รายงาน-จับตานาที พลิกฟ้า-คว่ำแผ่นดิน!


"ในวันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นวันที่น่าเป็นห่วง เพราะถ้ามีการออกมาชุมนุมกันเป็นจำนวนมาก และนำสื่อของรัฐออกมาเปิดโอกาสให้มีการถ่ายทอดสัญญาณอะไรต่างๆ ซึ่งจะทำให้เห็นว่ารัฐบาลไม่เป็นกลาง


อยู่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะทำให้เกิดกระแสต่อต้าน และจะเกิดความรุนแรง


ผมไม่อยากให้เหตุการณ์เกิดขึ้นเหมือนกับที่เกิดขึ้นในอดีต เพราะทุกครั้งที่มีการขัดแย้งกัน จนนำมาถึงการเดินขบวนครั้งใหญ่ นักการเมืองก็จะเอาสื่อของรัฐไปเป็นเครื่องมือ และหลังจากนั้นก็จะเห็นได้ว่ามีการทำลายทรัพย์สินของทางราชการเกิดขึ้น เพราะกลุ่มที่เห็นว่าไม่ได้รับความยุติธรรมจนต้องออกมาแสดงอะไรสักอย่าง


ในอดีตจะเห็นได้ว่ากรมประชาสัมพันธ์จะถูกเผา และเราไม่อยากเห็นว่าสื่อของรัฐ หรือหน่วยงานของรัฐถูกทำลาย สิ่งที่น่าจะเป็นแนวทางที่จะลดกระแสนี้ได้ก็คือ รัฐบาลน่าจะต้องเตรียมตัว ไม่ใช่ว่าพอรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ยังปล่อยให้เหตุการณ์ในลักษณะอย่างนี้เกิดขึ้นมาอีก หากเกิดขึ้นมา ก็คงจะแก้ตัวไม่ได้ว่าทำดีที่สุดแล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อรู้ตัวว่าอะไรจะเกิดขึ้นต้องดำเนินการทำอะไรขึ้นมา อย่าปล่อยให้เอาสื่อของรัฐมาเป็นเครื่องมือ"


 จับสัญญาณจากท่าทีขึงขังเป็นพิเศษของ พล.อ.อ.อิทธิพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. ก่อนการประชุมสภากลาโหมเมื่อเช้าวานนี้แล้ว


 ต้องบอกว่าน่าเสียวไส้แทนคนชื่อ "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" ไม่น้อยทีเดียว


 โดยเฉพาะเป็นท่าทีที่แสดงออกต่อสื่อมวลชนก่อนเข้าร่วมประชุม ซึ่งมี "สมชาย" ในฐานะ รมว.กลาโหม นั่งหัวโต๊ะ


ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าบรรยากาศการประชุมสภากลาโหมเช้านั้นเป็นอย่างไร เพราะสังเกตได้จากท่าทีเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัดของ "สมชาย" ภายหลังเสร็จประชุม


"สมชาย" ถูกซักไซ้ไล่เลียงอย่างหนักเรื่องความเห็นของ "ผบ.ทอ." ต่อการโฟนอินของ "พี่เมีย" ทักษิณ ชินวัตร ที่มีสถานะเป็นนักโทษชายตามคำวินิจฉัยของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งถือเป็นการไม่เหมาะไม่ควร


 แต่ "สมชาย" ทำได้เพียงไม่ตอบ พร้อมแสดงสีหน้าเครียดเคร่งอย่างเห็นได้ชัด


และถ้า "สมชาย" ฟังการให้สัมภาษณ์ของ "ผบ.ทอ." จนจบ คงต้องตบอกผาง


 เพราะมันเป็นการส่งสัญญาณที่แรงที่สุดอีกครั้งหนึ่งของกองทัพ หลังจากตบเท้าส่งสัญญาณ "ปฏิวัติเงียบ" ผ่านไทยทีวีสีช่อง 3 ไปเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า


"ใครที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาคนนั้นจะต้องรับผิดชอบ เพราะปัญหาก็รู้อยู่แล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะคนที่โฟนอินเข้ามาก็รู้อยู่แล้วว่าอยู่ในฐานะอะไร และการที่นำสื่อสัญญาณออกมามันจะเกิดผลอะไรตามมา มันจะทำให้ประเทศชาติเสียหายมากน้อยแค่ไหน ซึ่งคนที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือใครก็แล้วแต่ที่รับผิดชอบเรื่องนี้จะต้องออกมาชี้แจงก่อนว่าท่าทีของคุณเป็นอย่างไร จะปล่อยให้ออกมาแล้วมาแก้ตัวทีหลังมันไม่ใช่ เพราะเหตุการณ์มันจะเกิดขึ้นแล้ว


ในส่วนของกองทัพ ทาง บก.กองทัพไทยได้เรียกประชุมแล้วว่าเหตุการณ์น่าจะเกิดขึ้นอย่างไร และควรจะเตรียมการอย่างไร เราจะต้องป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลุกลาม ประเด็นสำคัญคืออย่าปล่อยให้คนออกมาปะทะ หรือเผชิญหน้ากัน ต้องป้องกันตั้งแต่แรกๆ ไม่ใช่ปล่อยให้มาเผชิญหน้ากันแล้ว ถึงตรงนั้นก็ป้องกันลำบาก"


 เรียกว่า...ทั้งชี้ประเด็น เล็งเห็นผล และคาดโทษไปในตัว!


 หากพลาดอีกก้าวเดียว "สมชาย" ก็ "สมชาย" เหอะ มีแนวโน้มที่โชคชะตาจะเล่นตลกซ้ำรอย "พี่เมีย" เหมือนกัน


โดยเฉพาะเมื่อได้ยินสองแกนนำ นปช.แถลงข่าวล่าสุด ยืนยันการโฟนอินจากลอนดอนของ "ทักษิณ" จากปาก จตุพร พรหมพันธุ์


 "เมื่อคืนผมได้คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงยืนยันว่า จะยังคงมีการโฟนอินในรายการเหมือนเดิม และยังบอกด้วยว่า คนที่ออกมาวิจารณ์ รู้ได้อย่างไรว่าจะมีการพูดเรื่องอะไร เป็นการตีตนไปก่อนไข้ ควรฟังให้ครบถ้วนก่อนแล้วจึงวิจารณ์ โดยในรายการ หากเห็นนายวีระ มุสิกพงศ์ ขึ้นเวทีตอนไหน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะพูดตอนนั้น โดยเนื้อหาจะมีหลายเรื่อง และจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย"


ขณะที่ จาตุรนต์ ฉายแสง ก็ออกมายืนยันการขึ้นเวทีความจริงวันนี้ในวันที่ 1 พฤศจิกายน หนำซ้ำยังสนับสนุนให้ประชาชน "ต่อต้าน" พันธมิตรและรัฐประหาร


"...ส่วนเจ้าหน้าที่บ้านเมืองควรพยายามรักษากฎหมายและยึดหลักการซึ่งจะทำให้กลุ่มคนที่เห็นด้วยกับพันธมิตรลดน้อยลง ขณะเดียวกันประชาชนจะต้องร่วมกันแสดงออกว่าไม่เห็นด้วยกับกลุ่มพันธมิตร และการปฏิวัติรัฐประหาร เพราะขณะนี้มีเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดการปฏิวัติอยู่ตลอดเวลา"


 ในเมื่อปัจจัยต่างๆ ส่อให้เห็นแนวโน้มที่จะยั่วยุให้เกิดความรุนแรงได้ทุกเมื่อ สถานการณ์ในอีกไม่เกิน 48 ชั่วโมงนับจากนี้ จึงถือว่าตกอยู่ในภาวะที่ "อันตราย" อย่างยิ่ง


 เหตุปาระเบิดป่วนกรุงที่ลุกลามทั้งในเมืองหลวง และต่างจังหวัด อย่างกลางดึกคืนก่อน ย่อมเกิดขึ้นได้ทุกเสี้ยวนาที

 48 ชั่วโมงนับจากนี้ จึงต้องจับตาอย่ากะพริบ


เพราะขณะที่ฝ่าย นปช.เดินหน้าขนคนบุกกรุงมาฟัง "นายใหญ่" อย่างเต็มพิกัด


 ฝ่ายพันธมิตรก็กล้าประกาศกร้าว "ใครถึงที่ตายก็ตาย ใครไม่ถึงที่ตายก็ไม่ตาย" ลั่นทำเนียบ


 เหตุการณ์ "พลิกฟ้า-คว่ำแผ่นดิน" ก็คงอีกไม่นานเกินรอ!


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์