รากหญ้าเชียงใหม่ปล่อยข่าวทักษิณกลับไม่เกินสิ้นปีนี้ ขู่พันธมิตรต้านเจอม็อบชนแน่

"หากพันธมิตรต้านพร้อมเคลื่อนไหว"


รากหญ้าเชียงใหม่ปูดข่าว"ทักษิณ" เตรียมกลับไทยก่อนสิ้นปี ลั่นหากพันธมิตรออกโรงต้านพร้อมเคลื่อนไหวให้กำลังใจทันที อดีต ส.ส.ทรท.เผย คนอีสานสงสารทักษิณ บอกผ่านอดีต ส.ส. "จะให้เคลื่อนพลเมื่อไรบอก"

ระบุหลังเลิก คปค.ฉบับ 7 สมาชิก ทรท.เหนือ-อีสานเตรียมรวมตัวในจังหวัด 14 พ.ย.ให้กำลังใจสู้คดียุบพรรค บิ๊กจิ๋ว รับห่วงสมานฉันท์เหลว รัฐบาลถูกมองเป็นรัฐบาลรุ่น 6 ไม่สบายใจข่าวส่งนายทหารเข้าไปเป็นบอร์ด รสก.เพราะทหารไม่รู้หมดทุกเรื่อง ขณะที่ "สุรยุทธ์"แจงตนรุ่น 1 ยันบอร์ดที่เข้าไปมีความรู้ขอให้ทำงานก่อนค่อยวิจารณ์ ปัดไม่เคยขอเลิกอัยการศึกก่อนไปเอเปค

หลังมีข่าวดี กรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเอกฉันท์ผ่านร่างพ.ร.บ.ยกเลิกประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 7 เรื่องการชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ไล่เลี่ยกับการที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และรัฐบาลเตรียมจะพิจารณาประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกในวันที่ 14 พฤศจิกายน อันเป็นก้าวแรกของการคืนสิทธิเสรีภาพแก่ประชาชนนั้น ล่าสุดอาจจะมีกระแสข่าวตรงกันข้าม ทำให้เรื่องดังกล่าวต้องเป็นหมันก็เป็นได้ เมื่อมีข่าวจาก จ.เชียงใหม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมจะเดินทางกลับเข้าประเทศก่อนสิ้นปี

รากหญ้าระบุ"ทักษิณ"กลับไทยก่อนสิ้นปี

นายพรหมศักดิ์ แสนโพธิ์ ประธานเครือข่ายคนรากหญ้าที่ออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนว่า ขณะนี้ได้รับการประสานจาก พ.ต.ท.ทักษิณ โดยแจ้งข่าวผ่านมาทางกลุ่มผู้สนับสนุนว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางกลับประเทศไทยก่อนสิ้นปีนี้แน่นอน ซึ่งช่วงนั้น หากมีกลุ่มผู้คัดค้านออกมาเคลื่อนไหว กลุ่มผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณก็จะพร้อมจะออกมาเคลื่อนไหวให้กำลังใจด้วยเช่นกัน

ส่วนการที่ สนช.ประกาศยกเลิกคำสั่ง คปค.ฉบับที่ 7 ประธานเครือข่ายคนรากหญ้ามองว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ช่วยคลายความอึดอัดได้มาก ในส่วนกลุ่มผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ใน จ.เชียงใหม่ ขณะนี้ยืนยันว่าจะยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ยังคงยึดมั่นในกติกา รอจนกว่าช่วงเวลาประชาธิปไตยจะเปิดโอกาสให้เคลื่อนไหวได้

สงสาร"ทักษิณ"คนอีสานรอเคลื่อน

นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีต ส.ส.นครพนม พรรคไทยรักไทย(ทรท.) กล่าวกรณีที่ สนช.ยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับที่ 7 ที่ห้ามชุมนุมทางการเมือง 5 คน ว่า เป็นเรื่องที่ดี เป็นการคืนสิทธิให้ประชาชน แต่ในส่วนของพรรค ทรท.ยืนยันว่าไม่มีคลื่นใต้น้ำ เราไม่มีนโยบายสร้างความแตกแยกในสังคม พรรค ทรท.ถือว่าตกเป็นจำเลยทางสังคมจากการยึดอำนาจไปเรียบร้อยแล้ว ทราบมาว่าผู้มีอำนาจในขณะนี้มีธงที่จะยุบพรรค ทรท.ด้วย

อดีต ส.ส.นครพนม กล่าวอีกว่า ส่วนตัวยังเชื่อว่าพรรค ทรท.จะไม่ถูกยุบ ถ้าหากมีพฤติกรรมใดที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็ถือเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับพรรค เชื่อว่าทีมกฎหมายพรรคจะชี้แจงได้ จึงขอฝากความหวังไว้ที่ศาลให้พิจารณาด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ทำตามกระแสการเมือง หรือคำสั่งของคณะใด

"ในฐานะที่ผมเป็น ส.ส.อีสาน ยอมรับว่าที่ผ่านมามีประชาชนจำนวนมากมาแจ้งว่า รู้สึกสงสารถ้าพรรคไทยรักไทยต้องถูกยุบพรรค และสงสาร พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะทำประโยชน์บ้านเมืองไว้มาก ประชาชนถึงขนาดบอกว่า จะให้เคลื่อนพลเมื่อไรก็ขอให้บอก ผมก็ไม่อยากให้มีการมองว่า พรรคไทยรักไทยอยู่เบื้องหลังคลื่นใต้น้ำที่จะกดดัน คมช.และรัฐบาล" นายศุภชัย กล่าว

เมื่อถามว่าในวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่ตุลาการรัฐธรรมนูญจะพิจารณาเรื่องยุบพรรค จะมีการเคลื่อนไหวใดๆ หรือไม่ นายศุภชัยตอบว่า การเคลื่อนไหวเข้ากรุงเทพฯ คงไม่มี แต่หากจะแสดงพลังในจังหวัดหรือไม่นั้นไม่ทราบ คงกำหนดอะไรไม่ได้ ตามสภากาแฟ อบต.ต่างๆ อาจจะมีบ้างหลังจากผ่อนคลายกฎการชุมนุม

เมื่อถามว่า หากทราบว่าพรรคมีแนวโน้มถูกยุบจะเคลื่อนไหวหรือไม่ อดีต ส.ส.นครพนม พรรค ทรท. กล่าวว่า ยังไม่ได้คิด แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงก็คงจะมีการปรึกษาหารือกับอดีต ส.ส.นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร และสกลนคร ว่าจะทำอย่างไร ที่ผ่านมาก็ได้พูดคุยกันเป็นระยะ เมื่อมากรุงเทพฯ ก็พบกับนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรค ซึ่งเห็นด้วยในหลักการที่ว่า การเคลื่อนไหวใดๆ ของประชาชนที่เป็นไปตามแนวทางประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่ทำได้ ความเห็นนี้ไม่มีเจตนาที่จะปลุกระดมสร้างคลื่นใต้น้ำ

จับตา ทรท.พรึ่บให้กำลังใจ 14 พ.ย.


นายสฤษฎ์ อึ้งอภินันท์ อดีต ส.ส.เชียงราย พรรค ทรท. กล่าวว่า เห็นว่า สนช.ควรยกเลิกกฎอัยการศึกด้วย ส่วนเรื่องคลื่นใต้น้ำนั้นยืนยันได้ว่าในส่วนของพรรคไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรในลักษณะใต้ดินแน่นอน ส่วนกรณีที่ตุลาการรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคดียุบพรรคในวันที่ 14 พฤศจิกายน เป็นนัดแรก ตนเห็นว่ายุบไปเลยก็ดีจะได้ไม่ต้องห่วงกังวลอะไร จะทำให้นักการเมืองรู้ว่าจะตัดสินใจกับอนาคตทางการเมืองของตนเองอย่างไร ที่ผ่านมากลุ่มได้หารือกับรักษาการหัวหน้าพรรค โดยจุดยืนของเราคือจะไม่ต่อต้าน คมช. ส่วนการเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เป็นไปลักษณะก่อกวนนั้นน่าจะเป็นการกระทำของมือที่สามไม่ใช่จากพรรคแน่นอน

มีรายงานข่าวจากพรรค ทรท.ว่า จากกรณีที่ตุลาการรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคดียุบพรรค ในวันที่ 14 พฤศจิกายน รวมถึง สนช.ประกาศยกเลิกคำสั่ง คปค.ฉบับที่ 7 นั้น ได้มีความเคลื่อนไหวของสมาชิกพรรคในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือที่เตรียมจะไปรวมตัวให้กำลังใจตามพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดของตัวเอง แต่จะเคลื่อนไหวอย่างสงบ จะไม่มีการเคลื่อนพลเข้ากรุงเทพฯ เพราะยังถูกจับตามองจาก คมช.อย่างใกล้ชิด

"อ๋อย"เตือนอย่าทำสิ่งที่ ปชช.รับไม่ได้

นายจาตุรนต์ ฉายแสง แถลงถึงการยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับที่ 7 ว่า ขอแสดงความยินดีที่มีการยกเลิก ขอชมเชยที่รัฐบาลรับฟังความเห็นประชาชน การให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพมากขึ้น แม้จะยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ก็ตาม ส่วนพรรค ทรท.ที่ยังคงติดประกาศ คปค.ฉบับที่ 15 และ 27 ที่ห้ามประชุมหรือดำเนินการใดๆ ทางการเมืองนั้น ทราบว่ารัฐบาลก็เตรียมจะแก้ไขประกาศอยู่แล้ว โดยอาศัยมติ ครม.เท่านั้น เช่นเดียวกับเรื่องกฎอัยการศึกได้ย้ำแล้วว่าจะพิจารณายกเลิกหรือไม่นั้น ไม่ต้องคำนึงถึงพรรคการเมือง ขอให้คำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชน และสถานการณ์ต่างประเทศ

รักษาการหัวหน้าพรรค ทรท. กล่าวว่า แม้ในอนาคตจะยกเลิกการห้ามชุมนุมทางการเมืองของพรรคการเมือง หรือยกเลิกกฎอัยการศึกบางพื้นที่ พรรค ทรท.ขอประกาศจุดยืนว่า 1.จะใช้สิทธิเสรีภาพแสดงความเห็นในทางสร้างสรรค์ที่เกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญ และทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย 2.รับฟังความเห็นประชาชนเพื่อปรับปรุงพรรคให้ดีขึ้น 3.การจัดทำนโยบายพรรค ทั้งการปรับปรุงนโยบายเดิม และสร้างสิ่งใหม่ๆ ขึ้น และ 4.การเตรียมการเลือกตั้ง รวมไปถึงการรณรงค์หาเสียง โดยในเรื่องแรกจะทำอย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องที่ 2, 3 และ 4 ที่เกี่ยวกับพรรคจะทำตามลำดับสถานการณ์

"อยากบอกฝ่ายความมั่นคงทั้งหลายว่า การจะพิจารณาอะไรที่เกี่ยวกับความมั่นคงไม่ต้องมาห่วงพรรคไทยรักไทย ขอให้ระมัดระวังสิ่งที่จะทำให้ประชาชนรับไม่ได้หรือไม่พอใจมากกว่า เพราะเรามีเรื่องที่จะต้องทำมากมายอยู่แล้ว" นายจาตุรนต์ กล่าว

นายจาตุรนต์ ยังกล่าวถึงกรณีที่จะมีการพิจารณายุบพรรคว่า ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รักษาการรองหัวหน้าพรรค และคณะ ได้รับผิดชอบเตรียมชี้แจงอยู่แล้ว ส่วนจะเชิญ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา และนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในฐานะผู้ถูกกล่าวหาหรือไม่ ยังไม่ทราบ

ตร.แพร่เต้นสกัดรถตู้เข้ากทม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.05 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน ศูนย์วิทยุเมืองแพร่ สภ.อ.เมืองแพร่ ได้แจ้งให้ตำรวจสายตรวจ สภ.อ.เมืองแพร่ และจุดสกัดติดตามรถตู้ 15 คัน หลังจากได้รับการประสานจาก ทหาร ม.พัน 12 ค่ายพระยาไชยบูรณ์ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ว่า รถตู้ดังกล่าวได้รับชาวบ้านไปชุมนุมประท้วง เบื้องต้นคาดว่าจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ

พ.ต.ท.วัฒนะ คณะเจริญ รอง ผกก.(สส.) สภ.อ.เมืองแพร่ รักษาการ ผกก.สภ.อ.เมืองแพร่ ยอมรับว่า ได้รับการประสานมาจากฝ่ายข่าวของทหารว่า จะมีชาวบ้านเดินทางไปชุมนุมประท้วงที่กรุงเทพฯ ตำรวจก็ได้ติดตามเรื่องนี้ทันที โดยใช้วิธีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดและหาข่าว แต่ก็ยังไม่เจอกลุ่มรถดังกล่าว

"จิ๋ว"ห่วงภาพทหารเป็นบอร์ดรสก.


เมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 พฤศจิกายน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการบรรยายพิเศษหัวข้อ เชื้อเพลิงเหลวจากไม้ มิติใหม่จากพลังงานไทย ที่คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยกล่าวแสดงความเป็นห่วงถึงการทำงานของ คมช. ที่ประชาชนกำลังจับตามองโดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ว่า เรื่องนี้เป็นธรรมดาที่ทุกคนจะเป็นห่วงชาติบ้านเมือง ไม่น่าจะมีอะไรตื่นเต้น ทุกคนก็เป็นกำลังใจให้ คมช.ทำงานบรรลุถึงเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาของชาติ

ส่วนกรณีที่ประชาชนเริ่มจับตามองว่าการรัฐประหารของ คมช. เพื่อต้องการสร้างผลประโยชน์แก่ตนเองและพวกพ้องนั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เรื่องนี้ คมช.จะต้องเร่งแก้ไขว่าสิ่งใดที่ทำให้ถูกประชาชนมองเป็นอย่างนั้น เช่น เวลานี้ได้ข่าวมาว่ามีการแต่งตั้งนายทหารเข้าไปดำรงตำแหน่งใน "บอร์ด" (คณะกรรมการบริหาร) ของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเกือบหมด ถ้าเป็นจริงตามข่าวก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะดี ควรจะต้องมีการแก้ไข เรื่องไหนที่ คมช.รู้ว่าไม่ดีก็ควรจะต้องเร่งแก้ไข เพราะ คมช.อาจจะมองภาพที่เกิดขึ้นเพียงด้านเดียว และเป็นห่วงเรื่องนั้นเรื่องนี้ หากจะแก้ไขได้ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี เรื่องนี้ทุกคนให้อภัยกันได้ ถ้าหากทำความเข้าใจให้ตรงกัน

"ผมมองว่าทหารไม่ใช่ผู้ที่เชี่ยวชาญไปเสียทุกเรื่อง ลักษณะนิสัยก็มีนิสัยหัวชนฝา เอาแต่งานเป็นหลัก ซึ่งไม่ใช่มาชื่นชมทหารว่าดีไปหมดทุกคน ตรงนี้คือความห่วงใยของผมและทุกๆ คน เป็นห่วงคนที่รับงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย จะต้องระมัดระวังตัวให้ดี อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า สำหรับตนเองแล้วหากจะถามถึงเรื่องนี้บอกได้อย่างเดียวว่า ทหารที่ตนเห็นนั้นส่วนใหญ่จะทำงานหัวชนข้างฝาอย่างเดียว และเรื่องการทำมาหากินอะไรกับใครก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ทหารส่วนใหญ่จะเป็นคนจน ไปเทียบกับคนอื่นก็สู้เขาไม่ค่อยจะได้อยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทหารมีภารกิจดูแลป้องกันประเทศจึงไม่ควรเกี่ยวข้องกับงานธุรกิจ อดีตนายกฯ กล่าวว่า ใช่ เรื่องนี้ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะหากอยากจะเรียนรู้กันจริงก็ตั้งโรงเรียนขึ้นมาเรียนกันเองได้ เรื่องนี้ไม่ว่ากัน อย่างไรก็รีบปรับแก้กันเสีย

เมื่อถามต่ออีกว่า ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าการเข้าไปของทหารเพื่อกอบโกยผลประโยชน์เพื่อตัวเอง เพราะเงินเดือนประจำตำแหน่ง รวมถึงเบี้ยประชุมต่างๆ ก็มีมาก อดีตนายกฯ กล่าวว่า อาจจะไม่ใช่ตามที่เข้าใจกันก็ได้ ส่วนตัวมองว่าอาจจะต้องการเข้าไปดูแลว่ามีปัญหาอะไร หรือมีอะไรจะต้องเข้าไปปรับแก้หรือไม่ หรืออาจจะซื่อที่ต้องการเข้าไปผลักดันทำให้มันดีขึ้น เช่น กรณีปัญหาของการรถไฟฯ ที่มีปัญหาเรื่องการขยาย 2 ราง (รถไฟรางคู่) เป็นต้น เรื่องนี้ควรเข้าใจเขาบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า คมช.ควรจะต้องมีการปรับแก้ไขการทำงานใหม่หรือไม่ พล.อ.ชวลิต ไม่มีอะไรที่ไม่สามารถแก้ไขได้ หรือไม่มีเรื่องอะไรที่จะถูกไปเสียร้อยเปอร์เซ็นต์ มันจะต้องมีถูกบ้างผิดบ้าง อันไหนที่ไม่ดีก็ควรจะต้องปรับแก้กันไป ปัญหาสำคัญ คือ จะต้องเข้าใจกัน เอื้ออาทรต่อกัน เห็นใจซึ่งกันและกัน เมื่อเราออกมาวิจารณ์ตรงๆ คิดว่าเขาคงจะต้องแก้ไข ส่วนตัวเชื่อว่า คงจะไม่มีใครอยากทำอะไรที่ขัดความรู้สึกของประชาชนได้ แน่นอนที่สุดว่า คมช.ต้องฟังเสียงประชาชน เพราะหากขืนไม่รับคงจะน่าดู ไม่มีอะไรจะยืนอยู่ยั้งยืนยงไปได้ถ้าหากประชาชนไม่สนับสนุน ซึ่ง คมช.เองควรจะต้องระมัดระวังเรื่องนี้ให้ดี ส่วนตัวมองว่าตอนนี้ คมช.เองก็ระมัดระวังอยู่แล้ว

เตือนน้อง"อย่าเอาแต่รุ่น 6"


อดีตนายกฯ ยังกล่าวถึงกระแสเรียกร้องให้ยกเลิกประกาศกฎอัยการศึกว่า เรื่องนี้คงจะต้องค่อยเป็นค่อยไป หากจะไปประกาศยกเลิกในทันที ต่อมาไปออกประกาศใหม่อีกจะน่าเกลียดแย่ อย่างไรก็ขอให้อดทนกันสักนิด เชื่อว่าคงจะไม่นานนัก ตอนนี้ก็เห็นทำอะไรกันได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการชุมนุม กฎเกณฑ์อะไรก็ไม่ค่อยมีอยู่แล้ว

"คลื่นใต้น้ำจะมีอีกแล้วเหรอ สึนามิจะมีอีกแล้วเหรอ เรื่องนี้อย่าไปเป็นห่วงเลย เรื่องคลื่นใต้น้ำเดี๋ยวจะบอก นายสมิทธ ธรรมสโรช อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมฯ ให้ดูแลให้" พล.อ.ชวลิต กล่าวอย่างอารมณ์ดี

อดีตนายกฯ ยังกล่าวให้ข้อคิดถึงการสร้างความสมานฉันท์ว่า หลักสำคัญจะต้องยึดกติกาและความถูกต้อง เช่น อย่าให้รู้สึกว่ารัฐบาลรุ่น 10 มาก็เอาแต่รุ่น 10 ขึ้นมา

"นี่เป็นตัวอย่างให้ฟัง รุ่นอื่นกูไม่รู้มึงไปก่อนเอารุ่น 10 ก่อน พอรัฐบาลรุ่น 6 มา ก็เอาแต่รุ่น 6 ก็เอารุ่นอื่นไปเอารุ่น 6 มา เรื่องอย่างนี้มันไม่ถูกต้อง เราจำเป็นจะต้องรักษาความชอบธรรมและความถูกต้อง เช่น ยกเลิกกันทันทีได้หรือไม่ การโยกย้ายตำรวจ ทหาร ราชการวันนี้ เรามาใช้กติกาหรือซอฟต์แวร์ (ความรู้) ที่ต่างประเทศปฏิบัติกันมาใช้จะดีไหม ยึดเอาความรู้ความสามารถเป็นตัวกำหนด ไม่ใช่ทุกอย่างไปอยู่ที่นายคนเดียว ทำให้เกิดปัญหาอย่างที่เป็นอยู่" พล.อ.ชวลิต กล่าว

อดีตนายกฯ กล่าวอีกว่า ในต่างประเทศเขาโยกย้ายคนไม่เห็นยุ่งยากเหมือนกับเราเลย ของเราโยกย้ายกันปีละสองหน เห็นว่ามันยุ่งยากเหลือเกิน ไม่ต้องมานั่งทำมาหากินอะไรกัน หากเราทำได้จะไม่เกิดปัญหาด่ากันภายหลัง จะเป็นที่รู้กันเลยว่า แต่ละคนมีขีดความสามารถอย่างไร ตรงนี้คือตัวอย่างความสมานฉันท์

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หมายความว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลรุ่น 6 ใช่หรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่รู้ แต่อย่าให้ใครเขาพูดอย่างนั้นเป็นอันขาด เพราะแต่ละคนที่เข้ามาก็หน้าเหี่ยวๆ ทั้งนั้น ตั้งอกตั้งใจทำงานกันทุกคน

เมื่อถามว่า ห่วงการทำงานของรัฐบาลเรื่องใดบ้าง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่ห่วงเลย เราควรจะต้องให้เวลากับเขาบ้าง

"สนธิ"โต้ทหารไปคานคอรัปชั่น


พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธาน คมช. กล่าวถึงกรณีการแต่งตั้งทหารเข้าไปเป็นบอร์ดในรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง จนถูกมองว่าเป็นการแบ่งผลประโยชน์กันว่า อย่าไปมองเช่นนั้น ทุกองค์กรต้องมีความเป็นธรรม และต้องไม่มีการโกงกิน หรือคอรัปชั่น เพราะฉะนั้น ทุกองค์กรจึงต้องประกอบด้วยคนที่หลากหลายสาขาอาชีพเข้าไปทำงาน เพราะถ้าเอาคนกลุ่มเดียวกันต้องเกิดปัญหาอย่างแน่นอน จึงเฉลี่ยกันลงไป เพื่อคานซึ่งกันและกัน

"เป็นการใช้ความหลากหลายมาตรวจสอบกันเอง ทหารก็ทำหน้าที่ในการเฝ้าระวัง เพราะมีหน้าที่เรื่องความมั่นคงอยู่แล้ว ซึ่งทุกเรื่องก็เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ ไม่ได้มีเฉพาะการสื่อสาร หรือโทรคมนาคมเท่านั้น" ประธาน คมช.กล่าว เมื่อถามว่า ทหารอาจถูกมองว่าไม่มีความรู้ลึกซึ้งพอ ผบ.ทบ. กล่าวว่า คนเราใช้ประสบการณ์ ทันกันหมด ไม่มีอะไรที่ศึกษาไม่ได้ ส่วนที่กระแสเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ คมช.ค่อนข้างมากนั้น คมช.ต้องมั่นคงกับสิ่งที่พิจารณาแล้วว่า อะไรควรจะเป็น เพื่อความมั่นคงของชาติ

"สุรยุทธ์"แจง"จิ๋ว"รุ่น 1 ไม่ใช่รุ่น 6

เมื่อเวลา 17.00 น.วันเดียวกัน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ถึงสิ่งที่ พล.อ.ชวลิต วิจารณ์ว่า การวิพากษ์วิจารณ์ทำได้ แต่ตนคิดว่าถ้าดูตัวบุคคลที่เข้าไปทำงานในบอร์ดต่างๆ เทียบกับของเก่าจะเห็นได้ว่า บางครั้งในส่วนของพรรคการเมืองเอง ก็เอาคนที่ไม่มีความรู้ความสามารถเข้ามาอยู่ในบอร์ด ในลักษณะเป็นเกียรติยศแก่วงศ์ตระกูล แต่ตนคิดว่า บอร์ดที่ได้พิจารณาเข้ามาในส่วนของทหาร ล้วนเกี่ยวข้องกับอาชีพที่เขาทำอยู่ โดยคำนึงถึงความรู้ความสามารถ

"ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์จะพูดอย่างไรก็ได้ จะว่าเป็นขิงแก่ ช้า ทำอะไรไม่เป็น ผมยินดีรับฟังทั้งสิ้น แต่กล่าวหาว่าเป็นรุ่น 6 นี่ไม่ใช่ ผมเป็นรุ่น 1" พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะป้องกันไม่ให้คนมองว่าเข้ามาแสวงหาประโยชน์ หรือสืบทอดอำนาจได้อย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนพูดตั้งแต่ต้นแล้วว่า เราต้องช่วยกันดูช่วยกันตรวจสอบและดูแล ไม่ว่าจะเป็นสื่อ ประชาชน ถ้าเห็นว่าสิ่งใดไม่ดีไม่งามก็ให้บอกมา จะได้หาทางแก้ไข หากมีการทำผิดจริงก็ต้องลงโทษ จะไม่มีการปกปิด ไม่มีการแอบแฝง หรือมีวาระซ่อนเร้น จะทำกันอย่างตรงไปตรงมา

"หากมีรัฐบาลใหม่เข้ามาก็คงจะมีการปลดผู้ที่เป็นบอร์ดในขณะนี้ ซึ่งก็เป็นไปตามวาระ ช่วงที่ผมเข้ามาก็พูดกันว่าบอร์ดต่างๆ ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้คงจะต้องปรับเปลี่ยน ถ้ารัฐบาลใหม่เข้ามาหลังการเลือกตั้ง ก็ดูได้เลยว่าจะมีวิธีปฏิบัติแบบนี้เหมือนกัน ไม่มีอะไรที่แตกต่าง ผมคิดว่า ให้ดูที่ฝีไม้ลายมือ ดูที่ผลการทำงาน ขอเวลาให้ทำงานสักนิดหนึ่งแล้วค่อย วิพากษ์วิจารณ์ ถ้าไม่ยอมให้เวลากันเลย เข้ามาถึงก็วิพากษ์วิจารณ์กันแล้วก็ไม่เป็นธรรม" พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว

"สุรยุทธ์"ปัดเลิกอัยการศึกก่อนเอเปค


พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวถึงความชัดเจนในการยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ภายหลัง รมว. กลาโหม ออกมาระบุว่า จะมีความชัดเจนวันที่ 14 พฤศจิกายนว่า ถึงวันนี้ต้องรอ พล.อ.บุญรอด ตนยังไม่มีโอกาสพบกับ พล.อ.บุญรอด ที่ได้ไปประชุมร่วมกับ คมช.

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ ได้ขอกับ คมช.หรือไม่ว่า จะให้ยกเลิกกฎอัยการศึก ก่อนไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่เวียดนาม ในวันที่ 17 พฤศจิกายน พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้ขอ เพียงแต่เสนอในกรอบว่าเราจะยกเลิกได้เมื่อไร และมีพื้นที่ใดบ้างที่ยังจำเป็นต้องใช้กฎอัยการศึกอยู่ หลายคนคงไม่ทราบว่า ตามแนวชายแดนมีหลายจังหวัดที่ประกาศใช้กฎอัยการศึกมาตลอดเวลา อย่างที่ตนเคยพูดไว้แล้วว่า จะยกเลิกเมื่อไร แค่ไหน ก็เป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคง หรือ คมช.จะต้องไปพิจารณา โดยมี รมว.กลาโหม เป็นผู้ประสานรายละเอียด

เมื่อถามว่า การจะยกเลิกหรือไม่คำนึงถึงปัจจัยว่าทหารจะมีอำนาจระงับเหตุใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มันก็ต้องมีอำนาจทางกฎหมาย ถ้าไม่มีก็คงทำอะไรไม่ได้ เหมือนคนธรรมดาที่เดินไปเดินมา ส่วนตำรวจก็มีอำนาจตามกฎหมายอาญา คนละฉบับกัน หากจะให้ทหารออกมาทำงานก็ต้องมีกฎหมายรองรับ ไม่อย่างนั้นก็ต้องให้เขากลับไป

เมื่อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่จะยกเลิกทั่วราชอาณาจักร พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนเคยพูดไปแล้วว่าในบางพื้นที่ยังมีความจำเป็นต้องใช้ทหารทำงาน ยกตัวอย่างพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติด ถ้าใช้ตำรวจอย่างเดียวคงไม่พอ ที่ผ่านมาเราเคยขอให้ออก พ.ร.บ.ที่ให้ทหารมีอำนาจให้น้อยกว่ากฎอัยการศึกนิดหนึ่ง เพราะคำว่ากฎอัยการศึกฟังแล้วมันเหมือนกับการจะประกาศศึกสงครามกัน จึงออกมาเป็น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ พ.ร.ก.ก็ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าต้องเป็นเรื่องที่ทหารออกมาทำงาน พูดตรงๆ คือ เป็นการให้อำนาจในการจับกุมและควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยมากกว่าการให้อำนาจทหารออกมาทำงาน

เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มต่อต้านรัฐประหาร 19 กันยายน นัดชุมนุมใหญ่ที่ท้องสนามหลวง ในวันที่ 11 พฤศจิกายน จะดูแลอย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่ต้องสั่งการอะไร เพราะเป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงต้องดูแลอยู่แล้ว ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง

เมื่อถามต่อว่า ผู้ที่ออกมาชุมนุมดังกล่าวจะมีความผิดหรือไม่ เพราะ พ.ร.บ.ยกเลิกคำสั่ง คปค.ฉบับที่ 7 ยังไม่ประกาศลงราชกิจจานุเบกษา นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะดูแล ตนไม่ได้เป็นนักกฎหมาย ตนเป็นฝ่ายบริหาร คงไปชี้ได้ว่ากฎหมายฉบับไหนจะนำมาใช้เมื่อไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่จะยกเลิกคำสั่ง คปค. ฉบับที่ 15 และ 27 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการประชุมทางการเมืองของพรรคการเมือง ตามที่สมาชิก สนช.เสนอมา พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเมื่อเรายกเลิกเรื่องการห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ทุกอย่างก็ทำได้อยู่แล้ว


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์