วิปรัฐบาลร่อนหนังสือง้อฝ่ายค้านร่วมแก้รธน. มาร์ค อ้างสมานฉันท์ วอนเพื่อไทยปลี่ยนใจ

วิปรัฐบาลร่อนหนังสือง้อฝ่ายค้านร่วมแก้รธน. "มาร์ค" อ้างสมานฉันท์ วอนเพื่อไทยปลี่ยนใจ

ชินวรณ์ทำหนังสือถึงเพื่อไทยชวนร่วมแก้รธน. อ้างต้องมี 312 เสียงถึงเดินหน้าได้ วอนทำให้ชัดเจนก่อนทุ่ม 2 พันล้านทำประชามติ "มาร์ค" ยกสมานฉันท์รอพท.กลับใจ

หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล คณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภาหรือวิปวุฒิสภา และคณะกรรมการกฎหมายเพื่อยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มีมติเห็นชอบส่งเรื่องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ตัดสินใจทำประชามติในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็น ตามการศึกษาของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปทางการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมจะประสานให้ฝ่ายค้านกลับมาร่วมมือในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปพรรคร่วมรัฐบาล รับไปดำเนินการเชิญฝ่ายค้านนั้น


ล่าสุด นายชินวรณ์ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ว่า วิปรัฐบาลทำหนังสือไปถึงพรรคเพื่อไทยเพื่อชักชวนให้ความร่วมมือเข้าร่วมกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังจากที่ที่ประชุมวิปได้ยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จ ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องอาศัยเสียง ส.ส. 312 เสียง หากไม่ครบไม่สามารถเดินหน้าได้ ดังนั้นฝ่ายค้านควรแสดงทรรศนะให้ชัดเจน ก่อนที่จะใช้งบประมาณ 2 พันล้านบาทในการทำประชามติ


ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า นายชินวรณ์ส่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาให้ตนแล้ว หากยังจำได้ เราพยายามทำเรื่องนี้เพื่อความสมานฉันท์ จึงต้องดึงฝ่ายค้านให้กลับมาร่วมกระบวนการด้วย เพราะการเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญแต่เดิมก็มาจากฝ่ายค้าน โดยกลไกการแก้ไขครั้งนี้ก็ถกเถียงกัน และได้รับความเห็นชอบจากทุกพรรค ซึ่งมีอยู่กลไกเดียวจึงอยากให้ฝ่ายค้านกลับมา เพราะถ้าเดินต่อไปแล้วฝ่ายค้านบอกว่าไม่พอใจ ผู้ที่ชุมนุมเรียกร้องต่อต้านก็ยังหยิบยกเรื่องรัฐธรรมนูญขึ้นมา จะเกิดคำถามกับคนที่ไม่เห็นด้วยว่าแล้วจะแก้ไขไป เพื่ออะไร เพื่อใคร


ผู้สื่อข่าวถามว่า หากฝ่ายค้านไม่ร่วมจะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะพยายามดึงมาให้ร่วมให้ได้ เมื่อถามว่ายังคงยึดการทำประชามติต่อหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวยอมรับว่า ใช่ ไม่ว่าจะอย่างไรต้องให้ประชาชนเห็นชอบด้วย เมื่อถามว่าการทำประชามติจะทำทั้งฉบับหรือรายมาตรา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องถามทีละประเด็น ไม่เช่นนั้นจะไม่มีทางทราบเลยว่าประชาชนอยากให้แก้ไขประเด็นใดบ้าง อย่างไรก็ตาม ยังอยากให้ฝ่ายค้านกลับมาร่วมกระบวนการก่อน


ด้านนายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) แถลงว่า วันที่ 2 ธันวาคม จะครบรอบ 1 ปีที่พรรคชาติไทยเดิมได้ถูกยุบพรรค จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าการยุบพรรคชาติไทยเป็นผลพวงจากความขัดแย้งทางการเมือง จึงไม่เรียกอะไรต่อสิ่งที่ได้เกิดขึ้นใน 1 ปีที่ผ่านมา เพราะ 1 ปีที่ผ่านมาที่มีปัญหา เพราะรัฐธรรมนูญยังไม่ได้รับการแก้ไข ดังนั้นขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีที่พูดล่าสุดว่า หากจะยุบสภาหรือเลือกตั้งใหม่จะเกิดได้ภายใต้ 3 เงื่อนไข ดังนี้ 1.เศรษฐกิจดีขึ้น 2.กติกาเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย และ 3.ต้องไม่มีการขัดขวางการทำงานของรัฐบาลโดยประชาชน แต่ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่ากติกาในขณะนี้ยังไม่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย พรรคจึงอยากให้เร่งรัดเพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างจริงจัง และมีกำหนดเวลาที่ชัดเจน


"กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญขณะนี้ได้ยกร่างเสร็จแล้ว ใน 6 ประเด็น จึงเหลือเพียงขั้นตอนที่คณะรัฐมนตรีที่จะต้องสอบถามความเห็นของประชาชนโดยการทำประชามติ ซึ่ง ชทพ.จะยึดถือประชามติเป็นผลสำคัญ เพราะการทำประชามติคือเสียงที่แท้จริงของประชาชน หากการทำประชามติไม่ว่าประชาชนจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ชทพ.จะยึดถือเป็นตัวตั้งโดยจะยอมรับฟังความเห็นที่ออกมา และขอร้องให้ทุกฝ่ายอย่าคัดค้านและควรให้ความเคารพต่อผลการทำประชามติ"


ขณะที่นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกระแสข่าว พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรค ชทพ.อาจลาออกจากพรรคว่า ที่มีการประชุมระดับแกนนำ ชทพ. พล.ต.สนั่นรับปากต่อหน้าผู้ใหญ่ว่าจะอยู่กับ ชทพ.ต่อไป


นายชุมพลกล่าวยอมรับถึงกระแสข่าวที่พรรค ชทพ.เตรียมความพร้อมต่อการเลือกตั้งที่อาจจะเกิดขึ้นต้นปี 2553 ว่า เป็นการหารือระดับแกนนำพรรคเพื่อความรอบคอบเท่านั้น เพราะนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคมาประเมินสถานการณ์ทางการเมืองโดยให้คำแนะนำหากจะมีการเลือกตั้งขึ้นก็ควรที่จะเตรียมความพร้อมตั้งแต่บัดนี้ เพราะย่อมกำไรกว่า แต่อาจไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นก็ได้


นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคได้เสนอไปชัดเจนแล้วว่าควรแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็น ส่วนจะทำประชามติแยก 6 ประเด็น หรือทำทีเดียวก็สุดแล้วแต่ แต่เราเห็นว่าควรต้องแก้ไข


นายวิทยา บุรณะศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่ประธานวิปรัฐบาล เตรียมที่จะประสานขอความร่วมมือวิปฝ่ายค้านในการร่วมลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ได้มอบคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคไปดูรายละเอียดอย่างชัดเจนก่อนที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทยเพื่อหาข้อสรุป เพราะวิปต้องเคารพมติของพรรค ซึ่งพรรคเพื่อไทยยืนยันชัดเจนว่าจะยึดรัฐธรรมนูญ 2540 เป็นหลัก


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์