รัฐบาลเดิน 2 ขา กัน ไพร่ พบ ป๋า รักษา ฐานแดง

26 เมษายน เป็นวันที่บรรดา "คนการเมือง" ทั้งฝ่าย "อำนาจใหม่" และ "อำนาจเก่า" ต้องจับจ้องเป็นพิเศษ

เมื่อ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเข้ารดน้ำดำหัวและอวยพร "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ที่เพิ่งผ่านมา

ถือเป็นการพบกันครั้งที่ 3 ของ "2 ผู้ยิ่งใหญ่" หลังเคยปะหน้ากันที่สโมสรทหารบก และทำเนียบรัฐบาลมาแล้ว

รัฐบาลเดิน 2 ขา กัน ไพร่ พบ ป๋า รักษา ฐานแดง

ทว่าครั้งนี้ "พล.อ.เปรม" เป็นฝ่ายเปิดบ้าน "สี่เสาเทเวศร์" ต้อนรับ "น้องสาว" ของ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี

ที่ผ่านมาคนใน "เครือข่ายชินวัตร" มีโอกาสเข้าพบ "พล.อ.เปรม" ที่บ้าน "สี่เสาเทเวศร์" แล้ว 2 คน


คนแรกคือ "คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์" อดีตภรรยา "พ.ต.ท.ทักษิณ" เข้าพบเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2549 หลังผ่านเหตุการณ์ "ปฏิวัติ 19 กันยายน 2549" ได้เพียง 1 เดือน

โดยมี "พล.อ.อู๊ด เบื้องบน" นายทหารคนสนิท "พล.อ.เปรม" เป็นผู้ประสานงานให้

คนที่สองคือ "พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์" ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่ติดสอยห้อยท้าย "ผู้นำเหล่าทัพ" เข้ารดน้ำหัว "พล.อ.เปรม" เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา

ฉะนั้น "ยิ่งลักษณ์" จึงถือเป็นคนที่ 3 ของตระกูลที่มีโอกาสเข้า "บ้านป๋า" แบบจะๆ แจ้งๆ

ว่ากันว่ามี "พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา" รองนายกรัฐมนตรี และ "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็น "มือดิว"

โดยเฉพาะในรายของ "กิตติรัตน์" ซึ่งเคยประสบความสำเร็จในการส่งเทียบเชิญ "ป๋า" มาร่วมงาน "รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย" ที่ทำเนียบรัฐบาลมาแล้ว

เพราะโดยตัวคนชื่อ "กิตติรัตน์" ถูกมองเป็นฝ่าย "อนุรักษนิยม" คนหนึ่ง ทำให้การประสานงานกับพี่-น้อง-พวก-พ้อง หัว "อนุรักษนิยม" ด้วยกันไม่ใช่เรื่องยาก

เรื่องยากกว่านั้นคือการนำ "คณะรัฐมนตรี (ครม.)" ทั้งหมดเข้ารดน้ำดำหัว "พล.อ.เปรม" เพราะบางส่วนถูกมองว่าเป็น "ของแสลง" ของ "เจ้าบ้าน"

โดยเฉพาะ "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ถูกสังคมจับจ้องพอสมควร ด้วยเพราะหมวกอีกใบคือ "แกนนำคนเสื้อแดง" ที่เคยนำมวลชนบุกบ้าน "พล.อ.เปรม"

และเป็นเจ้าของวาทะ "ระเบิดภูเขาที่ขวางกั้นฟ้า"

ดังนั้น หากให้ "ณัฐวุฒิ" เข้ารดน้ำดำหัว "พล.อ.เปรม" อาจถูก "คนเสื้อแดง" ประณามได้ว่าคือการสยบยอมต่อ "หัวหน้าอำมาตย์"

และหาก "แกนนำ" ถูกมองว่าสยบยอม อาจก่อให้มีปัญหาในการปกครองได้

อย่าได้แปลกใจหากรายการนี้จะกำหนดให้เฉพาะ "นายกฯ" และ "รองนายกฯ" เท่านั้นที่ได้เข้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ หลังคิด-อ่านกันอย่างดี ทั้งนี้เพื่อแยก "ขา" กันเล่น แบ่ง "ทาง" กันเดิน แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน

ทางหนึ่ง "สร้างภาพ" ของความปรองดองให้ปรากฏชัด เพื่ออ้างว่านี่คือส่วนหนึ่งที่ทำให้บรรยากาศของประเทศไทยกลับมาดีขึ้น ทุกภาคส่วนของสังคมหันหน้าเข้าหากัน ความขัดแย้งทางการเมืองอาจจะทุเลาลงไม่มากก็น้อย

ตรงนี้เพิ่มความชอบธรรมในการออก "กฎหมายปรองดอง" ได้

นอกจากนี้ยังเป็นผลให้ "องค์กรต่างๆ" ซึ่งเป็นมือไม้ของรัฐบาลรับรู้ "สัญญาณ" ที่ออกมา จะได้เตรียมรับลูกต่อ

อีกทั้งยังสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับ "ภาคธุรกิจ" ซึ่งยังกังวลเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองให้หันกลับมาลงทุนอย่างเต็มที่

อีกทางหนึ่งเป็นการ "รักษามวลชน" ไม่ให้เข้าใจ "รัฐบาล" ผิดไปมากกว่าที่เป็นอยู่

เผื่อวันหนึ่ง "คนเสื้อแดง" ต้องกลับมาช่วยปกป้องรักษาสถานะของ "รัฐบาล" เพราะทุกคนรู้ดีว่าทุกวันนี้ "อำมาตย์" เล่นเกมซ่อนเล็บ รอคอยการกลับมาอยู่เหมือนกัน

หากสะดุดขาตัวเองเพลี่ยงพล้ำไป อาจเข้าทาง "ฝ่ายตรงข้าม" ที่จ้องหาโอกาสยุให้รำตำให้รั่วได้

นี่จึงเป็นฉาก-ช็อตสำคัญของ "รัฐบาล-พรรคเพื่อไทย-คนเสื้อแดง" ที่ต้องเดินอย่างสุขุมนุ่มลึก เพื่อความฝันสูงสุดของ "ผู้นำพลัดถิ่น"!!!

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์