“วิเชียร” รับมีขบวนการเลื่อยเก้าอี้

วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี  เปิดใจ ยอมรับมีขบวนการเลื่อยขาเก้าอี้ ผบ.ตร. จริง ยินดีหากถูกปรับย้าย “สุเทพ”ออกมาปกป้อง

วันนี้ ( 31 ส.ค.)  ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. เดินทางมาเปิดการประชุมเป้าหมายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญและนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ ร่วมกับสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา (DEA) โดยมี Mr.Joseph P.Reagan รักษาการผู้อำนวยการหน่วยปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา ประจำภาคพื้นตะวันออกไกล นำเจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย จำนวน 38 คน มาร่วมประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกับข้าราชการตำรวจปราบปรามยาเสพติดของไทย จำนวน 57 คน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลยาเสพติด กำหนดเป้าหมายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญทั้งในและต่างประเทศ นำไปสู่การประสานความร่วมมือสืบสวนคดียาเสพติดและจับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด รวมทั้งเครือข่ายและขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวถึงความร่วมครั้งนี้ว่า
 
การร่วมมือกับหน่วยปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐอเมริกาเกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลไทยได้กำหนดนโยบายแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ทำให้ต้องดำเนินการปราบปรามยาเสพติดให้เข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะประสานความร่วมมือกับต่างประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการลักลอบขนยาเสพติดเข้าสู่ไทย ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจับมือกับสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา (DEA) ประสานความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูล หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยมีผลงานร่วมกันในการจับกุมนักค้ายาเสพติดเครือข่ายเหว่ย เซีย กัง กลุ่มอัฟริกันตะวันตก กลุ่มอิหร่าน การจับกุมแหล่งผลิตไอซ์ ที่จังหวัดระยอง และการปฏิบัติการร่วม RattleSnake ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี มาแล้ว

หลังจากนั้น พล.ต.อ.วิเชียร ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการถูกโยกย้ายไปเป็นปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ว่า  

หากผู้บังคับบัญชาเห็นว่าตนไม่เหมาะสมกับเก้าอี้ ผบ.ตร. และจะโยกไปเป็นปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ตนก็ยินดี  แต่ขอให้ทุกอย่างดำเนินการแบบสมเหตุสมผล ไม่ใช่ใช้อำนาจไปในทางที่ผิด เพราะตนถือว่าอาชีพตำรวจใช้ความเสียสละยิ่งใหญ่ในการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น ถ้าเรื่องนี้เป็นความจริง ตนก็พร้อมจะไป ขอเพียงผู้มีอำนาจให้ตระหนักถึงประโยชน์ที่องค์กรตำรวจจะได้รับ อย่าทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวยอมรับขบวนการเลื่อยขาเก้าอี้ ผบ.ตร. ทำลายชื่อเสียงองค์กร เพื่อบีบให้ลงจากตำแหน่งว่า “ครับ ยอมรับว่าเป็นเช่นนั้น
 
ตอนนี้ขอรอดูความชัดเจนก่อน ยังตอบอะไรไม่ได้ แต่ฝากผู้อำนาจคำนึงประโยชน์ขององค์กรและควรใช้อำนาจไปในทางที่เหมาะสม ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหา ผมขอให้หยุดการกระทำที่ทำลายชื่อเสียงองค์กร เพื่อบีบบังคับผม” เมื่อถามถึงมีฝ่ายการเมืองแทรกแซงหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวตอบสั้นๆว่า “ไม่มีครับ”

ส่วนกรณี พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง
 
กรณีบ่อนการพนันพื้นที่ สน.สุทธิสาร พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ต้องรอผลการสืบสวนก่อน แต่ทุกอย่างกำลังดำเนินการไปตามกระบวนการทางกฎหมาย แม้ว่าต่อไปตนจะไม่ได้เป็น ผบ.ตร ในส่วนการสืบสวนเรื่องนี้ต้องดำเนินต่อไป ไม่มีหยุด โดยหากพบผู้กระทำความผิดก็ต้องได้รับลงโทษ แต่เบื้องต้นเท่าที่ทราบข้อมูล คิดว่าคงไม่ร้ายแรงมากนัก เนื่องจากหลักฐานขณะนี้ยังไม่ปรากฏว่ามีอะไรบ่งบอกถึงการเรียกรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ 

ที่พรรคประชาธิปัตย์ วันนี้(31ส.ค.)  นายสุเทพ  เทือกสุบรรณ  ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์

  ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการโยกย้าย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี  ผบ.ตร.ว่า ลักษณะที่เขาแสดงออกในวันที่ให้สัมภาษณ์ ที่จะดำเนินการกับผบ.ตร. ถือเป็นภาพที่ไม่สวยงามในฐานะที่เป็น รองนายกรัฐมนตรี คนมองว่าเป็นเรื่องของการขมขู่ข้าราชการ การบริหารราชการแผ่นดินนักการเมืองต้องระลึก ข้าราชการไม่ใช่ข้าทาสในเรือนเบี้ย ข้าราชการมีศักดิ์มีศรี มีสถานภาพ เป็นข้าราชการของประชาชน ของแผ่นดิน เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์ ระหว่างนักการเมืองกับข้าราชการ ต้องรักษาให้ดี ไปกดขี่ข่มเหงคงไม่ได้ ประชาชนซึ่งเป็นเจ้านายของขาราชการคงไม่ชอบใจ

นายสุเทพ กล่าวว่า ตนแปลกใจเกี่ยวกับการที่.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ระบุภายใน 7 วันอาจจะได้ตัว ผบ.ตร.คนใหม่ 

เพราะ 1.อยู่ๆจะโยกย้าย พล.ต.อ.วิเชียร จากตำแหน่งผบ.ตร.นั้นทำไม่ได้ อย่างมากที่สุดนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ไปช่วยราชการที่ทำเนียบฯ แล้วแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ รักษาราชการแทน ก็อาจเป็นไปได้ แต่อยู่ๆจะปลด ย้ายเลย คงไม่ได้ เพราะข้าราชการมีระเบียบ มีข้อกฎหมายอยู่ ต้องว่าไปตามกฎเกณฑ์กติกา  2. แม้ว่า พล.ต.อ.วิเชียร ยอมโยกย้าย ไปเป็นปลัดกระทรวงไหนก็ตามตำแหน่งว่างลง ไม่ใช่ว่าร.ต.อ.เฉลิมจะแต่งตั้งได้เอง เพราะมีกฎหมาย มีคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ตช.) เป็นผู้พิจารณาว่าจะตั้งใคร นายกฯจะเป็นผู้เสนอให้มีการแต่งตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม จะทำภายใน 3 วันหรือ 7 วัน จะเป็นการเมามันในอำนาจไปหน่อย