วิชาญแฉนำเข้านมผง 5เสือรับโควต้ากินนิ่ม

วันที่ 18 ก.พ. ที่รัฐสภา นายวิชาญ มีนชัยนันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กทม. พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า

การที่รัฐบาลพยายามหาวิธีแก้ไขปัญหานมบูดด้วยการจะเน้นควบคุมเรื่องคุณภาพของนมนั้น ตนถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ แต่อยากให้มองถึงต้นทางและเส้นทางการนำเข้าของนมที่ในอดีตจนถึงปัจจุบันมีการกำหนดทิศทางการนำเข้านมผง โดยมีโควต้าของ
5 เสือ หรือ 5 บริษัทเป็นผู้นำนมผงเข้ามาในประเทศ และแบ่งสรรโควต้ากันไปในพื้นที่ต่างๆ แม้แต่ละปีจะมีการสำแดงตัวเลขนำเข้านมผงสำหรับบริโภคปีละประมาณ 5.2 ล้านกิโลกรัม แต่ยังมีการนำเข้านมผง เพื่อเป็นอาหารสัตว์อีกจำนวนมากที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไม่สามารถเข้าไปดูแลหรือควบคุมได้ ทำให้ไม่สามารถรู้ได้ว่ามีการนำเข้ามาจำนวนเท่าใดกันแน่

ที่สำคัญการนำเข้าส่วนนี้ไม่ต้องเสียภาษี เพราะมีข้อยกเว้นให้และมีบางส่วนนำไปผสมให้เด็กกิน ซึ่งหากเด็กบริโภคเข้าไปจะแคระแกรน สมองไม่พัฒนา ตรงจุดนี้ตนอยากให้รัฐบาลต้องเข้ามาควบคุมและเช็คตัวเลขที่แน่ชัดกับกรมปศุสัตว์ว่ามีการนำเข้าประเทศจำนวนเท่าใด ไปอยู่ในพื้นที่ใด จุดใดบ้าง ควรแยกสีให้ชัดระหว่างนมเพื่อเป็นอาหารสัตว์และนมสำหรับการบริโภค
เพราะหากนำเข้ามากก็ย่อมกระทบต่อปริมาณนมสดภายในประเทศแน่จนทำให้นมล้นตลาดต้องนำมาเททิ้ง

นายวิชาญ กล่าวด้วยว่า

 
เส้นทางของนมนั้นลึกซึ้ง ไม่เพียงแค่เรื่องของคุณภาพเท่านั้น แต่มีเรื่องการหนีภาษีเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเชื่อว่าในแต่ละปีจะมีบริษัทหนีภาษีโดยอ้างว่านำนมมาเป็นอาหารสัตว์ปีละนับพันล้านบาท หากสกัดตรงนี้ได้จะทำให้นมล้นตลาดลดลง และจะสามารถควบคุมคุณภาพของนมได้ด้วย และควรส่งเสริมให้คนไทยดื่มนมสดภายในประเทศ มิใช่รอเพียงการนำเข้าอย่างเดียวเท่านั้น ขณะนี้ตนเห็นว่ารัฐบาลกำลังตรวจสอบในประเด็นที่ไม่ยังเพียงพอ 
 

เมื่อถามว่าเหตุใดสมัยเป็นรัฐบาลจึงไม่คิดดำเนินการแก้ไขปัญหา นายวิชาญ กล่าวว่า

 
สมัยตนดำรงตำแหน่ง รมช.สาธารณสุขได้พยายามรวบรวมข้อมูลและเตรียมนำมาเปิดเผยและควบคุม แต่ติดตรงนี้มีเรื่องสารเมลามีนเข้ามาก่อนจึงทำให้ขยายผลในเรื่องนมไปไม่ถึงก็ต้องมีอันเปลี่ยนรัฐบาลไปก่อน ขณะที่เรื่องนมมีกลุ่มผลประโยชน์ทำกันมานาน และมีการแจกแจงผลประโยชน์กันอย่างทั่วถึง จึงอาจทำให้การแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จสักที
 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า

 
ก่อนหน้านี้ นายธีระชาติ ปางวิรุฬห์รักษ์ รองประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ
(กมธ....) ได้นำบัญชีรายชื่อผู้ประกอบการแปรรูปนม ในโครงการอาหารเสริม (นมโรงเรียน) ในภาคเรียนที่ 2/2551 มาเปิดเผย ในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด มีผู้ประกอบการ 18 ราย  ภาคตะวันตก และภาคใต้ 22 จังหวัด มีผู้ประกอบการ 18 ราย ภาคกลาง ตะวันออก และตะวันออกเฉียงเหนือ 37 จังหวัด มีผู้ประกอบการ 32 ราย รวมผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาต 68 ราย ใน 3 เขตพื้นที่ดังกล่าว

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์