20 มิ.ย. 58 น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความลงยังเฟซบุ๊ค "Warong Dechgitvigrom" ตอบโต้กรณีที่นายสมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนอนกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ที่ออกมาเปรียบเทียบข้าวลายจุดกับข้าวบ้านเสาหิน ว่า เห็นลายจุดออกมาท้าทายหลายเรื่อง ถ้าจะไม่พูดเลยก็จะไม่ดี อย่างไรก็ตามลายจุด คุณสู้ผมไม่ได้หรอก เพราะทุกอย่างของผมอยู่บนผลประโยชน์ของพี่น้องชาวนา แต่ของลายจุดนั้นอยู่บนผลประโยชน์ส่วนตน แค่นี้ก็รู้แล้วว่าคุณสู้ผมไม่ได้ ยกเว้นคุณจะแถและบิดเบือน
น.พ.วรงค์ ระบุว่า เอาแค่ลายจุดถูกดำเนินคดีเรื่องแสดงฉลากไม่ถูกต้อง(ตามหลักฐานบันทึกประจำวันที่ลายจุดโพสต์)ก็ยังแถไปว่าเป็นความผิดเรื่องพรบ.อาหาร ดังนั้นถ้าดูรายละเอียดความผิดของลายจุดเรื่องแสดงฉลาก จะพบว่าข้าวลายจุดมีความผิดหลายข้อ 1.ไม่มีชื่อประเภทและชนิดข้าวสารบรรจุถุง เพราะต้องบอกด้วยเป็นข้าวหอทปทุมกี่เปอร์เซ็นต์ 2.วิธีการใช้หรือหุงต้มก็ไม่มี 3.ไม่ระบุสถานที่ผลิต 4.ไม่มีราคาขายปลีก และ 5.ไม่มีวันผลิต ข้อนี้อาจยกเว้นให้ก็ได้ เพราะกฏหมายเขียน(ถ้ามี)
จะสังเกตว่าลายจุดพยายามแถว่า ของตนเองไม่เข้าข่ายโรงงานที่ต้องแสดงสลาก(วิสาหกิจชุมชน ไม่เข้าข่ายโรงงานที่ต้องแสดงฉลาก) แต่ก็อ้างเพียงว่า พาอุตสาหกรรมไปดูแล้ว ว่าสถานที่ของตนเองไม่เข้าข่ายโรงงาน ถ้าไม่เข้าข่ายโรงงานที่ต้องแสดงฉลากก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไร ไม่เห็นต้องดึงข้าวจากวิสาหกิจชุมชนไปเกี่ยวด้วย ผมว่าตลกมากที่อ้างลอยๆ ว่าพาอุตสาหกรรมไปดู ลายจุดคงต้องแสดงหนังสือหลักฐาน อ้างลอยๆใครๆก็อ้างได้ ถ้ามีหนังสือก็ไม่มีใครว่าก็จบ ลายจุดก็ไปสู้คดี และมีโอกาสชนะคดี แต่ย้ำว่าไม่ควรพาลมาถึงข้าววิสาหกิจชุมชน ที่รู้อยู่ว่าไม่เข้าข่าย
เหมือนกับการพิมพ์ข้างถุงว่า ข้าวในถุงนี้ซื้อจากชาวนาเกวียนละ 15000 บาท ใครๆก็รู้ว่าทำเพื่ออะไร แต่ก็ไม่ว่ากันถ้าทำจริง แต่ไม่ควรจะพูดลอยๆ เอาหลักฐานการซื้อข้าวเปลือก สถานที่ การเก็บข้าวเปลือก การสีข้าว มาให้สังคมดูซิว่าเป็นของจริง ก็จะไม่มีใครว่าอีก อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังอยากย้ำให้ลายจุดได้สำนึกครับว่า ลายจุดคุณสู้ผมไม่ได้หรอก ระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ชาวนา ระหว่างชื่อข้าวลายจุดที่ต้องการโฆษณาตัวเองกับข้าวบ้านเสาหินที่ต้องการโฆษณาหมู่บ้าน ระหว่างผลกำไรที่เป็นของส่วนตัวกับเป็นของวิสาหกิจชุมชนที่ชาวบ้านช่วยกันทำ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
