตำแหน่ง แล้วต้องเสียเงินอย่างนี้ตนยอมไม่ได้

เมื่อถามว่า การที่นายศิริโชค ออกมาพูดเรื่องนี้เป็นระยะๆ เป็นการเขี่ยบอลให้ดำเนินการต่อเข้าไปจัดการความโปร่งใสต่าง ๆใน สตช.ใช่หรือไม่

นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ดีแล้ว ถ้าพูดโดยเรียกร้องให้ไปตรวจสอบ ตนต้องไปตรวจสอบอยู่แล้ว เพราะมีคนออกมากล่าวหาอย่างชัดเจน แต่ถ้านายศิริโชค จะช่วยมันต้องระบุเป้าหมาย ตนไปสอบสวนตำรวจตั้ง 3 แสนคน ชาติหน้าคงสอบสวนไม่จบ

ต่อข้อถามว่าเรื่องนี้นายศิริโชคออกมาพูดเองหรือมีใบสั่งให้ นายศิริโชค ออกมาส่งสัญญาณ นายสุเทพ กล่าวว่า ทำไมสื่อไม่ไปถามนายศิริโชค ถ้าอย่างนั้นตนจะไปตอบแทนเขาได้อย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตกลงแล้วจะมีการเลื่อนการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายโผเล็กระดับรองผู้บังคับการ และสารวัตรลงมาออกไปให้มีผลวันที่ 1 ต.ค.เลยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนพยายามรักษามารยาทที่จะไม่พูดชี้นำ ก.ตร. ต้องรอดูผลภายหลังการประชุม ก.ตร.ในวันเดียวกันนี้ การทำงานบางอย่าง เช่น การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจไม่ใช่อำนาจของตน แต่เป็นอำนาจของ ก.ตร. ตนเป็นประธาน แต่จะไม่พูดชี้นำหรือพูดไปก่อนที่คณะกรรมการจะมีมติ ทั้งหมดไปว่ากันในที่ประชุม นั่นคือการเคารพต่อคณะกรรมการ

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์