ศอฉ.ส่อไม่เลิกพรก.ฉุกเฉินเหตุมีข้อมูลวินาศกรรม

 

คมชัดลึก : “ศอฉ.” ส่อไม่เลิก พรก.ฉุกเฉิน เหตุมีข้อมูลวินาศกรรม “โรงไฟฟ้า-โรงเก็บน้ำมัน” กองทัพส่งชุดพัฒนาสัมพันธ์ลงพื้นที่ “อีสาน-เหนือ” ทำความเข้าใจปชช. ส่วน “DSI ” เตรียมแจ้งข้อหาคนวางเพลิง 19 พ.ค. ข้อหาก่อการร้าย เพิ่มเป็น 100 กว่าราย รอง ผบ.ตร.ลุยตรวจสอบจังหวัดที่ถูกเผาสถานที่ราชการเหตุ 19 พ.ค.เพื่อรับทราบข้อเท็จจริง พร้อมสั่งเฝ้าระวังสถานที่ราชการ จ.อุดรธานี หวั่นถูกเผาซ้ำ “ชวรัตน์”เผยยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินคงไม่ทุกจังหวัด


แหล่งข่าวในที่ประชุมระบุว่า ในที่ประชุม ศอฉ.ได้มีการหารือถึงการคงไว้ของพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน)

เพราะด้านการข่าวยังมีข้อมูลความเคลื่อนไหวการก่อเหตุวินาศกรรม การวางเพลิง อาทิ โรงไฟฟ้า โรงน้ำมัน รวมถึงการสร้างสถานการณ์ จึงอยากให้คง พ.ร.ก.ฉุกเฉินเอาไว้จนกว่าจะครบกำหนดในวันที่ 7 ก.ค.นี้ ขณะเดียวกัน พล.อ.อนุพงษ์ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยสาธารณูปโภคต่าง ๆ พร้อมทั้งการจัดเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารของ 3 เหล่าทัพ รวมกับตำรวจออกลาดตระเวนในเวลากลางคืน


แหล่งข่าวระบุว่า สำหรับในส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กับภาคเหนือ

ทาง พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 และ พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 ได้จัดชุดพัฒนาสัมพันธ์ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันอกเฉียงเหนือกับภาคเหนือกับประชาชนที่เข้ามาชุมนุมในกรุงเทพมหานคร รวมทั้งประชาชนที่ไม่ได้มาชุมนุม เพื่อสร้างความรักความเข้าใจ สร้างความสามัคคีต่อประเทศชาติ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมให้ทาง สมช.กลับไปดำเนินการจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับซีดี ที่จะจะชี้แจงอธิบายให้กับประชาชนได้รับทราบถึงเหตุการณ์ข้อเท็จจริงกับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงผลการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ศอฉ.ในการแก้ไขปัญหาการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงด้วย ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุม ศอฉ.ในเวลา 14.00 น. โดยจะมีการหารือถึงการจัดทำ ซีดี เพื่ออธิบายให้ประชาชนได้รับทราบเป็นหลัก


แหล่งข่าวในที่ประชุม ยังบอกด้วยว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)

ได้แจ้งในที่ประชุมทราบว่าทางกรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังพิจารณาคนที่ถูกออกหมายจับตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในคดีการก่อการร้ายจากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 37 คน เพิ่มเป็น 100 กว่าคน โดยจะเริ่มทำการออกหมายจับเป็นกลุ่มที่ 4 ซึ่งจะถูกตั้งข้อหาว่าทำการก่อการร้าย เพราะการวางเพลิงเผาทรัพย์ที่เกิดขึ้น เป็นการดำเนินการเป็นกระบวนการ จึงถือได้ว่าเข้าข่ายความผิดการก่อการร้าย


รองผบ.ตร.สั่งเฝ้าระวังสถานที่ราชการหวั่นถูกเผาซ้ำ


เมื่อเวลา 14.00 น.พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผบช.ภ.4  ได้เดินทางตรวจราชการพื้นที่ จ.อุดรธานี และตรวจสถานการณ์การเมืองใน จ.อุดรธานี โดยมี พ.ต.อ.สนั่น ชวาลธรรม รักษาการ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี นำตรวจบริเวณศาลากลาง จ.อุดรธานี และสำนักงานเทศบาลนครอุดรธานี ที่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงบุกเผาเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนจะมาร่วมประชุมมอบนโยบายหัวหน้าสถานีตำรวจสังกัดตำรวจภูธร จ.อุดรธานี 
 
 พล.ต.อ.จุมพล เปิดเผยว่า หลังเดินทางมาในพื้นที่มีการเผาสถานที่ราชการ ได้รับทราบข้อเท็จจริง

และข้อมูลจำนวนมากจะต้องนำทั้งหมดไปประมวลเพื่อหาข้อสรุปว่าอะไรเกิดขึ้นอย่างไร มีอะไรที่ต้องสั่งการแก้ไขหรือไม่ โดยจะไปประมวลก่อนที่ จ.ขอนแก่น นอกจากนี้ได้มาติดตามกรณีหลังเกิดเหตุ ตำรวจได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง ซึ่งก็เห็นว่ามีหลักฐานที่เป็นภาพถ่ายของบุคคลที่บุกเข้าไปในสถานที่ราชการ ภาพที่ปรากฎอย่างไรตำรวจต้องดำเนินการ ให้เป็นไปตามกฎหมายละเว้นไม่ได้


พล.ต.อ.จุมพล ยังกล่าวอีกว่า จากบทเรียนที่เกิดขึ้นเราได้ผ่านมาแล้ว ก็ได้กำชับให้ตำรวจอุดรธานี เตรียมความพร้อมหามาตรการ ไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นมาอีก


“ชวรัตน์”เผยยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินคงไม่ทุกจังหวัด

 
 นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึง การโยกย้ายรองผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ 8 จังหวัด ว่า ยังไม่ทราบในเรื่องดังกล่าว และหากมีการเซ็นลงนามจริง ก็เป็นอำนาจของ นายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงมหาดไทย ขณะนี้ตนเองก็ยังไม่ได้รับรายงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะยกเลิกทุกจังหวัดหรือไม่ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า คงไม่ยกเลิกทุกจังหวัด และเชื่อว่ายังต้องคงพ.ร.ก.ในอีกหลายจังหวัด โดยจะให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำการประเมินสถานการณ์ต่างๆ เพื่อประกอบก่อนการตัดสินใจ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์