รัฐบาลยุค น้ำท่วมกรุง พิสูจน์ฝีมือ ยิ่งลักษณ์ ช่วงชิง โอกาส การเมือง

ปรากฏการณ์มหาอุทกภัยท่วมกรุงเทพฯก่อเกิดผลกระทบต่อการเมือง โดยเฉพาะรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นอย่างยิ่ง

สภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เหนือหลากเข้าสู่ภาคกลาง และตรงดิ่งมายังกรุงเทพมหานคร กระทั่งตอนนี้ยอมรับกันทุกฝ่ายว่า กรุงเทพน้ำท่วมแน่


ภาวะดังกล่าวทำให้กระแสการเมืองอ่อนยวบ


ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีความพยายามปล่อยข่าวหลากหลาย ในทำนองว่า น้ำท่วมครั้งนี้เกิดขึ้นด้วยน้ำมือฝ่ายการเมือง เพื่อเป้าหมายทำลายล้างทางการเมือง


แต่ดูเหมือนว่ากระแสความหวาดระแวงดังกล่าวเกิดขึ้นแล้วก็ยุติลงไป ไม่มีพลังผลักดันให้เกิดกระแสทางการเมืองขึ้นแต่อย่างใด


ทั้งที่ขณะนี้มีความขัดแย้งกรณีการใส่ชื่อใส่รูปภาพเพื่อหาเสียงจากข้าวของที่ส่งไปบริจาคแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม


แต่ดูเหมือนว่ากระแสดังกล่าวไม่ลุกลามกลายเป็นปมปัญหาทางการเมืองแต่อย่างใด


เท่ากับว่าสภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ประชาชนไม่ต้องการเห็นใครมาเล่นการเมือง


เท่ากับว่าประชาชนต้องการเห็นการทำงานเชิงบริหารที่มีประสิทธิภาพในการรับสถานการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้นเสียมากกว่า

แม้พรรคฝ่ายค้านพยายามโจมตีการบริหารจัดการของรัฐบาลในช่วงวิกฤตน้ำท่วม แต่กระแสเสียงดังกล่าวก็ไม่สร้างผลสะเทือนแก่รัฐบาลมากเท่าที่ควร


เพราะรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเพิ่งเข้ามารับงาน และเหตุน้ำท่วมคราวนี้เกิดขึ้นก่อนรัฐบาลชุดปัจจุบันเข้ามาบริหารประเทศ


ไม่ว่าจะเป็นเหตุจากการกักน้ำในเขื่อน เหตุจากการเพิกเฉยต่อการลอกคูคลอง เหตุจากการตระเตรียมป้องกันภัยจากปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลเช่นนี้


รัฐบาลยุค น้ำท่วมกรุง พิสูจน์ฝีมือ ยิ่งลักษณ์ ช่วงชิง โอกาส การเมือง


นอกจากนั้น แม้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุน้ำท่วม แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ไม่เคยกล่าวโทษผู้ใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องในข้อบกพร่องดังกล่าว


ดังนั้น แม้มีคนพยายามจุดชนวนการเมืองขึ้นท่วมกลางวิกฤต แต่ดูเหมือนว่าประชาชนไม่ใส่ใจต่อเสียงตำหนิ


อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องทำการบ้านอย่างหนัก แม้ว่าสาเหตุของน้ำที่ท่วมจะไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย


หากแต่การดำเนินการต่อไป คือ ช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟู และป้องกัน ถือว่าอยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาลชุดนี้


ในพื้นที่ที่น้ำท่วมและขัง รัฐบาลมีวิธีการขนส่งข้าวของเครื่องใช้และการเดินทาง สนับสนุนให้แก่ "ผู้ติดเกาะ" อยู่ได้อย่างทั่วถึงอย่างไร


การรับสถานการณ์เพื่อมิให้เครียด ระงับการระบาดของโรค การลำเลียงเสบียงสู่ผู้ประสบภัย ฯลฯ ต้องทำอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร


ขณะเดียวกัน รัฐบาลพรรคเพื่อไทยต้องหาวิธีทำให้น้ำลดเร็วที่สุด ส่วนเมืองที่น้ำลดแล้ว เช่น กำแพงเพชร ตาก และนครสวรรค์


รัฐบาลจะเยียวยา และฟื้นฟู ให้คืนสภาพเดิมได้รวดเร็วเพียงใด


ขณะนี้คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจมีมติให้รัฐบาลระงับการดำเนินตามนโยบายประชานิยมที่เคยหาเสียงเอาไว้ก่อนหน้า เพื่อนำเงิน 70,000 ล้านบาท ไปใช้ฟื้นฟูประเทศ


เพราะมีการประเมินกันว่า สภาวะน้ำท่วมประเทศไทย จะบั่นทอนให้จีดีพีของประเทศลดต่ำลงมาถึงระดับ 2.6 โดยจีดีพีไตรมาสสุดท้ายจะติดลบ


"การบ้าน" ข้อใหญ่ที่รอรัฐบาลพรรคเพื่อไทยอยู่


"การบ้าน" ข้อนี้เป็นโอกาสของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่จะได้แสดงฝีมือบริหาร เพราะประชาชนต้องการคนดีมีฝีมือมาช่วยฟื้นฟูประเทศ


"การบ้าน" ข้อนี้เป็นโอกาสของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พิสูจน์ภาวะผู้นำว่าสามารถฟื้นฟูประเทศชาติให้กลับคืนสู่ความปกติสุขได้หรือไม่


และดูเหมือนว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยกำลังพยายามทำ "การบ้าน" ข้อใหญ่ให้ผ่านพ้นไปได้


สังเกตจากการเปิดใจรับฟังหนทางจากประชาชนที่เข้าไปมีส่วนร่วมแนะนำ เช่น การปรับปรุงทีมงานโฆษกศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย หรือ ศปภ. หรือการรับข้อเสนอจากภาคเอกชนที่จะเจาะถนนเพื่อชักน้ำที่เอ่อท่วมกรุงออกไปทางทิศตะวันออก เพื่อสูบน้ำลงแม่น้ำบางปะกงและลงทะเลต่อไป เป็นต้น


หากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย สามารถคลุมพื้นที่และช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทั่วถึง


หากสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยทำให้น้ำลดลงได้เร็ว


หากสามารถเยียวยาผู้ประสบภัยได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ


หากสามารถเร่งนโยบายบริหารจัดการน้ำ จนป้องกันมิให้เกิดปัญหาซ้ำเดิมเช่นปีนี้ได้


เท่ากับว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทำงานมีประสิทธิภาพในระดับสอบผ่าน


เช่นเดียวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่สอบผ่านในวิชาการบริหารงานประเทศ ในฐานะนายกรัฐมนตรี


ดังนั้น ภาวะน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสของฝ่ายรัฐบาล และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในการแสดงฝีมือที่แก้ไขปัญหา และฟื้นฟูเมือง


แต่หากฝ่ายรัฐบาลทำไม่ได้ ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป


โอกาสนี้จะลอยไปอยู่ในมือของพรรคฝ่ายค้าน....แล้ว สำเนียงเสียงโจมตีที่เคยแผ่วเบา จะกลับดังกระหึ่มขึ้นมาอีกครั้ง


แม้ภาวะน้ำท่วมเป็นภาวะแห่งการบริหาร แต่ก็เป็นช่วงเวลาช่วงชิงโอกาสทางการเมืองเช่นกัน


....ภาวะน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสของฝ่ายรัฐบาล และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในการแสดงฝีมือที่แก้ไขปัญหา และฟื้นฟูเมือง แต่หากฝ่ายรัฐบาลทำไม่ได้ ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป โอกาสนี้จะลอยไปอยู่ในมือของพรรคฝ่ายค้าน...

มติชนรายวัน ฉบับวันที่30ต.ค.2554 หน้า 3


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์