รัฐบาลไม่หวั่น ทรท.รณรงค์โหวตโน

ไทยรักไทยร่วมต้าน รณรงค์โหวตNo


ทางด้านความเคลื่อนไหวรณรงค์ให้รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มไทยรักไทยเปิดเวทีที่ท้องสนามหลวงเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเชิญชวนประชาชนคว่ำร่างรัฐธรรมนูญว่า ถือเป็นการแสดงความคิดเห็นอย่างหนึ่ง เชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณ เพราะได้รับข้อมูลข่าวสารทั้งข้อดีและข้อเสียมาตลอด จะตัดสินใจออกเสียงอย่างไรก็ขึ้นกับวิจารณญาณของแต่ละคน


ขณะที่นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า

การที่กลุ่มไทยรักไทยเปิดเวทีปราศรัยรณรงค์คว่ำร่างรัฐธรรมนูญคงไม่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของประชาชน ส่วนที่แกนนำกลุ่มไทยรักไทยแฉว่ามีเอกสารจากกองทัพไปบังคับให้กำลังพลไปรับร่างรัฐธรรมนูญ และมีหนังสือจากผู้ว่าฯ กทม. ไปสั่งกำนันและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่รอบนอกให้รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น หากมีจริงขอให้ส่งเรื่องมาที่ตนหรือส่งให้ กกต.ดำเนินการได้เลย


แฉฝ่ายต้านส่งจดหมายบิดเบือน รธน.


นายธีรภัทร์กล่าวว่า ได้รับรายงานข้อมูลว่ามีการส่งจดหมายนับหมื่นนับแสนฉบับไปตามบ้านเรือนประชาชน โดยมีเนื้อหาบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ เช่น ระบุว่า ถ้าคว่ำร่างแล้วจะมีการเลือกตั้งเร็วขึ้น หรือหากรับร่างแล้วต่อไปการดักฟังโทรศัพท์จะไม่ผิดกฎหมาย ส.ส.และ ส.ว.จะไม่สามารถประกันตัวประชาชนได้ โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคจะถูกยกเลิก ซึ่งพบว่ามีการส่งจดหมายดังกล่าวไปในหลายจังหวัด เช่น ราชบุรีและเพชรบุรี แต่ไม่สามารถตรวจสอบต้นตอที่มาที่ไปได้ แม้จะมีต้นทางไปรษณีย์ที่จัดส่งมาก็ตาม จึงขอเรียนประชาชนอย่าหลงเชื่อ และการทำเช่นนี้เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน


มท.1 โต้ข่าวบีบประชาชนรับร่าง

นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่แกนนำกลุ่มไทยรักไทยระบุว่า รัฐบาลใช้เครือข่ายของฝ่ายปกครองและท้องถิ่นบังคับให้ประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญว่า ไม่เป็นความจริง ถ้ากระทรวงมหาดไทยทำหนังสือราชการไปก็ต้องติดตะราง เช่นเดียวกับที่มีการระบุจำนวนเงินให้ตำบลละ 2,000 บาท ก็เป็นข่าวโคมลอย สำหรับกรณีที่ประชาชนใน จ.บุรีรัมย์ ระบุว่าได้ รับเงินจากกำนันผู้ใหญ่บ้านให้ไปคว่ำร่างรัฐธรรมนูญนั้น กำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ หากเป็นความจริงตำรวจจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ยอมรับว่าข่าวลักษณะนี้มีออกมาอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่จะไปตรวจหาข้อเท็จจริงตามจุดที่ถูกกล่าวอ้าง


มทภ.1 ส่งกำลังพลคุมเข้มทุกพื้นที่
 

พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคว่ำร่างรัฐธรรมนูญส่งไปรษณียบัตรไปตามบ้านประชาชนเพื่อไม่ให้มาลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญว่า ทราบมาหลายวันแล้ว และได้ประสานงานไปยังหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง แต่ติดขัดในเรื่องของกฎหมาย เพราะเป็นสิ่งพิมพ์โฆษณาสามารถแจกจ่ายได้ อย่างไร ก็ตาม ไม่ห่วงเรื่องนี้ เพราะคิดว่าประชาชนแยกแยะออก การรักใครชอบใคร น่าจะคิดใหม่คิดเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่ใช่กระทำเพื่อคนใดคนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ระหว่าง วันที่ 16-18 ส.ค. จะให้เจ้าหน้าที่ทหารลงไปในพื้นที่ให้ มากที่สุด รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พลเรือนและตำรวจ ต้องร่วมมือกันทำงานเต็มที่


กกต.ใช้เด็กเป็นสื่อถึงผู้ปกครอง
 

เช้าวันเดียวกัน นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมประชาธิปไตยการเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติ ที่โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา หรือชื่อเดิมคือโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เขตวังทองหลาง เพื่อให้เยาวชนรับความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติไปถ่ายทอดกับผู้ปกครอง


ยันจัดการทุกรายไม่ไว้หน้า


จากนั้นนายอภิชาตให้สัมภาษณ์ว่า ขอทำความเข้าใจว่าการซื้อเสียงในกฎหมายประชามติไม่มีความผิด แต่คนให้เงินผิดแน่นอน ใครรับไว้แล้วให้มาแจ้งตำรวจได้ สถานการณ์เรื่องการทุจริตในขณะนี้เท่าที่ได้รับรายงานพบว่าคนที่ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญมีอยู่มาก มีการก่อความวุ่นวาย

สำหรับการลงโฆษณาหนังสือพิมพ์นั้น ที่ประชุม กกต.พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการแสดงออกทางความคิดเห็น

ยังไม่ถึงขั้นบิดเบือนในเรื่องรัฐธรรมนูญ แต่หากบิดเบือนก็ต้องดำเนินการ ซึ่งในภาคเหนือมีบ้าง เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบและดำเนินคดีไปแล้วในบางพื้นที่ เพราะทำให้ประชาชนเข้าใจผิด สับสน โดย กกต. ได้ทำหนังสือไปยัง กกต.จังหวัดทั่วประเทศ หากพบเห็นก็ดำเนินการได้ทันทีไม่ว่าจะเป็นใคร เพราะ กกต.ถือว่าเป็นผู้เสียหายโดยตรง


สั่ง กกต.ทั่วประเทศหาพยานหลักฐาน


ด้านนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา กกต.ได้ประชุมพิจารณาผลการสืบสวนสอบสวนการกระทำความผิด โดยแจ้งไปยัง กกต.จังหวัดให้ดำเนินการด้วยความรวดเร็วและชัดเจน เมื่อได้รับแจ้งเหตุการกระทำผิดแล้วขอให้ สืบสวนสอบสวน พร้อมทั้งรวมรวบพยานหลักฐาน หากพบว่ามีมูลให้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรายงานมาที่ กกต.กลางอีกครั้ง

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ากลุ่มไทยรักไทยปราศรัยโจมตีการทำงานของ กกต.นั้น

ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ต้องรอรายงานจากเจ้าหน้าที่อีกครั้ง หากพบพยานหลักฐานว่ามีการปราศรัยใส่ร้าย กกต.จนทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ก็พร้อมจะแจ้งดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท ยืนยันว่าการทำงานของ กกต.ไม่ได้รับใบสั่งจากใคร และไม่เคยคิดที่จะช่วยใครโกงการออกเสียงประชามติ เพราะตรงนี้ถือเป็นศักดิ์ศรีของ กกต. และงานนี้ถือเป็นงานระดับชาติชิ้นแรก ดังนั้นต้องทำให้ดี ดังนั้นใครที่พูดอะไรออกไปก็ต้องยอมรับความผิดที่พูด หากตรวจสอบพบจะฟ้องทันที


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์