ศาลอาญานัดพร้อมฟังคำสั่ง รวมสำนวน ‘อภิสิทธิ์-สุเทพ’ คดีฆ่าผู้อื่นเหตุสลายม็อบปี 53

ศาลอาญานัดพร้อมฟังคำสั่ง รวมสำนวน ‘อภิสิทธิ์-สุเทพ’ คดีฆ่าผู้อื่นเหตุสลายม็อบปี 53

ศาลอาญานัดพร้อมฟังคำสั่ง รวมสำนวน ‘อภิสิทธิ์-สุเทพ’ คดีฆ่าผู้อื่นเหตุสลายม็อบปี 53 วันที่ 28 ก.ค.

 เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 มิ.ย. ที่ห้องพิจารณา 707 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพร้อมคดีหมายเลขดำ อ.4552/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเล็งเห็นผล ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบ ม.80,83,84,90 จากกรณีร่วมกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และอดีตผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ ด้วยการออกคำสั่ง ศอฉ.ให้เจ้าหน้าที่เข้าขอคืนพื้นที่การชุมนุมบริเวณ ถ.ราชดำเนิน และแยกราชประสงค์ จากกลุ่ม นปช. ที่ชุมนุมตั้งแต่เดือนเมษายน - 19 พฤษภาคม 2553

 กระทั่งนายพัน คำกอง ชาว จ.ยโสธร อายุ 43 ปี คนขับแท็กซี่
 
และ ด.ช.คุณากร ศรี- สุวรรณ หรือน้องอีซา อายุ 14 ปี เสียชีวิตบริเวณใกล้สถานีรถไฟแอร์พอร์ทลิงค์ สถานีราชปรารภ และนายสมร ไหมทอง คนขับรถตู้ ถูกกระสุนยิง มาจากฝั่งเจ้าหน้าที่ที่รักษาการณ์ในพื้นที่ ย่านราชปรารภ ที่มีการประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยคดีนี้อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา

 โดยก่อนหน้านี้นายอภิสิทธิ์ จำเลย ได้โต้แย้งเรื่องอำนาจการสอบสวน

ซึ่งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2557 ศาลได้มีคำสั่งให้มีหนังสือสอบถาม คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เกี่ยวกับการไต่สวนข้อเท็จจริงประเด็นที่มีข้อกล่าวหาเรื่องการใช้อำนาจออกคำสั่งต่างๆ ให้มีการผลักดันการชุมนุมของจำเลย ในฐานะนายกรัฐมนตรี ตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548  ศาลจึงนัดพร้อมวันนี้เพื่อทราบข้อเท็จจริงจาก ป.ป.ช. ซึ่งทาง ป.ป.ช. ก็ได้มีหนังสือแจ้งให้ศาลทราบว่า ได้มีการพิจารณาข้อเท็จจริงดังกล่าวและขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการไต่สวน

 ส่วนที่จำเลยยื่นคำร้องเมื่อวันที่10 มิถุนายน 2557 ขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับอำนาจฟ้องนั้น ศาลก็ให้ส่งสำเนาคำร้องดังกล่าวให้อัยการโจทก์เพื่อทำการคัดค้านยื่นต่อศาลภายใน 10 วัน  

 ขณะเดียวที่อัยการได้ยื่นคำร้องขอยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติมนั้น ศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
 
จึงอนุญาตให้อัยการโจทก์ ยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติมได้ ส่วนที่อัยการยื่นคำร้องขอให้อนุญาตรวมพิจารณาคดีของนายอภิสิทธิ์นี้ กับสำนวนที่ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เป็นจำเลยในคดีหมายเลขดำ อ.1375/2557 เพื่อประโยชน์ของความสะดวกในการดำเนินกระบวนพิจารณา เนื่องจากมูลเหตุคดีเกี่ยวพัน พยานหลักฐานที่จะนำสืบเป็นชุดเดียวกัน

ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีที่ยื่นฟ้องนายสุเทพ นั้นศาลนัดตรวจหลักฐานในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ เวลา 09.00 น.

จึงให้นัดฟังคำสั่งว่าจะอนุญาตให้รวมสำนวนคดีหรือไม่ในวันดังกล่าว โดยให้นัดพร้อมคดีนายอภิสิทธิ์ อีกครั้งพร้อมกับคดีของนายสุเทพ ในวันที่ 28  กรกฎาคมนี้ เวลา 09.00 น. ส่วนประเด็นที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งให้โอนสำนวนคดีที่ อ.1694/2557 ที่นายขาล ศรีรักษา ญาติของนายสุวรรณ ศรีรักษา ผู้เสียชีวิต และนางสุนันทา สมอาษา มารดาของนายอัฐชัย ชุมจันทร์ ผู้เสียชีวิตในเหตุการณยิง 6 ศพวัดปทุมวนาราม ยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพเป็นจำเลย มาพิจารณาที่ศาลอาญา ซึ่งได้พิจารณาคดีของนายอภิสิทธิ์อยู่ก่อนแล้วนั้น  ศาลอาญาได้รับโอนคดีไว้ในสารบบความแล้ว

 แต่เนื่องจากคดีที่อัยการยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ เป็นจำเลยนั้น ทางจำเลยโต้แย้งปัญหาข้อกฎหมายเรื่องอำนาจฟ้องอยู่ ดังนั้นศาลจึงให้นัดฟังคำสั่งว่าจะนำสำนวนคดีดังกล่าวที่ญาติผู้เสียชีวิต ยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เป็นจำเลย มาพิจารณารวมด้วยหรือไม่ ในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ เวลา 13.30 น.

 ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนพิจารณาแล้ว นายอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางกลับโดยทันทีและไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

 ด้านนายบัณฑิต ศิริพันธุ์ ทนายความของนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ก็จะต้องเดินทางมาศาลเพื่อดำเนินการตามกระบวนพิจารณาคดี อย่างไรก็ดีเรื่องการต่อสู้คดีก็น่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งประเด็นหนึ่งคือการโต้แย้งเรื่องอำนาจการสอบสวนของดีเอสไอว่าไม่ชอบ ดังนั้นโจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้องด้วย ส่วนที่เราได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายเรื่องอำนาจฟ้องนั้น ก็ต้องรอว่าศาลจะมีคำสั่งอย่างไรต่อไป

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์