ราเกซถึงกองปราบฯกลางดึก นอนบนเตียงคนไข้ถูกยกเข้าตึกทุลักทุเล หลังถูกสอบปากคำที่สุวรรณภูมิกว่า3ชม.

รถพยาบาลรพ.ตร.นำตัว"ราเกซ"ถึงกองปราบฯ จนท.ช่วยยกเตียงคนไข้เข้าตึกอย่างขลุกขลัก หลังเครื่องบินดีเลย์กว่า1ชั่วโมง คอมมานโดคุมเข้มเข้าสอบปากคำพร้อมแจ้งข้อกล่าวในสตม.กว่า3ชม. คาดหิ้วส่งศาลฝากขังพร้อมค้านประกันตัว "ชวรัตน์"บอกอย่าตีตนไปก่อนไข้

"ราเกซ"ถึงกองปราบ ตร.ช่วยยกเตียงทุลักทุเล


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 02.15 น. วันที่ 31 ต.ค. รถพยาบาลโรงพยาบาลตำรวจ นำตัวนายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการ (กก.ผจก.) ธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือบีบีซี ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์บีบีซี ถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนมาดำเนินคดีในประเทศไทย ภายหลังศาลฎีกาแคนาดาไม่อนุญาตฎีกา เดินทางถึงกองปราบปราม โดยนายราเกซอยู่บนเตียงคนไข้ หน้าตาอิดโรย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งพล.ต.ท.พงศพัศ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้ช่วยกันยกเตียงเข้าตึกบัญชาการกองปราบฯ ด้วยความทุลักทุเล ก่อนนำตัวนายราเกซไปสอบปากคำที่ห้องสอบปากคำชั้น 2


อย่างไรก็ตาม คณะแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ ตรวจสภาพร่างกายของนายราเกซอย่างละเอียดอีกครั้งว่าจะสามารถสอบปากคำได้หรือไม่


ถึงไทยแล้ว รถกองปราบรับถึงประตูเครื่องบิน

ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 22.45 น. วันที่ 30 ต.ค. เที่ยวบินที่ ทีจี 0615 ของสายการบินไทย ลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเที่ยวบินดังกล่าวเป็นเที่ยวบินที่นายราเกซเดินทางกลับมาจากแคนาดา โดยนายราเกซได้ออกจากเครื่องบินทางส่วนท้าย มีรถกองปราบปรามมารับถึงเครื่องบิน จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าสอบปากคำพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา และตรวจสุขภาพที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง


ส่งคอมมานโดคุม"ราเกซ"


เมื่อเวลา 20.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า ตามกำหนดการเดิมที่เครื่องทีจี 0615 ของสายการบินไทย ซึ่งคณะพนักงานอัยการและเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายราเกซ เดินทางกลับมาดำเนินคดี จะลงจอดเวลา 21.20 น. แต่ปรากฏว่ามีการเลื่อนออกไปเป็นเวลา 22.33 น. ทั้งนี้ภายในสนามบินสุวรรณภูมิมีตำรวจหน่วยคอมมานโดเตรียมรถตู้และรถวิทยุกองปราบปราม เข้าเทียบจอดรอรับตัวนายราเกซด้วย


ตร.คุมส่งศาล-คัดค้านประกันตัว


พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ที่ปรึกษา (สบ 10) ในฐานะหัวหน้าในการดูแลการรับตัวนายราเกซกล่าวว่า เมื่อนายราเกซมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว ตำรวจจะรับตัวมายัง บก.ป. ทันที เพื่อสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งการสอบสวนในครั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้เตรียมล่ามสำหรับแปลภาษาอังกฤษไว้ให้นายราเกซด้วย เนื่องจากนายราเกซอ้างว่าไม่ชำนาญในภาษาไทย โดยจะมีการพิมพ์สำนวนการสอบสวนการสอบปากคำสองภาษา ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เมื่อสอบปากคำเสร็จจะควบคุมตัวไว้ที่ บก.ป. จากนั้นช่วงเช้าวันที่ 31 ตุลาคม จะนำตัวไปขอศาลอาญา รัชดาฯ อนุมัติฝากขังพร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยทางตำรวจจะไม่ขอรับตัวกลับมาเพื่อสอบสวนต่อ


คดีนี้นายราเกซร่วมกับนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีต กก.ผจก.บีบีซี อนุมัติเงินกู้ให้กับบริษัท ซิตี้เทรดดิ้ง จำกัด จำนวน 1,657 ล้านบาท โดยทุจริต เกินอำนาจหน้าที่และไม่มีการประเมินราคาหลักประกันอย่างถูกต้อง ซึ่ง อสส.มีความเห็นสั่งฟ้องตั้งแต่เดือนกันยายน 2539 แล้วฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ ตามกฎหมายอาญา มาตรา 83, 352, 353, 354 และฐานร่วมกับกรรมการผู้จัดการ หรือบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคล เบียดบังทรัพย์ช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่กรรมการผู้จัดการเบียดบังทรัพย์นั้นไปอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 307-309 ,311,313 และ 315 ร่วมกับกรรมการผู้จัดการ หรือบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินการของนิติบุคคลได้เบียดบังทรัพย์นั้น อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 307-309,311, 313 และ 315 


"ชวรัตน์"ชี้ปม"เนวิน"อย่าตีตนก่อนไข้  


นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ต้องรอดูข้อมูลที่นายราเกซจะแฉก่อน การจะพูดอะไรต้องมีหลักฐานมาแสดงว่าเกี่ยวข้องกับใคร หากไม่มีหลักฐานตามสามัญสำนึกก็อาจจะต้องฟ้องกลับหากเป็นเรื่องไม่จริง อย่างไรก็ตาม นายราเกซเป็นนายธนาคาร ทำงานเกี่ยวกับผู้คนจำนวนมาก ไม่ใช่เกี่ยวพันแค่ 10 กว่าคน และธนาคารบีบีซีก็ไม่ใช่ธนาคารเล็กๆ


เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำ ภท.ที่อดีตเคยสังกัดกลุ่ม 16 หรือยัง นายชวรัตน์กล่าวว่า "อย่าตีตนไปก่อนไข้ รอให้นายราเกซให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน เพราะยังไม่รู้ว่าคำให้การออกมาในลักษณะใด"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเนวินเดินทางไปประเทศอังกฤษเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 30 ตุลาคม เพื่อส่งบุตรชายไปศึกษาต่อ  


ทนายกังวลไทยเพิ่มข้อหา"ราเกซ"


สำนักข่าวเอพีรายงานว่า นายอามันดีป ซิงห์ ทนายความของนายราเกซ เปิดเผยว่า นายราเกซยอมรับคำตัดสินของศาล และพร้อมที่จะแก้ต่างในการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อตนเองในประเทศไทย แต่มีความกังวลอยู่เช่นกันว่าทางการไทยอาจเพิ่มเติมข้อหาให้กับนายราเกซ แต่ก็ได้รับแจ้งจากทางการแคนาดาว่าได้รับคำรับประกันจากเจ้าหน้าที่ของไทยว่านายราเกซจะถูกดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเดิมเท่านั้น


ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวแคนเวสต์ของแคนาดา เปิดเผยว่า ก่อนศาลตัดสิน นายราเกซกล่าวว่า ถ้าหากจำเป็นต้องเดินทางไปต่อสู้คดีในประเทศไทยก็ต้องไป "ผมไม่ใช่คนที่ไม่รู้กฎหมาย แต่แน่นอน เป็นคนที่จะทำอย่างถึงที่สุดด้วยความหวังว่าจะได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม" นายราเกซกล่าว


ลั่นไม่ยอมแพ้ขอสู้คดีจนถึงที่สุด


รายงานข่าวระบุว่า แม้ศาลสูงแคนาดาจะไม่ให้เหตุผลประกอบการยกคำร้องของนายราเกซในครั้งนี้ แต่ในคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์แคนาดาเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2551 ที่ผ่านมา ผู้พิพากษา จอห์น ฮอลล์ สรุปไว้ในคำตัดสินว่าคดีของนายราเกซได้รับการพิจารณา "มากเกินพอ" แล้วจากรัฐมนตรียุติธรรมหลายคนในหลายรัฐบาลของแคนาดาที่ผ่านมา


"ศาลแห่งนี้ได้ให้คำพิพากษากระชับรัดกุมชัดเจนไปเมื่อเดือนมีนาคมปี 2006 แล้ว ไม่มีสิ่งใดที่ถูกนำส่งมายังเราส่อแสดงถึงความเคลือบแคลงใดๆ ในความถูกต้องของการตัดสินดังกล่าวนั้น"


แคนเวสต์เปิดเผยด้วยว่า เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นายราเกซต้องเข้ารับการรักษาอาการต่อเนื่องหลังจากเกิดเป็นลมหน้ามืด ซึ่งส่งผลให้ร่างกายบางส่วนขยับไม่ได้จำเป็นต้องนั่งรถเข็นและแขนซ้ายใช้การไม่ได้โดยสิ้นเชิง


ทางด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์ก และบีบีซี รายงานในวันเดียวกันนี้ว่า นายอามันดีป แสดงความเชื่อมั่นว่าลูกความของตนไม่ควรตกเป็นจำเลยในประเทศไทย เพราะไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดนายราเกซได้ และจนถึงขณะนี้นายราเกซก็จะยังไม่ยอมแพ้ แต่จะต่อสู้คดีจนถึงที่สุด


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์