รายงาน-เปรียบคู่มวยนายกฯหลังวิกฤติใครหยิบชิ้นปลามัน?

ลองตั้งสมมติฐานเบื้องต้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์การเมืองไทย


หลังวันที่ 30 พฤษภาคม ว่า จะออกมาแบบใด...

หากตุลาการรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ต้องลงโทษผู้ที่กระทำผิดโดยตรงเกี่ยวกับการทุจริตเลือกตั้ง 2 เมษายน 2549 ส่วนคนอื่นๆ ที่ไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วย ก็ควรที่จะยกประโยชน์ให้จำเลย

แคนดิเดตว่าที่นายกฯ คนที่ 25 นั้น สังคมน่าจะเห็นภาพลางๆ ของผู้นำประเทศคนใหม่ซึ่งจะมาจากการเลือกตั้ง

จับยามสามตาแล้ว รายชื่อผู้เข้าแข่งขันช่วงชิงตำแหน่งประมุขฝ่ายบริหาร น่าจะมีดังนี้

จาตุรนต์ ฉายแสง
ชวลิต ยงใจยุทธ
บรรหาร ศิลปอาชา
เสนาะ เทียนทอง
สนั่น ขจรประศาสน์
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือ
ชวน หลีกภัย และ
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์


หากให้เคาะชื่อเด่นๆ ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ยามนี้


และในอนาคตอันใกล้ คงจะไม่พ้นไปจาก สมคิด อภิสิทธิ์ และ ชวน

เริ่มต้นที่ "สมคิด" ในฐานะหัวหน้ากลุ่มธรรมาธิปไตย ซึ่งมีแนวโน้มสูงสุดในการควบรวมเข้ากับกลุ่มมัชฌิมา โดยจะมีแรงส่ง คือ อดีต ส.ส.ไทยรักไทย และกลุ่มที่แยกตัวออกมาให้การสนับสนุน "สมคิด" อย่างพอควร

เมื่อมองย้อนกลับไปยังผลงานของ "สมคิด" ในช่วงที่สังกัดไทยรักไทย และการเข้ามาช่วยงานรัฐบาลขิงแก่สั้นๆ นั้น จะพบว่า คะแนนนิยมของสมคิดยังติดลมบน

เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจยามนี้ มันปักหัวลงแทบทุกวันจากความอึมครึมทางการเมืองนั้น สังคมต้องการอัศวินม้าขาวที่เข้ามากอบกู้โดยเร็วที่สุด

ยามนี้ ต้องยอมรับว่า "สมคิด" ได้รับเครดิตพอสมควรจากนักธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ และทำให้โอกาส+ความฝัน เปิดกว้างให้สมคิดขยับขึ้นจ่อตำแหน่งนายกฯ คนใหม่


แต่อย่าลืมว่า การบริหารบ้านเมืองนั้น


ยังมีปัญหาอื่นๆ ที่จะแก้ไขกันอีกเยอะ แม้แต่การบริหารงานการเมืองก็เป็นสิ่งที่สมคิดยังไม่เคยพิสูจน์ฝีมือให้ประจักษ์ และเรื่องนี้น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะชี้ชะตาการเมืองในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย

มันเป็นโจทย์ข้อใหญ่ที่ "ซาร์เศรษฐกิจคนนี้" ต้องออกมาสร้างหลักประกันให้สังคมวางใจ และเชื่อมั่นว่าจะตีฝ่าออกไปได้

แต่สายสัมพันธ์กับขั้วอำนาจเก่าที่แกนนำ คมช.บางฝ่ายยังไม่วางใจสมคิด และพลพรรคเท่าใดนัก เป็น "ชนักปักหลัง" ซึ่งเจ้าตัวต้องถอนทิ้งให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นการเดินหน้าจะสะดุด

ส่วนประชาธิปัตย์นั้น แว่วมาว่า อำนาจสีเขียว ให้การสนับสนุนในทางลับ พร้อมส่งไม้ให้รับหน้าที่ต่อไปเพื่อล้างบาง "ขั้วอำนาจเก่า" ให้สิ้นซาก

ด้วย 2 แนวทางที่วางไว้...


1.หาก "อภิสิทธิ์" รอดตัว ก็จะเป็นผู้นำทัพลุยศึกใหญ่ในช่วงปลายปี...!!!


กลุ่มผลัดใบในพรรคสะตอได้ทำโพลล์วัดเรตติ้งบุคคล พบว่า ประชาชนยังเทใจให้กับ ทักษิณ อภิสิทธิ์ และ สมคิด ตามลำดับ นั่นย่อมหมายความว่า "อภิสิทธิ์" ยังมีภาษีที่ดีกว่า "นายหัวชวน"

เท่ากับว่า นาทีนี้ "อภิสิทธิ์" ต้องแข่งขันกับ "สมคิด" โดยตรง...!!!

หากมองในภาพรวม "สมคิด" ยังได้เปรียบ "อภิสิทธิ์" อยู่พอตัว จากผลงานทางเศรษฐกิจในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

ขณะที่ปัจจุบัน "สมคิด" ก็มอบหมายให้คนใกล้ชิดเปิดเวทีเสวนาแนวโน้มเศรษฐกิจอยู่เนืองๆ รวมทั้งเดินสายประสานกับพรรคต่างๆ ไว้ล่วงหน้า ในการผูกมิตรทางการเมืองไปแล้ว

และในเร็ววันนี้ "สมคิด" อาจจะออกจากหลังฉาก เพื่อประกาศตัวให้สังคมรับไปไตร่ตรองว่า...สมคิดมีความเหมาะสมที่จะขยับขึ้นมาเป็น "สร.1" หรือไม่...?

ขณะที่อภิสิทธิ์ยังง่วนอยู่กับการชี้แจงข้อกล่าวหา จนแทบไม่มีเวลาแสดงวิสัยทัศน์ในการนำทัพสู้ศึกเลือกตั้ง

ท่ามกลางความคาใจในจุดยืนประชาธิปไตยในแบบฉบับของ "อภิสิทธิ์" ในการสนับสนุนการใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 7 อันลือลั่น

เป็นปัญหาใหญ่ที่อภิสิทธิ์ต้องสลัดออก ขณะที่ลิ่วล้อไทยรักไทยต้องหยิบยกขึ้นมายำใหญ่เพื่อดิสเครดิตไปอักโข


2.หากพิสูจน์ได้ว่า "อภิสิทธิ์" มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์จริง


ก็จะโดนลงโทษตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี

บุคคลที่จะก้าวขึ้นมากอบกู้ประชาธิปัตย์ น่าจะหนีไม่พ้น "ชวน"...!!!

ต้องยอมรับความจริงด้วยว่า ปัญหาภายในของพรรคสะตอที่แบ่งแยกกันอย่างชัดเจน ระหว่างทศวรรษใหม่กับผลัดใบนั้น มันทำให้การขับเคลื่อนองค์กรไม่คืบหน้า

"นายหัวชวน" จึงเป็นแคนดิเดตที่เหมาะสมจะเข้ามากู้วิกฤติภายใน และมักจะมีดวงในการกลับขึ้นมาเป็นนายกฯ ในช่วงที่บ้านเมืองประสบวิกฤติ

ย้อนไปถึงการขึ้นรับตำแหน่งนายกฯ ครั้งแรก เมื่อปี 2535 หลังเหตุการณ์ "พฤษภาทมิฬ" และครั้งที่ 2 เมื่อปี 2540 ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ "ต้มยำกุ้ง"...!!!

ด้วยสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง ชวน-บ้านสี่เสาฯ และ ชวน-สุรยุทธ์ จุลานนท์ ท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองวิกฤติ กลับคืนสู่เก้าอี้นายกฯ สมัยที่ 3 จึงหน้าจับตายิ่ง

ทั้งหลายทั้งปวงในข้างต้นนั้น น่าจะเป็นเครื่องประกอบการตัดสินใจของมวลชน ก่อนที่จะตัดสินใจลงคะแนนให้ว่า ใครมีความเหมาะสมที่สุดที่จะขึ้นเป็น สร.1 คนใหม่

แต่บ้านเมืองที่วุ่นวาย แบ่งฝักฝ่ายกันอยู่ทุกวันนี้ ก็มาจากการที่คนไทยเทใจให้ใครบางคนแบบหมดจิตหมดใจ จนถูกโดนนำไปอ้างแบบข้างๆ คูๆ ตั้งหลายครั้ง...มิใช่หรือ!!!



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ จาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์