ศาลแพ่งนัดฟังคำสั่ง “เทือก” ขอขยายเวลายื่นคำให้การสู้คดี

ศาลแพ่งนัดฟังคำสั่ง “เทือก” ขอขยายเวลายื่นคำให้การสู้คดี ชดใช้ค่าเสียหายบุกคลัง 28 ก.ค.

ที่ห้องพิจารณา 710 ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 16 มิ.ย.57 เวลา 09.30 น.ศาลนัดไต่สวนคำร้องที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ขอขยายเวลายื่นคำให้การต่อสู้คดีหมายเลขดำ 4844/2556 ที่กระทรวงการคลัง เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นจำเลยเมื่อวันที่ 26 พ.ย.56  เรื่องขับไล่ที่ พร้อมเรียกค่าเสียหายจากการกระทำละเมิดที่บุกเข้าไปในพื้นที่กระทรวงการคลัง กรมธนารักษ์ สำนักงบประมาณ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และกรมบัญชีกลาง จำนวน 536,986.30 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี และค่าเสียหายอีกเดือนละ 500,000 บาท หากพวกจำเลยไม่ออกจากพื้นที่

โดยวันนี้ นายสุเทพ เลขาธิการ กปปส. ซึ่งแขนด้านขวายังใส่เฝือกจากการผ่าตัดรักษาเส้นเอ็น เดินทางมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับทีมทนายความ เพื่อเข้าไต่สวน

ศาลแพ่งนัดฟังคำสั่ง “เทือก” ขอขยายเวลายื่นคำให้การสู้คดี

ขณะที่นายสุเทพ เลขาธิการ กปปส. ตอบการซักถามของอัยการที่รับผิดชอบฟ้องคดีให้กระทรวงการคลัง โจทก์

ถึงเหตุผลที่ยังไม่ได้ยื่นคำให้การว่า ระหว่างที่มีการฟ้องคดี จำเลยยังยุ่งกับการดูแลการชุมนุม กปปส. ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ โดยมีผู้แจ้งข่าวให้จำเลยทราบเรื่องที่มีการฟ้องคดี  แต่ก็ไม่ได้แจ้งว่ามีการฟ้องคดีตั้งแต่เมื่อใด รวมทั้งจำเลยไม่ได้อ่านรายละเอียดที่หนังสือพิมพ์หลายฉบับตีพิมพ์ข่าววันที่ 28 พ.ย.56 ที่ศาลแพ่งสั่งยกคำร้องของกระทรวงการคลังที่ขอไต่สวนฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองชั่วคราวคดีนี้  
ส่วนที่ปรากฎชื่อจำเลยเป็นเจ้าบ้านอยู่ที่ ต.ท่าสะท้อน จ.สุราษฎร์ธานี นั้น มีชื่อสมัยตั้งแต่เป็นกำนัน ปัจจุบันไม่มีผู้ใดดูแลบ้านดังกล่าว
 
ส่วนใหญ่จำเลยจะพักอาศัยอยู่ที่ กทม. 
ภายหลังนายสุเทพ ไต่สวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ศาลนัดฟังคำสั่งว่าจะอนุญาตให้นายสุเทพ จำเลย ยื่นคำให้การคดีนี้หรือไม่ ในวันที่ 28 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

ด้านนายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความของนายสุเทพ กล่าวว่า คดีนี้ กระทรวงการคลัง ยื่นฟ้องเมื่อช่วงสิ้นปี 2556
 
โดยมีการส่งหมายศาลแจ้งเรื่องการฟ้องเพื่อให้จำเลยได้ยื่นคำให้การไปยังบ้านที่ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อประมาณวันที่ 5 ม.ค.57 แต่ขณะนั้นนายสุเทพอยู่พื้นที่การชุมนุม ไม่ได้พักอยู่ที่บ้านดังกล่าวจึงยังไม่ทราบรายละเอียด ซึ่งปกติเมื่อมีหมายศาลแจ้งและมีการรับหมายแล้วต้องยื่นคำให้การภายใน 30 วัน ไม่เกิน 5 ก.พ.57 ดังนั้น จึงทำให้เราต้องยื่นคำร้องขอขยายเวลายื่นคำให้การสู้คดีดังกล่าว

ขณะที่ นายสุเทพ กล่าวภายหลังเบิกความขอขยายเวลายื่นคำให้การต่อสู้คดี

ถึงกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะประสานให้ 2 ฝ่ายคู่ขัดแย้งร่วมปฏิรูปประเทศว่า หลังจากที่มีคสช. ตนและกลุ่มปกปปส.ก็ได้หยุดเคลื่อนไหว เพื่อให้คสช.ดำเนินการต่างๆ ได้โดยสะดวก ซึ่งจะสังเกตได้ว่าช่วงนี้ตนไม่ได้พูดเรื่องการเมืองเลย ทั้งนี้ คิดว่ารออีกไม่นานคงมีธรรมนูญการปกครองชั่วคราวที่คสช.จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ก็จะได้รู้ว่าเนื้อหาว่าเป็นอย่างไร
โดยตนเข้าใจว่าธรรมนูญการปกครองชั่วคราวจะพูดถึงที่มาและองค์ประกอบของรัฐบาล สภาการปฏิรูปประเทศและสภานิติบัญญัติจะมีหน้าที่อย่างไร  

เมื่อถามว่า ถ้าคสช.ประสานให้เข้าปฏิรูปประเทศด้วย จะตัดสินใจอย่างไร

นายสุเทพ กล่าวว่า เราในฐานะประชาชนได้เรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศ ดังนั้น ถ้าคสช.ขอให้ช่วยเหลือหรือขอความร่วมมือ เราก็พร้อมให้ความร่วมมือและคิดว่าประชาชนทุกฝ่าย ทุกภาคส่วนก็ควรให้ความร่วมมือ เพราะถือเป็นโอกาสของประเทศ  โดยหลังจากนี้ตนจะสู้คดีที่มีค้างอยู่จำนวนมาก และจะร่วมทำงานภาคประชาชนช่วยเหลือประชาชน โดยไม่กลับไปเล่นการเมืองอีก ส่วนปัญหาสุขภาพขณะนี้ยังต้องใช้เวลารับการรักษาเส้นเอนบริเวณที่มีการผ่าตัด โดยระหว่างนี้แพทย์ยังให้ใส่เฝือกอ่อนเป็นเวลา 3 สัปดาห์ และวันที่ 19 มิ.ย.นี้แพทย์จะนัดดูอาการอีกครั้ง

นายสุเทพ ยังกล่าวอีกว่า ในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตโฆษกกปปส. จะเข้าอุปสมบทที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ ปากเกร็ด เพื่ออุทิศให้กับผู้เสียชีวิตระหว่างการชุมนุมของกลุ่มกปปส. และจะไปจำวัดที่อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี โดยยังไม่กำหนดวันสึก  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีดังกล่าวช่วงที่มีการยื่นฟ้องคดี กระทรวงการคลัง
 
ยังได้ยื่นขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวให้จำเลยและกลุ่มผู้ชุมนุมกปปส.ออกจากกระทรวงการคลังและหน่วยงานอื่นในบริเวณใกล้เคียงด้วย แต่ศาลแพ่งมีคำสั่งวันที่ 27 พ.ย. 56 ให้ยกคำร้อง โดยเห็นว่าเป็นอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร 2551 ที่จะดำเนินการบังคับให้เป็นไปตามบทกฎหมายดังกล่าว ซึ่งตามบทบัญญัติดังกล่าวนั้นได้รวมถึงอำนาจในการที่จะสั่งให้จำเลยและ บริวารออกจากพื้นที่ที่พิพาทอยู่แล้วด้วย ทั้งการดำเนินการบังคับตามพ.ร.บ.มั่นคงฯ ย่อมมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลดียิ่งกว่าการใช้วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์