รัฐออกประกาศ-คำสั่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 5 ฉบับ

รัฐออกประกาศ-คำสั่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 5 ฉบับ

ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ-คำสั่ง ที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 5 ฉบับ "เหลิม" เป็น ผอ.ศุนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ส่วน "ผบ.ตร.-ปลัด กห." นั่งรอง ผอ. พร้อมอำนาจหน้าที่รวม 12 ข้อ รวมถึงสั่งการให้ "กองทัพ" ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงาน

หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา

มีมติเห็นชอบการประกาศบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. 57 เป็นเวลา 60 วัน แล้วนั้น ล่าสุดเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา

ได้ตีพิมพ์ประกาศและคำสั่งที่เกี่ยวข้อง จำนวน 5 ฉบับ ดังนี้

1. ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี และ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ มีสาระสำคัญว่า มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าจะมีการกระทำที่มีความรุนแรงกระทบต่อความมั่นคงของรัฐและกระบวนการใช้กฎหมายยิ่งขึ้น เพื่อนำไปสู่ความไม่สงบเรียบร้อยภายในประเทศและเกิดความเสียหาย หรือไม่ปลอดภัยต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ การกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าว เป็นการชุมนุมโดยไม่สงบและมุ่งหมายเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและกฎหมาย คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินในการประชุมวันที่ 21 ม.ค. 57 ได้เสนอแนะต่อนายกรัฐมนตรีถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ยุติโดยเร็ว โดยให้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี และอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 22 ม.ค.- 22 มี.ค. 57

2. ประกาศตามมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ระบุการให้อำนาจต่าง ๆของพนักงานเจ้าหน้าที่รวม 12 ข้อ อาทิ ให้อํานาจจับกุมและควบคุมตัวผู้ที่สงสัยว่าจะเป็ผู้ร่วมกระทําการให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือเป็นผู้ใช้ ผู้โฆษณา ผู้สนับสนุนการกระทําเช่นว่านั้น หรือปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการกระทําให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน การให้มีอํานาจออกคําสั่งยึดหรืออายัดอาวุธ สินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์ หรือวัตถุอื่นใด ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าได้ใช้หรือจะใช้สิ่งนั้นเพื่อการกระทําการหรือสนับสนุนการกระทําให้เกิดเหตุสถานการณ์ฉุกเฉิน การให้อำนาจออกคําสั่งตรวจสอบจดหมาย หนังสือ สิ่งพิมพ์ โทรเลข โทรศัพท์ หรือการสื่อสารด้วยวิธีอื่นใด ตลอดจนการสั่งระงับหรือยับยั้งการติดต่อหรือการสื่อสารใด เพื่อป้องกันหรือระงับเหตุการณ์ร้ายแรง การให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่สั่งห้ามการกระทำที่เป็นการปิดการจราจรและเส้นทางคมนาคมในทุกเขตพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมถึงยังมีการกำหนดให้ข้าราชการทหารช่วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหรือตํารวจเพื่อระงับเหตุการณ์ร้ายแรงหรือควบคุมสถานการณ์ให้เกิดความสงบโดยด่วน

3. คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่พิเศษ 1/2557 เรื่องการจัดตั้งศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) โดยมี รมว.แรงงาน เป็นผู้อํานวยการ ศรส. ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ และปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นรองผู้อํานวยการ ศรส. ส่วนกรรมการ ศรส. ประกอบด้วย ผู้แทนผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารอากาศ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ปลัดกระทรวงพลังงาน อัยการสูงสุด เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน ผู้อํานวยการสํานักข่าวกรองแห่งชาติ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ผู้อํานวยการสํานักงบประมาณ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการ ผู้แทนเลขาธิการกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

4. คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่พิเศษ 2/2557 เรื่องแต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบ และพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง โดยให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน เป็นผู้กำกับการปฏิบัติงานของหัวหน้าผู้รับผิดชอบ พนักงานเจ้าหน้าที่และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง และให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบในเขตท้องที่ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง

และ
5. คําสั่งนายกรัฐมนตรี ที่พิเศษ 3/2557 เรื่องแต่งตั้งคณะบุคคลเป็นที่ปรึกษาการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ลงนามโดย รมว.แรงงาน มีคําสั่งแต่งตั้งคณะบุคคลเป็นที่ปรึกษาในการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การต่างประเทศ เป็นประธานที่ปรึกษา นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานฯ ส่วนที่ปรึกษา คือ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจําสํานักนายกรัฐมนตรี และรมช.เกษตรและสหกรณ์ นายอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นที่ปรึกษาและโฆษกและเลขานุการ ส่วนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นที่ปรึกษาและผู้ช่วยเลขานุการ

อนึ่งประกาศและคำสั่งลำดับที่ 1-4 ลงนามโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์