ศาลให้ประกัน สนธิญาณ ประกาศวางมือเป็นแกนนำม็อบ

ศาลให้ประกัน สนธิญาณ ประกาศวางมือเป็นแกนนำม็อบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ ( ดีเอสไอ) ได้ยื่นคำร้องขอศาล ฝากขังนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อายุ 52 ปี อดีต ผอ.สำนักข่าวทีนิวส์ ผู้ต้องหาคดีกบฏ , มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 , 116 , 215 , 216 , 234 ประกอบมาตรา 83 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 มาตรา 43 , 76 และ 152 เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 - 26 ก.พ.นี้ พร้อมคัดค้านประกันตัว


ขณะที่ นายวิโรจน์ ภูมิศิริสวัสดิ์ ทนายความของนายสนธิญาณ ได้ยื่นคำร้องคัดค้านการฝากขัง พร้อมนำสมุดบัญชีเงินฝาก ธ.ไทยพาณิชย์ ฯ มูลค่า 500,000 บาท ขอประกันตัว ทั้งนี้ศาลพิจารณาคำร้องของผู้ร้องและคำคัดค้านของผู้ต้องหาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้ อย่างไรก็ตามในส่วนของคำร้องขอปล่อยชั่วคราว นายสนธิญาณนั้น ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้ผู้ร้องจะขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาโดยอ้างว่า เป็นข้อหาหนัก อัตราโทษสูง แต่ทั้งนี้คดีอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานของผู้ร้องและผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ

เมื่อพิจารณาพฤติการณ์แห่งคดีตามคำร้องของผู้ร้องแล้วประกอบข้อเท็จจริงตามคำสั่งศาลที่ ฉฉ 2/2557 ที่ไม่ให้อนุญาตขยายเวลาควบคุมตัวผู้ต้องหา ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้ความร่วมมือ ให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่เจ้าพนักงาน และไม่น่าจะหลบหนี จึงมีเหตุผลสมควรให้ปล่อยชั่วคราว ตีราคาประกัน จำนวน 4 แสนบาท โดยกำหนดเงื่อนไข ห้ามผู้ต้องหาไปยุยง ปลุกปั่นหรือกระทำการใดๆที่มีลักษณะก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองหรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ศาลเพิกถอนการประกันได้

นายสนธิญาณ ให้สัมภาษณ์ว่า ศาลยังคงเป็นที่พึ่งของประชาชน แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ลอบยิงเอ็ม 79 ใส่ศาลอาญาก็ตาม ทำให้เห็นว่าศาลยังเป็นรากฐานที่เข้มแข็งของประเทศ ส่วนใครที่ทำอะไรไว้ก็ต้องได้รับผลแห่งกรรมนั้น แม้ว่ากฎหมายอาจจะเอื้อมไปไม่ถึง เช่น คนทุจริตคอรัปชั่น ทำความชั่วให้บ้านเมือง ทั้งนี้ตนจะขอปฏิบัติตามคำสั่งศาล ส่วนการต่อสู้จะดำเนินต่อไป และเชื่อว่าชัยชนะจะเป็นของมวลมหาประชาชน เพราะคนส่วนใหญ่เข้าใจปัญหาของประเทศชาติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ศาลได้กำหนดเงื่อนไขว่า จะยุติบทบาทแกนนำกปปส.หรือไม่ นั้น นายสนธิญาณ ระบุว่า จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล และจะกลับไปทำหน้าทีสื่อมวลชนต่อไป ส่วนจะดำเนินคดีตำรวจ ที่บุกเข้าตรวจค้นบ้านพักย่านพุทธมณฑลสาย 4 หรือไม่นั้น ก็คงจะแจ้งเรื่องนี้ให้ ผบ.ตร. รับทราบและพิจารณาตามขั้นตอน และที่บอกว่าคลิปการค้นบ้านเป็นคลิปตัดต่อนั้น ลูกสาว และภรรยาของตน อยู่บ้านตามลำพัง คงไม่มีปัญญาไปตัดต่อภาพ และกล้องที่ถ่ายภาพก็เป็นกล้อง ซีซีทีวี. ระบุเวลาชัดเจน สามารถพิสูจน์ได้ไม่ยาก ส่วนการแจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่คงไม่ทำ ไม่ใช่ว่าเกรงกลัวอิทธิพลใคร เพราะตนผ่านอะไรมาเยอะ เพียงแต่ไม่อยากไปก่อเวรก่อกรรมกับใคร

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์