รัฐไฟเขียวเพิ่มค่าประกันสุขภาพอีก117บาท

บอร์ดกลั่นกรองไฟเขียวเพิ่มเหมาจ่ายรายหัว "หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า" ปี 2552 จาก 2,100 บาทต่อคนต่อปี เป็น 2,217 บาท คาดใช้งบกว่า 1 แสนล้านบาท พร้อมอนุมัติกว่า 4,500 ล้านบาท อุดหนุนผู้ป่วยเอชไอวีและไตวาย

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า
 
ที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบงบประมาณของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ประจำปีงบประมาณ 2552 โดยอนุมัติให้ปรับเพิ่มอัตราเงินเหมาจ่ายรายหัวในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประจำปีงบประมาณ 2552 จาก 2,100 บาทต่อคนต่อปี เป็น 2,217 บาท คาดว่าจะใช้งบทั้งสิ้น 104,243.34 ล้านบาท โดยได้ตั้งไว้ในงบประมาณประจำปี 2552 ไว้แล้ว


 รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า

เดิม สปสช.ได้เสนอขอปรับเพิ่มอัตราเงินเหมาจ่ายในปีงบประมาณ 2552 จาก 2,100 บาทต่อคนต่อปี เป็น 2,317.48 บาท แต่สำนักงบประมาณเสนอให้ 2,217 บาท โดยอัตราเหมาจ่ายดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อสิทธิของผู้รับบริการ นอกจากนี้ที่ประชุมได้อนุมัติงบของ สปสช.ในส่วนการอุดหนุนค่ารักษาพยาบาลผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ วงเงิน 2,983 ล้านบาท ครอบคลุมผู้ป่วย 1.25 แสนราย แบ่งเป็นการจัดหายาต้านเชื้อเอชไอวี 2,200 ล้านบาท ที่เหลือเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ


 ที่ประชุมยังอนุมัติงบสำหรับอุดหนุนผู้ป่วยไตวายเรื้อรังวงเงิน 1,530 ล้านบาท ครอบคลุมผู้ป่วย 7,727 ราย แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายฟอกไตผ่านช่องท้องของผู้ป่วย 3,000 ราย ค่าใช้จ่ายฟอกไตผ่านเส้นเลือด 274 ราย และการปลูกถ่ายไต 130 ราย พร้อมทั้งให้ สปสช.หารือกับสำนักงบประมาณเพื่อพิจารณากำหนดงบประมาณค่าบริหารจัดการของ สปสช.ต่อไป ที่ผ่านมา สปสช.เสนอของบบริหารจัดการ 1,350 ล้านบาท


 นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช.กล่าวก่อนหน้านี้ว่า
 
งบกองทุนเอดส์ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้แยกออกจากงบเหมาจ่ายรายหัว โดยตั้งเป็นกองทุนเพื่อบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ เป็นกองทุนที่ให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากสิทธิประโยชน์เดิมในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า รูปแบบการจ่ายชดเชยให้หน่วยบริการเป็นการจ่ายแบบตามผลงาน ซึ่งแตกต่างจากกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่จ่ายให้หน่วยบริการแบบเหมาจ่ายรายหัว สำหรับงบประมาณกองทุนเอดส์ในปี 2552 ลดลงจากปีนี้ถึง 1,300 ล้านบาท เนื่องจากการทำซีแอลที่ช่วยประหยัดงบประมาณ อีกทั้งการใช้ยาต้านไวรัสสูตรดื้อยายังมีผู้ใช้ไม่มากอย่างที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้งบประมาณเอดส์ปีนี้ไม่น่าเป็นปัญหา


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์