ศิธา ลั่นฟ้อง ผู้จัดการ ฉุนพาดหัวข่าวแรง ร่วมโกงลำไย

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 เมษายน 2549 20:00 น.

ศิธา รับไม่ได้ ผู้จัดการ พาดหัวแรง ร่วมขบวนการโกงลำไย ขู่ฟ้องกลับ ยืนกรานไม่เคยเกี่ยวข้อง เชื่อ ต้องการทำลายล้างทางการเมือง ส่วน เครือข่ายลำไยภาคเหนือ แฉโดนโทรขู่ ดำเนินคดีตัวแทน บ.ชิโนคอมโบ ที่นำชื่อไปอ้าง พร้อมขอร้องช่วยแถลงแก้ข่าว

วันนี้ (26 เม.ย.) น.ต.ศิธา ทิวารี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดแถลงข่าวกรณี ผู้จัดการรายวัน ตีพิมพ์ข่าว ศิธา ร่วมขบวนการโกงลำไย ฉบับวันที่ 26 เม.ย.2549 ว่า เท่าอ่านจากเนื้อหาข่าวไม่มีอะไร แต่พาดหัวข่าวว่าร่วมโกง เป็นการกล่าวหาอย่างรุนแรง ทั้งที่เอกสารหลักฐานที่ทาง ผู้จัดการรายวัน นำลงตีพิมพ์นั้น ตามเนื้อหาเป็นเพียงการเร่งรัดให้ บ.ชิโนคอมโบ รีบส่งเอกสารหลักฐานมาแสดง แต่ไม่ใช่เอกสารรับรอง บ.ชิโนคอมโบ ตามที่เป็นข่าว

บริษัท ชิโนคอมโบ ส่งเอกสารมาให้ แล้วมาขอทำสัญญาจึงเป็นไปไม่ได้ ในฐานะหน่วยงานราชการก็ต้องกลั่นกรอง ว่า ครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ จึงให้ทางกองเกษตรต่างประเทศ ร่างหนังสือฉบับดังกล่าวขึ้น เพื่อขอให้ทาง บ.ชิโนคอมโบ ส่งเอกสารมาเพิ่มเติม น.ต.ศิธา กล่าว

ทั้งนี้ ถึงแม้เอกสารดังกล่าวจะเป็นการออกโดยกระทรวงเกษตรฯจริง แต่ไม่ได้หมายความว่าไปรับรองบริษัท ถ้าหากทางบริษัท ชิโนคอมโบ จะเอาหนังสือฉบับดังกล่าวไป ต้มตุ๋น หรือหลอกลวง เกษตรกร หรือ สถาบันเกษตรกร ก็เป็นเรื่องของบริษัทกับเกษตรกรนั้น ๆ ไม่ได้เกี่ยวกับตนเอง เพราะไม่ได้เป็นผู้รับรอง

การที่ผมทำเอกสารออกไปก่อน ทั้ง ๆ ที่กระทรวงเกษตรฯยังมีสัญญาอยู่กับ บ.ซีเอ็นอาร์ นั้น ก็เป็นเพราะว่า เราเห็นว่า บ.ซีเอ็นอาร์ ไม่เข้ามารับซื้อลำไยตามสัญญา ซื้อแค่ 1% ไม่น่าจะทัน ทาง บ.ชิโนคอมโบ จึงมาเสนอตัว จึงได้ติดต่อให้บริษัทส่งเอกสารหลักฐานให้ครบ เลขาฯรมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าว

นายศิธา กล่าวว่า การนำเสนอข่าวดังกล่าวทำให้ตนเองเสียหาย โดยที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการควรที่จะพิจารณาได้ว่าเอกสารดังกล่าวมีเนื้อความว่าอย่างไร จึงต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรม โดยจะฟ้องร้องต่อ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ส่วนค่าเสียหายจะพิจารณาอีกครั้ง นอกจากนี้ จะทำหนังสือร้องเรียนต่อสภาการหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เพื่อตรวจสอบจริยธรรมการทำหน้าที่สื่อของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ อีกทางหนึ่งด้วย เพราะถือว่าเป็นการประหัตประหารทางการเมืองมากกว่าการนำเสนอข่าวธรรมดา

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (27 เม.ย.) นายศิธา ได้มอบหมายให้ นายบรรพต หงษ์ทอง ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ชี้แจง กรณี บ.ชิโนคอมโบ ไม่สามารถส่งออกลำไยอบแห้งไปต่างประเทศได้ตามสัญญา

ด้าน นายจรัส ศุภศรี ประธานเครือข่ายชาวสวนลำไยภาคเหนือ ซึ่งถูก บ.ชิโนคอมโบ ยักยอกเงิน 40 ล้านบาท กล่าวว่า หลังจากที่เป็นข่าวออกไป น.ต.ศิธา ทิวารี โทรมาหา พร้อมกับเล่าให้ฟังว่าจะฟ้อง นายอุดม พุ่มไม้ทอง ตัวแทนบริษัท ชิโนคอมโบ ที่นำชื่อไปแอบอ้าง แต่ขอให้ตนเองช่วยมาที่กรุงเทพฯ ในวันนี้ เพื่อแถลงแก้ข่าวให้หน่อยว่าไม่ได้ร่วมในขบวนการโกงลำไย

โดยทางตนเองได้บอกกับ น.ต.ศิธา ไปว่า ในการเจรจากับ นายอุดม นั้น เขาพยายามเอาชื่อท่านมาแอบอ้าง แล้วยังเอาเอกสารมาแสดง บอกว่า ท่านศิธากำลังดำเนินเรื่องให้ และกำลังให้อัยการร่างสัญญาจัดจ้าง บ.ชิโนคอมโบ ตนเองก็หลงเชื่อว่า บ.ชิโนคอมโบ จะได้งานจากรัฐบาล จึงได้ทำสัญญากับ บ.ชิโนคอมโบ โดยวางเงินให้ 40 ล้านบาท หลังจากนั้น ก็ถูก นายอุดม เชิดเงินไป แต่ในการแถลงแก้ข่าวในครั้งนี้นั้น ทางฝ่าย นต.ศิธา จะต้องไปไล่บี้เอาเงิน 40 ล้านบาท จากนายอุดม มาให้ได้ก่อน ถ้าไม่อย่างนั้นก็จะไม่แถลงข่าวให้

นายจรัส เล่าย้อนหลังว่า สาเหตุที่ไว้วางใจว่า บ.ชิโนคอมโบ มีตัวตนจริง และได้รับงานจากรัฐบาลแน่นอนนั้น เป็นเพราะว่า ทางกระทรวงเกษตรฯ นำโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.เกษตรฯ ได้แถลงข่าวใหญ่โต เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2548 ว่า บริษัท ชิโนคอมโบ จะมารับงานจากกระทรวงเกษตรฯ แน่นอน และยังมี นายวรพจน์ วนาพิทักษ์ รอง ผอ.อ.ต.ก.มาประสานงานกับตนเองด้วย จึงได้หลงเชื่อทำธุรกิจกับบริษัทดังกล่าว

ต่อมาเมื่อมีปัญหา จึงได้ยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือต่อสภาทนายความ ให้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายคืน และได้มีโอกาสคุยกับ นายอุดม ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง นายอุดม บอกว่า ไม่มีเงินให้แล้ว เพราะได้เอาเงินดังกล่าวไปวิ่งเต้นกับทางกระทรวงหมดแล้ว เพื่อให้ได้ทำโครงการดังกล่าว นายจรัส กล่าว

ขณะเดียวกัน ตัวแทนสหกรณ์จำนวนหนึ่งจะเข้าพบคุณหญิงสุดารัตน์ด้วย เพื่อจี้รัฐบาลฟ้องร้อง บ.ชิโนคอมโบ สำหรับความเคลื่อนไหวของราคาลำไย ล่าสุด ราคาเกรด AA ตกลงมาเหลือเพียง 32 บาท/กก.เท่านั้น จากต้นทุนการผลิตประมาณ 40 บาท/กก.เนื่องจากส่งออกไม่ทันช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา ซึ่งคนจีนถือว่าเป็นลำไยเก่าค้างปี