ลอยแพเจ๊วาเผชิญศึกซักฟอก

มาร์คให้ชี้แจงเองเหตุข้าวของแพง

"มาร์ค" ลอยแพ "เจ๊วา" เผชิญศึกซักฟอกสวาปาล์ม-ข้าวของแพง อ้าง รมต.ต้องรับผิดชอบงานตัวเอง พร้อมฟุ้งเปิดเวทีปลายสัปดาห์นี้ “เทือก” ดักคอฝ่ายค้านโชว์ใบเสร็จหรือเศษกระดาษ ฝ่าย “กรณ์” แบไต๋ถ้า “ปชป.” อกหักงวดหน้าทุกอย่างเหมือนเดิม ฟาก “ภูมิใจไทย” ตั้งทีมองครักษ์ 4 รมต. ลั่นฟ้องกลับกราวรูด “เพื่อแม้ว” สาดโคลนกลางสภา ส่วน “วิปรัฐบาล” แบะท่าให้พ่นน้ำลาย 2 วัน ด้าน “เพื่อแม้ว” ยื่นญัตติซักฟอก 10 รมต. วันนี้ ส่วนญัตติถอดถอน 9 รายคาดถึงมือ “ป.ป.ช.” 4 มี.ค. แถมตีปี๊บเปิดตัว “ดี-เด่น-ดัง” ลง ส.ส.เขต ส่วน “สดศรี” มาแปลกอยากให้ปฏิวัติแทนเลือกตั้ง ขณะที่ “ดีเอสไอ” ไม่ฟันธงปืนยิงช่างภาพญี่ปุ่น อ้าง 3 แบบมีใช้ในเมืองไทย ด้าน “บิ๊กตู่” ยืนกราน “อาก้า” ใช้เฉพาะชายแดนเท่านั้นฮึ่มคดียังไม่ยุติห้ามโยนบาป

“มาร์ค”ฟุ้งพร้อมเปิดซักฟอก
        
เมื่อวันที่ 28 ก.พ. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านขอเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล 4 วันว่า จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลปลายสัปดาห์นี้เลยก็ได้ ส่วนจะใช้เวลากี่วัน อยู่ที่จำนวนผู้ถูกอภิปรายและผู้อภิปราย คงต้องหารือนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อถามว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะทำให้ตัดสินใจยุบสภาง่ายขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า จะคลายไปอีกเรื่อง
        
ส่วนการอภิปรายในประเด็นสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงจะยิ่งทำให้ความขัดแย้งบานปลายหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ฝ่ายค้านมีสิทธิอภิปรายประเด็นที่อยู่ในขอบเขตกฎหมาย และต้องรับผิดชอบในสิ่งที่นำเสนอ ต่อข้อถามว่า ปัญหาปากท้องจะเป็นจุดตายรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แม้มาตรการของรัฐจะมีช่องว่างแต่ก็พยายามช่วยประชาชนเท่าที่ทำได้ อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีทุกคนต้องพร้อมและต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ ทั้งนี้ไม่ต้องมีคนไปช่วยนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์  ที่จะถูกอภิปรายเรื่องน้ำมันปาล์มแพง 

“เทือก”ดักคอ“ใบเสร็จ”ปลอม
        
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นโอกาสดีที่จะได้ใช้เวทีสภาชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับการสลายกลุ่มคนเสื้อแดงและปัญหาน้ำมันปาล์ม เพราะจะมีการถ่ายทอดสดให้ประชาชนวินิจฉัยและตัดสินใจว่าใครพูดความจริง จะทำให้ประชาชนได้เห็นธาตุแท้ของนักการเมืองและพรรคการเมืองไปพร้อม ๆ กันทั้งประเทศ ส่วนจะใช้เวลาอภิปรายกี่วันก็ได้ สำหรับตนอยากให้ยาว ๆ จะได้ว่ากันเต็มที่
        
รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเกรงรัฐบาลจะชิงยุบสภาหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่หนีปัญหาแน่นอน และพร้อมจะเผชิญหน้ากับข้อกล่าวหาของพรรคเพื่อไทย และจะพูดความจริงให้ฟังทั้งหมด ส่วนที่ฝ่ายค้านยืนยันว่ามีหลักฐานเป็นใบเสร็จนั้น ตนคงไม่ไปสบประมาท แต่ขอให้เอามาดูกันว่าเป็นใบเสร็จหรือกระดาษห่อของ ส่วนแนวคิดการหาสมาชิกวีไอพีนั้น ยืนยันว่าพวกตนไม่ได้เข้ามาถอนทุน อย่ามองในแง่ร้ายไปหมด

“ขุนคลัง”ตีปี๊บสัญญาล่วงหน้า
        
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า เป็น รมว.คลัง มา 2 ปี ถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจมาแล้ว 3 ครั้ง ภาพรวมไม่ได้กังวลอะไร เพราะอย่างที่รู้กันว่า ฐานะเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างไร รับช่วงต่อจากรัฐบาลก่อนมีฐานะเป็นอย่างไร ทุกอย่างดีขึ้นอย่างไร และพร้อมชี้แจงเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริง 
        
ส่วนกรณีที่นายกฯ มีนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีก 25 เปอร์เซ็นต์นั้น รมว.คลัง กล่าวว่า เป็นความตั้งใจของรัฐบาลและเป็นส่วนหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะดูแลค่าแรงผู้ใช้แรงงาน เพราะส่วนแบ่งผลตอบแทนเศรษฐกิจตั้งแต่วิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ยังไม่ถูกแบ่งปันอย่างเป็นธรรมให้ผู้มีรายได้น้อย เนื่องจากผลประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจส่วนใหญ่ยังตกอยู่ที่นายทุน การขึ้นค่าแรงดังกล่าวจึงถือว่าเป็นการแทรกแซงที่เป็นธรรม ทั้งนี้จะปรับขึ้นค่าแรงแน่นอน หากว่าพรรคได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง

“ภท.”ตั้งองครักษ์-ฟ้องป้ายสี
        
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ 10 คน เป็นของพรรคภูมิใจไทยถึง 4 คน ซึ่งใน 4 คนที่จะถูกอภิปราย ทุกคนเป็นจุดเด่น ไม่มีจุดด้อย ส่วนที่ฝ่ายค้านระบุว่ามีหลักฐานเอกสารชัดเจนนั้น เวลาซักฟอกก็เป็นอย่างนี้ตลอดเวลา แต่หลังจากซักฟอกแล้วก็มีการลงมติ มันเป็นเกมของการเมือง ไม่มีอะไร สำหรับการชี้แจงของตนนั้น ตนพูดน้ำไม่เป็น พูดเป็นแต่เนื้อ ยืนยันว่ามีหลักฐานพอ สามารถพูดทุกอย่างที่เป็นความจริง พูดกี่ครั้งก็เหมือนกัน และไม่จำเป็นต้องตั้งวอร์รูมเพื่อเตรียมการชี้แจงอภิปราย
        
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า หากมีการอภิปรายโดยบิดเบือนข้อมูลหรือใส่ร้ายป้ายสีด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือพูดเพียงครึ่งเดียว รัฐมนตรีและพรรคภูมิใจไทยจะต้องปกป้องตัวเองโดยการดำเนินคดีกับผู้ใส่ร้ายทันที เพราะไม่ต้องการให้การอภิปรายเป็นเวทีในการใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น สำหรับปัญหาน้ำมันปาล์มเป็นปัญหาที่ทั้งรัฐบาลต้องร่วมกันแก้ไข และหากจะเป็นผลงานก็ถือเป็นผลงานของรัฐบาล ไม่ใช่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง

“วิปรัฐบาล”ลักไก่ขอดูข้อสอบ
        
นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วิปได้หารือกรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี โดยเห็นว่าหากฝ่ายค้านยื่นญัตติแล้วจะสามารถเปิดให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ในสัปดาห์ถัดไป อย่างไรก็ตามคงต้องหารือกับรัฐบาลก่อน และจะหารือฝ่ายค้านเรื่องจำนวนวันอภิปรายเพื่อให้อยู่ในกรอบธรรมเนียมปฏิบัติที่เคยทำกันมา แต่คงไม่ปล่อยให้ใช้เวลา 4-5 วันตามที่ร้องขอ เพราะสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านยื่นอภิปรายรัฐมนตรี 12 คน ใช้เวลาแค่ 2 วันเท่านั้น 
        
“ยืนยันได้ว่าจะไม่ให้เสียเปรียบกว่าวันที่พวกผมยื่นอภิปรายพวกท่านแน่ ผมจะให้มากกว่าด้วยซ้ำไป เรื่องนี้ต้องดูความเหมาะสมด้วย เพราะถ้าเราเปิดเวลาให้ฝ่ายค้านเต็มที่ แล้วว่ายน้ำทวนทะเล ขี่ม้าเลียบค่าย ชาวบ้านจะด่าคนที่ถ่ายทอดสดด้วยซ้ำ ถ้าพูดเรื่องไร้สาระแล้วขอต่อรองเวลาไปเรื่อย ๆ ไม่มีวันจบ ถ้าบอกว่ามีเรื่องดีก็เอามาให้ผมดู ถ้าดีจริง ผมให้เวลายาวแน่” ประธานวิปรัฐบาล ระบุ 

“พท.”ยื่นถอด 9 รมต. ตามโผ
        
อีกด้านหนึ่ง ที่รัฐสภา นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พร้อมด้วยนายสุพล ฟองงาม เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน และสมาชิกจำนวนหนึ่ง เข้ายื่นญัตติต่อนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เพื่อขอให้ดำเนินการถอดถอนนายกฯ และรัฐมนตรีอีก 8 คนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 271 โดยญัตติดังกล่าวมี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลงชื่อจำนวน 171 คน 
        
สำหรับรายชื่อรัฐมนตรีที่ถูกยื่นถอด ถอน ประกอบด้วย 1. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ 2. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ 3. นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง 4. นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) 5. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี 6. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย 7. นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม 8.นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ และ 9. นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ 

“ปู่สุข”คาดส่ง“ป.ป.ช.”ศุกร์นี้ 
        
นายวิทยา บุรณศิริ กล่าวว่า วันที่ 1 มี.ค. พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรี 9 คน ซึ่งเพิ่มนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ จะมี ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน และพรรคประชาราช ร่วมลงชื่อด้วย ส่วนรายชื่อ นายกฯ แนบท้ายญัตตินี้คือนายมิ่งขวัญ ต่อข้อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะร่วมอภิปรายด้วยหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้ ร.ต.อ.เฉลิม กำลังเลือกประเด็นที่จะอภิปราย 
        
ขณะที่ นายประสพสุข กล่าวว่า จะดำเนินการตรวจสอบคำร้องของฝ่ายค้านว่ามี ส.ส. เข้าชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะตรวจสอบว่ามี ส.ส.เข้าชื่อครบ 119 คนขึ้นไปหรือไม่ ซึ่งมีเวลาในการดำเนินการภายใน 15 วัน จากนั้นจะส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามมาตรา 274 คาดว่าจะสามารถส่งไปยัง ป.ป.ช. ได้ในวันที่ 4 มี.ค. นี้ 

“มาร์ค” ติง ผบ.ตร. ทำเกินเหตุ
        
วันเดียวกัน ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เข้ารับพระราชทานปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ โดย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. เข้ารับปริญญานิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จาก ม.รามคำแหง เช่นเดียวกัน ก่อนพิธีจะเริ่มขึ้นนายกฯ ได้สอบถาม ผบ.ตร. กรณีนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินตรวจการณ์ที่วัดบัวแก้วเกสร อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่ง พล.ต.อ.วิเชียร ชี้แจงสั้น ๆ ว่า เจ้าหน้าที่เตรียมการไว้  ทำให้นายอภิสิทธิ์ กล่าวตอบอย่างอารมณ์ดีว่า คนเสื้อแดงที่ไปมีเพียง 20 คนเท่านั้น ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร 
        
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า กำลังจะให้ตรวจสอบว่ามีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังขัดขวางการทำงานและการหาเสียงครั้งนี้หรือไม่ หากโยงว่าใครอยู่เบื้องหลังก็จะต้องดำเนินการ กรณีนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องเข้ามาดูด้วย เพราะเป็นความผิดตามกฎหมาย   อย่างไรก็ดีอาจจะมีบางฝ่ายไม่อยากให้มีเลือกตั้งใหม่ก็ได้ ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้ยุบสภามาตลอด แต่เวลานี้กลับไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ทำไมจุดยืนถึงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 

ฮึ่มเทียบฟอร์ม“มาร์ค-มิ่งขวัญ”
        
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเลือกตั้งที่จะถึงนี้จะเป็นการเลือกผู้นำ สังคมจะได้เปรียบเทียบระหว่างทิศทางการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน เชื่อว่าปัจจัยที่จะส่งผลต่อการตัดสินใจเป็นเรื่องของประสบการณ์ในอดีต กรณีนายอภิสิทธิ์จะดูจากประสบการณ์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คือ ปี 2552-2553 ส่วนนายมิ่งขวัญ ต้องย้อนดูช่วงที่เป็นรัฐมนตรีระหว่างปี 2550-2551 การตัดสินใจของประชาชนจะมีผลโดยตรงต่อการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เชื่อว่าไม่ว่าประชาชนจะเลือกนายอภิสิทธิ์หรือนายมิ่งขวัญ ซึ่งจะลงสมัครในระบบบัญชีรายชื่อ จะส่งผลไปถึงผู้สมัครของพรรคในระบบเขตเลือกตั้งด้วย

“พท.”เปิดตัวดี-เด่น-ดังลง ส.ส. 
        
ด้านนายพร้อมพงศ์  นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า วันที่ 1 มี.ค. พรรคจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขตที่ผ่านการอนุมัติแล้วกว่า 300 คนจากจำนวน 375 เขต ในจำนวนนี้มีทั้ง ส.ส.ปัจจุบัน ผู้สมัครหน้าใหม่ ดี เด่น ดัง รวมไปถึงคนในตระกูลของประชาธิปัตย์ 1 คน ที่จะลงสมัครในภาคเหนือ และอีก 1 คนเป็นหม่อมหลวงลงในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อจะเริ่มพิจารณาหลังจากมีการยุบสภาแล้ว ทั้งนี้พรรคตั้งเป้าว่าจะได้ ส.ส. ทั้งสองระบบรวมกันไม่ต่ำกว่า 270 คน สำหรับกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เปิดตัวแผนการรณรงค์การเลือกตั้งโดยถือเคล็ดเลข 25 เป็นเลขนำโชคนั้น ทราบว่าได้มาจากซินแสใกล้ตัวนายกฯ แต่ดูแล้วไม่มีอะไรใหม่ 
        
“เลข 25 น่าจะสอดคล้องกับการชักเปอร์เซ็นต์ที่หอการค้าเคยร้องเรียนนายกฯ ว่า เอกชนไปเหมางานของรัฐจะถูกชักเปอร์เซ็นต์ 25 เปอร์เซ็นต์ซึ่งนายกรัฐมนตรีเคยรับปากว่าจะแก้ไขแต่ก็ยังไม่ดำเนินการ”  โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุ 

โชว์พลังดูด“ปชป.-ภท.”ซุกปีก
        
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้พรรคมีหลักฐานใหม่เกี่ยวกับการรับประโยชน์จากสัญชาติอังกฤษของนายอภิสิทธิ์ ซึ่งกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงและพร้อมจะส่งข้อมูลให้ทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเชื่อว่าเมื่อเปิดข้อมูลนี้ออกมาจะทำให้นายอภิสิทธิ์เป็นโมฆะบุรุษ 
        
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าจะเปิดทีวีสีฟ้าว่า ขอถามความเหมาะสมในฐานะที่เป็นรัฐบาล มีสื่อทั้งวิทยุ โทรทัศน์อยู่ในมือจำนวนมาก อีกทั้งเป็นการสุ่มเสี่ยงการกระทำที่ผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 48 อีกด้วย 
        
รายงานข่าวแจ้งว่า การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยจะมีคนในตระกูล “ไชยนันทน์” มาลงสมัครที่ จ.กำแพงเพชร รวมทั้งตระกูล “กิตติธเนศวร” ที่เคยประกาศตัวไปร่วมกิจกรรมกับพรรคภูมิใจไทยจะขอ กลับมาสังกัดพรรคเพื่อไทยตามเดิม นอกจากนี้ยังได้ทาบทาม ส.ส.ชลบุรี 3 คนของพรรคประชาธิปัตย์ ให้มาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยอีกด้วย

“ปชป.”ดาหน้าปัดข่าวย้ายรัง
        
ด้านนายธนิตพล ไชยนันทน์ ส.ส.ตาก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยเตรียมเปิดตัวคนในตระกูล “ไชยนันทน์” ลงสมัคร ส.ส.กำแพงเพชร ว่า เท่าที่ทราบไม่มีญาติคนใดจะไปลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย 
        
นายมานิตย์ ภาวสุทธิ์ ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวยืนยันว่า จะยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป การที่ให้พรรคหาผู้สมัครสำรองมาแทนตน เนื่องจากตนคิดจะไปทำธุรกิจและลงเล่นการเมืองท้องถิ่น หรืออาจหยุดเล่นการเมือง แต่ถ้าพรรคยังหาตัวผู้สมัครที่เหมาะสมไม่ได้ตนก็จะลงสมัคร ส.ส. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป และทุกวันนี้ไม่เคยคิดจะไปอยู่พรรคการเมืองอื่น ทั้งนี้ยอมรับว่ามีคนมาติดต่อพูดคุยบ้างแต่ได้ปฏิเสธไปแล้ว
        
น.ส.ปรีชญา ขำเจริญ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับว่า รู้จักและสนิทสนมกับนายบุญลือ ประเสริฐโสภา และ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม แกนนำพรรคภูมิใจไทย อีกทั้งเคยพูดเรื่องร่วมงานกับพรรคอื่นมาตลอด แต่ตอนนี้ยังไม่สนใจพรรคไหนเป็นพิเศษ และตั้งแต่ตนลงคะแนนสวนมติพรรคในเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ยังไม่มีผู้ใหญ่ในพรรคคนใดมาพูดคุยกับตนในเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าพรรคจะให้ตนอยู่ต่อไปหรือไม่   

“เจ๊สด”กรี๊ดเรียกร้องให้ปฏิวัติ
        
ที่สำนักงาน กกต. นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. เป็นประธานเปิดประชุมชี้แจงความรู้เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญและกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยมีผู้บริหารและพนักงานประมาณ 400 คน เข้าร่วม โดยนายอภิชาต กล่าวว่า ขณะนี้รอให้รัฐธรรมนูญที่แก้ไขมีผลบังคับใช้ ซึ่งทุกฝ่ายเริ่มนับถอยเข้าสู่การเลือกตั้งแล้ว กกต. พร้อมจัดการเลือกตั้งเสมอ ส่วนการแบ่งเขตจะไม่เป็นปัญหา เชื่อว่าแบ่งเขตทำได้ในเวลารวดเร็ว ถ้ายุบสภาแล้วการแบ่งเขตก็ออกมาได้เลย 
        
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า เลือกตั้งครั้งหน้าการแข่งขันจะสูง จะมีการซื้อเสียงรุนแรง เพราะต่างฝ่ายต้องการที่จะชนะเพื่อให้มีอำนาจรัฐ ในฐานะ กกต. ต้องทันเกมและหาทางป้องกันแก้ไขด้วย 
        
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าจะเกิดในกลางปีนี้หรือปีหน้าหรืออาจจะไม่มี ไม่มีใครคาดการณ์ได้ เพราะประเทศไทยแปลกที่เราไม่มีการวางแผนระยะยาว “ถ้าปฏิวัติได้ปฏิวัติเลย ไม่อยากให้มีเลือกตั้ง เหนื่อยมาก 4 ปีที่ผ่านมา สงสาร กกต. 4 ท่านมาก เมื่อถึงจุดนี้แล้วต้องเดินต่อไปให้รู้ดำรู้แดง เมื่อเราพ้นวาระแล้วจะเป็นอย่างไร คนเราตายหลายครั้งไม่ได้ครั้งเดียวให้มันแตกหักไปเลย” 

แจงผลวิเคราะห์ศพ“ฮิโรยูกิ”
        
อีกด้านหนึ่ง ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์  อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัมพร  จารุจินดา ที่ปรึกษาดีเอสไอ และอดีตผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ร่วมกันแถลงชี้แจงกรณีการเสียชีวิตของนายฮิโรยูกิ  มูราโมโตะ  ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ ชาวญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553  
        
พล.ต.ท.อัมพร กล่าวว่า ได้วิเคราะห์จากรายงานผลการชันสูตรของแพทย์เพิ่มเติมจากเดิมในทุกคดี แต่มีบางส่วนที่ไม่สามารถยืนยันได้ ในรายของนายฮิโรยูกิค่อนข้างชัดเจน เพราะบาดแผลมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางโตกว่าแผลในส่วนอื่น ๆ ตามองค์ประกอบที่ควรจะเป็น หากเป็นกระสุนความเร็วสูงขนาดเล็กตลอดทางวิ่งของบาดแผลภายในร่างกายกระสุนจะแตกกระจายออก และทิ้งร่องรอยเศษตะกั่วเอาไว้ ทางการแพทย์เรียกว่า LEAD SNOW STORM แต่กรณีช่างภาพญี่ปุ่นได้รับการยืนยันจากแพทย์ผู้ผ่าว่าไม่มีภาวะดังกล่าว ส่วนศพ อื่น ๆ แผลเล็กกว่าฮิโรยูกิและไม่สามารถบอกอาวุธปืนที่ใช้ได้ เพราะไม่เห็นหัวกระสุนจากที่เกิดเหตุ

แฉปืน 3 ชนิดมีใช้ในเมืองไทย
        
ที่ปรึกษาดีเอสไอ กล่าวต่อว่า การตรวจสอบบาดแผลจึงสรุปได้เป็นแต่เพียงว่า ยิงจากกระสุนปืนที่มีขนาดไม่น้อยกว่า 7 มม. ซึ่งที่มีใช้อยู่ในภูมิภาคนี้รวมทั้งในประเทศไทยด้วยมีอยู่ 2-3 แบบ เช่น ปืนเอเค 47, ปืน 05 นาโต้ และปืนเซกาเซ่ ที่มีขนาดเท่ากัน คือ 7.62 มม. อย่างไรก็ตามทุกอย่างตนได้แค่สรุปจากบาดแผลกระสุนปืนเท่านั้น ซึ่งใช้ระยะเวลาแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น เมื่อถามว่า ระยะกระสุนปืนจากกระบอกปืนจนถึงร่างกายจะสามารถบอกระยะที่เจ้าหน้าที่ยืนได้หรือไม่ พล.ต.ท.อัมพร กล่าวว่า ไม่มีใครบอกได้  ส่วนจะใช่วิถีที่ยิงมาจากทหารหรือไม่ตนไม่ทราบ     
        
นายธาริต ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีการล่วงละเมิดต่อสถาบันเบื้องสูงว่า ดีเอสไอได้ทำการสอบสวนขยายผลและพบว่ามีกลุ่มบุคคลนอกเหนือจากกลุ่มบุคคลในแผนผังล้มเจ้า ได้กระทำความผิดในลักษณะเป็นเครือข่ายทางระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้ยังได้ดำเนินคดีต่างกรรมต่างวาระนอกเหนือจากคดีพิเศษรวมทั้งสิ้น 17 คดี โดยศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้กระทำผิด 5 รายไว้แล้ว และอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับอีกหลายราย

“บิ๊กตู่”ลั่น“อาก้า”ใช้ที่ชายแดน
        
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ว่า หน่วยทหารที่ใช้อาวุธปืนอาก้ามีใช้เฉพาะชายแดน ในพื้นที่กรุงเทพฯ ไม่มีใช้อยู่แล้ว เมื่อถามว่า หากผลสรุปว่าช่างภาพชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตด้วยอาวุธปืนอาก้าจะสบายใจหรือไม่ เพราะทหารจะได้ไม่ถูกกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนว่า เรื่องนี้มันจบหรือยัง ยุติแล้วหรือยัง เมื่อเรื่องยังไม่จบก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ขณะนี้พูดกันไปพูดกันมา เมื่อเช้ามีคนออกมาโต้ตอบเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ไม่ใช่อาวุธปืนอาก้า ดังนั้นต้องไปหาข้อเท็จจริงให้จบแล้วค่อยมาว่ากัน ตอนนี้ไม่มีใครผิดใครถูก อย่างไรก็ตามหน่วยทหารไม่จำเป็นต้องออกมาชี้แจง หากจะให้ทหารชี้แจงก็พร้อมจะชี้แจงตามกฎหมาย 
        
ขณะที่ พล.ต.วลิต โรจนภักดี ผบ.กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า พล.ร.2 รอ. ไม่มีและไม่ได้ใช้อาวุธปืนอาก้า ใช้เฉพาะอาวุธปืนเอ็ม 16 เอ  2 เท่านั้น ส่วนกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) ก็ใช้ปืนทราโว่เท่านั้น

“7 นปช.”เดินสายช่วยเสื้อแดง
        
ที่ศาลอาญา ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีหมายเลขดำ อ.2542/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้องนายวีระ  มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. กับพวกรวม 19 คนเป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย และมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป  กระทำการเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินและก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. จำเลยที่ 2 ได้มอบหมายให้ทนายความแถลงต่อศาลขอเลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานออกไป เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างสมัยประชุมสภาจึงไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ ศาลพิเคราะห์จึงอนุญาตให้เลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานออกไป เป็นวันที่ 11 ก.ค. เวลา 09.00 น.
        
ขณะเดียวกัน ที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ แกนนำ นปช. ทั้ง 7 คนที่ได้รับปล่อยตัวชั่วคราวทั้งหมดได้เข้าพบนางนงภรณ์ รุ่งเพชรวงศ์ ผอ.กองพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อทวงถามความคืบหน้าการช่วยเหลือคนเสื้อแดงที่ยังถูกคุมขังในเรือนจำต่าง ๆ ทั่วประเทศ



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์