วัดใจ..! ครม.ขิงแก่

จริงๆแล้วนายกฯน่าจะรู้ดีที่สุดว่ารัฐมนตรีคนไหนทำงานเป็นอย่างไร แม้ระยะเวลาสั้นๆเพียงแค่ 3-4 เดือนที่ผ่านมาก็ตาม หรือหากว่านายกฯไม่รู้ว่าใครทำงานกันอย่างไร

ขอโทษที...กลับบ้านดีกว่าครับ

หลังจากที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ลาออกไป เท่าที่ฟังเสียงหรือข้อเสนอแนะต่างๆดูเหมือนว่าจะไม่ให้ราคารัฐมนตรีชุดนี้เท่าใด

พรรคการเมืองตรงกันเป๊ะเสนอว่าควรปรับใหญ่ยกพวงไปเลย ทางที่ดีรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลควรเปิดทางให้นายกฯได้ปรับ ครม.ได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องเกรงอกเกรงใจหรือต้องกล้ำกลืนฝืนทน ด้วยการยื่นใบลาออกพร้อมๆกัน

แต่คงจะยาก...บุญหล่นทับได้เป็นรัฐมนตรีอย่างนี้เรื่องอะไรจะไปออก เห็นท่าจะยากที่จะไปกดดันให้ออกทุกคน แม้ว่าหลายคนอาจจะกลับมาเป็นอีกก็ได้

มันน่าจะขึ้นอยู่กับนายกฯมากกว่า หากปรับไม่มากคน คนไหน กระทรวงไหนที่มันไม่เข้าตา ไม่เข้าท่าเข้าทางก็ต้องตัดใจปรับออกไป หรือขยับปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับงาน ไม่ต้องห่วงว่าคนใหม่ จะสานงานต่อไม่ได้

เพราะเป็นรัฐมนตรีมา 3-4 เดือน ยังแทบจะไม่ได้ทำอะไรเสียด้วยซ้ำ มีแต่งานรูทีนไปวันๆ หรือบางคนก็ตั้งหน้าตั้งตาทำในสิ่งที่ตัวเองปรารถนา ใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งได้เป็นรัฐมนตรีหรือมีอำนาจวาสนาจะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้

อย่างที่บอกกันแหละครับ..."ต่อมอำนาจอักเสบ"

ก็จะต้องพ้นจากกันไปแล้ว เศรษฐกิจก็สำคัญ การเมืองก็สำคัญ ทุจริตคอรัปชันก็สำคัญ 3 จังหวัดภาคใต้ก็สำคัญ รัฐธรรมนูญก็สำคัญ

จับงานแค่นี้ก็พอแล้ว เพียงแต่ว่ารัฐมนตรีทุกคนก็จะต้องเดินหน้าด้วยหลักการและเป้าหมายเดียวกัน

อย่าไปคิดหรือดัดจริตทำเรื่องที่ไม่เข้าเรื่อง จนมีเรื่องวุ่นวายอย่างไม่น่าจะให้เกิดขึ้น แทนที่จะสร้างมิตรกลับไปสร้างศัตรูโดยใช่เหตุ เพราะผิดพลาดเชิงบริหารและการจัดการ

วันนี้ดูเหมือนทุกฝ่ายยังเชียร์และให้กำลังใจ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ให้บริหารบ้านเมืองต่อไป และเชื่อว่าคงไม่ถอดใจไปเสียก่อนอย่างที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช. ที่ยืนยันว่ารู้ใจ "นายเก่า" ไม่ถอยง่ายๆ

ก่อนหน้านี้มีการแต่งตั้งนายกฯนั้นไม่ค่อยมีปัญหา แต่บรรดารัฐมนตรีนั้นดูเหมือนจะถูกค่อนขอดว่าอยู่ในประเภท "ขิงแก่" คืออายุมาก ส่วนใหญ่ก็ข้าราชการเกษียณ ซึ่งห่วงกันว่าจะไม่ทันกาล ไม่ทันเกมและไม่ทันสถานการณ์

และที่แน่ๆไม่ว่าจะอะไรใหม่...ทั้งแนวคิดและความกระตือรือร้น

ได้แต่คาดหวังว่าจะช่วยกันนำพาประเทศให้ ก้าวผ่านปัญหาความขัดแย้ง แตกแยก จัดการกับระบบทักษิณและสร้างประชาธิปไตยใหม่

ครั้นเข้ามาจริงๆก็เป็นไปอย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันไม่มีผิด ยิ่งนายกฯที่ไม่ค่อยเทคแอกชั่นก็ยิ่งไปกันใหญ่

มีหลายกระทรวงที่รัฐมนตรีควรเสียสละลาออกไป หรือยอมให้นายกฯตัดสินปรับออกก็น่าจะเป็นการดีต่อประเทศ

ยิ่งกระทรวงสำคัญที่จะต้องเร่งแก้ปัญหาควรจะได้คนที่เหมาะสมกับงาน และสามารถช่วยงานนายกฯและรัฐบาลได้อย่างเต็มที่

"เดิมพัน" นี้ไม่มีโอกาสแก้ตัวอีกแล้ว.

จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ