ล้มแผนปฏิวัติซ้อน!

"ไฟที่มีไม่มีควัน"


ห้วงเวลาที่ผ่านมามีข้อความสองข้อความที่ค่อนข้างหนาหู นั่นคือข้อความที่ว่าปฏิวัติซ้ำ ปฏิวัติซ้อน แต่บางครั้งก็มีข้อความปฏิวัติเสริมแหลมออกมาบ้าง ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นลอย ๆ เพราะไม่มีไฟไหนเลยจะมีควัน

เพียงแต่ไขว้เขวกันในเรื่องความหมายเท่านั้น

ปฏิวัติซ้ำหรือปฏิวัติเสริมมีความหมายเป็นอย่างเดียวกัน คือปฏิวัติโดยคณะเดิมเพื่อซ้ำหรือเสริมสิ่งที่ยังขาดตกบกพร่อง หรือที่ยังไม่อาจทำอะไรโดยเด็ดขาดได้ให้มันเด็ดขาดลงไป

ส่วนปฏิวัติซ้อนนั้นหมายถึงการยึดอำนาจของขั้วอำนาจเดิมเพื่อยึดอำนาจกลับคืน เพราะพวกขั้วอำนาจเดิมนั้นไม่เหมือนนักการเมืองหรือพรรคการเมืองอื่น ๆ ที่ถือว่ามาทำหน้าที่ทางการเมืองชั่วระยะเวลาหนึ่ง ๆ ตามเวลาวาระแล้ว เมื่อถึงห้วงเวลาหนึ่งก็ต้องพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ไป

แต่พวกอำนาจเก่านั้นปกครองบ้านเมืองมา 5-6 ปีแล้วติดยึดในอำนาจ หลงเข้าใจผิดคิดว่าบ้านเมืองนี้ประเทศนี้เป็นของพวกเขา

ดังนั้นจึงคิดว่าการที่ถูกคณะทหารยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เป็นการถูกแย่งของรักของหวงของตัวเอง จึงผูกแค้นพยาบาทและหมายมาดปรารถนาจะกลับมามีอำนาจใหม่

"หากปล่อยมามีล้างแค้นแน่"


ซึ่งคนทั้งหลายก็พอจะรู้เท่าทันว่าหากปล่อยให้กลับมา สถาบันสำคัญของบ้านเมืองก็จะถูกล้างแค้น ถูกทำลายจนย่อยยับดับสูญ คณะทหาร ข้าราชการ และประชาชนผู้รักชาติรักประชาธิปไตยก็จะถูกล้างผลาญจนวายวอดตาม ๆ กัน

เพราะเหตุที่อำนาจเก่ายังคิดอ่านที่จะกลับมามีอำนาจใหม่ ดังนั้นการต่อสู้จึงยังไม่สิ้นสุดลง ยังคงดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อจะกลับมามีอำนาจใหม่ นี่คือต้นตอของเรื่องปฏิวัติซ้อน

ในขณะเดียวกันอำนาจใหม่ซึ่งหลงลมแก๊งนักร่างรัฐธรรมนูญที่มีจุดยืนไม่แจ่มชัด และนักวิชาการบางส่วนที่เป็นพวกประชาธิปไตยเฟ้อได้สละอำนาจของตนเองจนกลายเป็นยักษ์ไร้กระบองและทำอะไรไม่ได้ จนถูกกดดันอยู่ทุกวันคืนในขณะนี้

แรกเริ่มเดิมทีก็เข้าใจผิดคิดว่ายึดอำนาจมาเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้วจึงตั้งความระแวงประชาชนผู้รักชาติรักประชาธิปไตยว่าจะเป็นเสี้ยนหนามใหญ่ในภายหน้า จึงพยายามลิดรอนและบ่อนทำลายโดยลำดับมา

แต่ประชาชนผู้รักชาติรักประชาธิปไตยในยุคนี้ไม่เหมือนยุคเก่าแล้ว จึงรู้เท่าทันและเสนอเข็มมุ่งขึ้นภูดูเสือกัดกัน โดยด้านหนึ่งสนับสนุนด้านกำลังใจและทางความคิดแก่รัฐบาลและ คมช. แต่อีกด้านหนึ่งก็ยังคงปักหลักต่อสู้กับระบอบทักษิณอย่างเด็ดเดี่ยว

"อำนาจเก่ายังไม่ดับสูญ"


เมื่อเป็นเช่นนี้ทั้งรัฐบาลและ คมช. ก็เผชิญหน้ากับอำนาจเก่ากันซึ่งหน้าตรง ๆ และเมื่อผ่านวันเวลามา 3 เดือนเศษ ความจริงก็ได้ประจักษ์ชัดเจนว่าอำนาจเก่ายังไม่ได้ดับสูญจริง ยังซึมแทรกอยู่ในหลายหน่วยงาน และพร้อมที่จะลุกมาโค่นล้มอำนาจใหม่อย่างโหดเหี้ยมอำมหิตด้วย

ร่วม 4 เดือนที่ผ่านมานี้รัฐบาลและ คมช. ต้องต่อสู้ ต้องสกัดยับยั้งการเคลื่อนกำลังมวลชนจากภาคเหนือ ภาคอีสาน เข้ามายึดอำนาจคืน

ชักคะเย่อกันอยู่เกือบ 4 เดือน ในที่สุดแผนนี้ก็ถูกทำลายลงแทบจะสิ้นเชิงในวันที่ 9 ธันวาคม 2549 ซึ่งถือว่าเป็นวันดีเดย์ของแผนการระดมมวลชนล้มรัฐบาลและ คมช.

ด้วยการหนุนช่วยจากประชาชนผู้รักชาติรักประชาธิปไตยทั่วประเทศกว่า 10 ล้านคน รัฐบาลและ คมช. สามารถทำลายแผนเคลื่อนมวลชนดังกล่าวได้อย่างมีชัย

แต่กระบวนการล้มล้างอำนาจรัฐใหม่ยังไม่สิ้นสุด ยังคงดำเนินต่อมาภายใต้แผนเผาแหลก เผาเละ ซึ่งได้เผาโรงเรียนในภาคเหนือและภาคอีสานไปเป็นจำนวนมาก

สถานการณ์ยังคงอยู่ในขั้นยันและยังไม่สิ้นสุดเพราะยังมีเหตุการณ์เผาโรงเรียนอยู่ในเขตอีสานใต้ต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้

"ใครที่ต้องรับกรรม"


แผนอุบาทว์นี้ทำให้ลูกเด็กเล็ก ๆ ซึ่งเป็นลูกหลานชาวบ้านอย่างเราท่านต้องรับชะตากรรม จึงถูกต่อต้านจากประชาชนกว้างขวางขึ้นทุกวัน แต่น่าแปลกใจที่ไม่สามารถจับคนร้ายได้เลยแม้แต่คนเดียว

เรายืนยันฟันธงว่าคนร้ายเคลื่อนไหวและดำเนินแผนดังกล่าวได้เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคนที่เป็นลิ่วล้อทรราชให้การคุ้มครอง เปิดไฟเขียวให้ หนุนช่วยอยู่อย่างลับ ๆ และละเว้นไม่สืบสวนจับกุมคนผิดเพื่อดิสเครดิตรัฐบาลและ คมช.

แต่เมื่อรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ได้เปิดโปงแผนอุบาทว์นี้และเป้าหมายแผนอุบาทว์นี้ที่มุ่งดิสเครดิตรัฐบาลและ คมช. ออกไปแล้ว อำนาจเก่ายิ่งเดินแผนนี้ต่อไปก็ยิ่งมีแต่ความบรรลัยอยู่เบื้องหน้าและจะต้องถูกประชาชนจับประชาทัณฑ์ในไม่ช้านี้

เท่านั้นยังไม่หมด แผนปฏิวัติซ้อนได้กำหนดวันดีเดย์ขึ้นในห้วงเวลาต้นปีใหม่ โดยเริ่มแผนการจากการวางระเบิดส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ก่อสถานการณ์จลาจลขึ้น แล้วจะมีการใช้กำลังจำนวนน้อยบุกเข้าจับตัวหัวหน้ารัฐบาลและแกนนำ คมช. จากนั้นก็ใช้โทรทัศน์บางช่องเป็นศูนย์กลางในการประกาศการยึดอำนาจ

จากนั้นจะมีพิธีการต้อนรับอัครมหาบุรุษที่สัญจรอยู่ในประเทศจีนเข้าประเทศไทยทางภาคเหนือ ซึ่งมีคนที่รู้แผนการนี้เตรียมการไปต้อนรับขับสู้อย่างเนืองแน่น มีการจองโรงแรมและบ้านพักในบางหมู่บ้านในสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่อย่างลับ ๆ

แต่ทว่าแผนการปฏิวัติซ้อนนี้มีจุดอ่อนอยู่สองข้อ จึงล้มเหลวลงอย่างไม่เป็นท่า

ข้อแรก


คนวางแผนลืมคิดไปว่าพลังประชาชนผู้รักชาติรักประชาธิปไตยกว่าสิบ ล้านคนมีอยู่ในทุกภาคส่วน ทุกหน่วยงานของประเทศนี้ ไม่ว่าเหล่าทัพไหน ไม่ว่าสำนักงานไหนของตำรวจ และไม่ว่าแห่งหนตำบลไหน แม้ในครอบครัวของพวกอำนาจเก่าก็ตาม

ความสำนึกจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความตื่นตัวทางการเมืองเปี่ยมล้น ดังนั้นที่ไหนที่มีลมก็มีหูของประชาชนผู้รักชาติรักประชาธิปไตยที่ได้ยินทุกเสียง ที่ไหนที่มีความสว่างมองเห็นได้ ที่นั่นก็มีตาของประชาชนผู้รักชาติรักประชาธิปไตยที่มองเห็นได้

หูตาประชาชนหลายสิบล้านคู่ที่มีอยู่ทุกหนแห่งนี้จึงทำให้ทุกเหตุการณ์ไม่อาจหลุดรอดจากความรับรู้ไปได้ ทำให้รัฐบาลและ คมช. ได้ล่วงรู้แผนอุบาทว์นี้

ฝ่ายทหารจึงได้เตรียมการอย่างพรักพร้อมและทันทีที่เกิดเหตุระเบิด พวกวางแผนปฏิวัติซ้อนก็ต้องผิดหวังเพราะไม่อาจขยับแผนต่อไปได้อีก เนื่องจากกำลังทหารได้เข้าตรึงกำลังในจุดยุทธศาสตร์สำคัญต่างๆ ทั่วทั้งพื้นที่

และแกนนำหัวโจกต้องพากันหนีกระเจิดกระเจิง จนวันนี้ก็ยังรวมตัวกันไม่ติด

กระบวนการปล่อยข่าวลือกระทำโดยใคร จากที่ไหน การประกอบวัตถุระเบิดทำที่ไหน โดยใคร ใครเป็นจุดประสานงานและจุดตัดตอนก็รู้ ๆ กัน

ข้อสอง


คนวางแผนลืมคิดไปว่ากองทัพไทยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นจอมทัพนั้นเป็นเอกภาพ ไม่มีทางที่จะอ่อนข้อหรือยอมขายตัวให้กับอำนาจเงินใด ๆ โดยเฉพาะผู้คุมกำลังระดับกองพันนั้นล้วนมีความจงรักภักดีอย่างเหนียวแน่น และมีความเป็นเอกภาพกับผู้บังคับบัญชาปัจจุบันอย่างเหนียวแน่น

ความจริงคนคิดแผนก็ระแวงเรื่องนี้อยู่แล้ว จึงทำทีตีสองหน้าหนีอออกไปจากเหตุการณ์ บ้างก็ไปอยู่ต่างประเทศ บ้างก็ไปอยู่ต่างจังหวัด จะได้ปัดความเกี่ยวข้องหากว่าล้มเหลว

กระบวนการของคนรับจ้างมันก็เป็นเช่นนี้แหละ! มันไม่ใช่การต่อสู้ด้วยอุดมการณ์ มันเป็นการรับแผนรับจ้างกันมา จึงพังอย่างไม่เป็นท่า

เหตุการณ์ระเบิดส่งท้ายปีเก่าจึงไม่ใช่เหตุการณ์ธรรมดา หากเป็นส่วนหนึ่งของการก่อกบฎในราชอาณาจักร ซึ่งความจริงรัฐบาลและ คมช. จะต้องเร่งรีบจัดการอย่างเด็ดขาดกับเหล่ากบฏนั้น

ใครเป็นญาติพี่น้องของคนพวกนี้ก็ต้องเตือนให้รีบถอนตัวเสียโดยไว

เราบอกได้ว่าการระเบิดเมืองมีโทษสถานหนักถึงขั้นประหารชีวิต รีบออกตัวเสียให้ทันจึงจะมีความปลอดภัยและยังนับได้ว่าเป็นการช่วยชาติบ้านเมือง

"พี่น้องชาวไทยร่วมเป็นหูเป็นตา"


งานนี้ต้องสดุดีพี่น้องประชาชนผู้รักชาติรักประชาธิปไตยที่เป็นหูเป็นตาให้กับรัฐบาลและ คมช. ทำให้ข่าวและเบาะแสการเตรียมกำลังคนและความเคลื่อนไหวก่อกบฏปรากฏชัดเจน และทำให้การรับมือตรงเป้าเข้าจุดอย่างยิ่ง

เราคนไทยทั้งประเทศจะต้องผนึกกำลังสามัคคีกำจัดอริราชศัตรู ถอนรากถอนโคนลิ่วล้อทรราชต่อไปอย่างเด็ดเดี่ยว มิฉะนั้นแผ่นดินนี้จะไม่มีวันเป็นสุข

มิฉะนั้นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะไม่มีวันปลอดภัย

ประชาชนไทยที่รักชาติรักประชาธิปไตยกว่าสิบล้านคนตื่นขึ้นแล้ว เผด็จการทรราชจะไม่มีทางขยับขับเคลื่อนอะไรได้ อีกไม่นานคงจะได้เห็นอะไรดี ๆ กว่านี้แน่.

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์