รัฐจัดเว็บไซต์สู้ เว็บทรูทักษิณ

จากการที่บรรดาแกนนำกลุ่มไทยรักไทยได้นัดเดินทางไปอวยพรวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ซึ่งหลายฝ่ายจับตาดูว่าจะมีเบื้องหลังอะไรหรือไม่นั้น ทั้งนายกรัฐมนตรีและประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้ออกมาพูดตรงกันว่าไม่ห้าม ถือเป็นสิทธิของทุกคนที่จะเดินทางไปไหนก็ได้  พร้อมบล็อกเว็บไซต์ “ทักษิณ” 

นายกรัฐมนตรีไม่ห่วงหากทักษิณคิดจะทำเว็บไซต์

เมื่อวันที่ 25 ก.ค. เวลา 15.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เกิดเหตุม็อบก่อความรุนแรงขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ฮ่องกง มีการเปิดตัวหนังสือและเว็บไซต์ว่า ก็ได้ติดตาม คิดว่าต้องดูกันต่อไปว่ามีความเชื่อมโยงมีอะไรหรือไม่อย่างไร แต่สิ่งที่ได้ดำเนินการ คือในเรื่องของการเดินทางไปที่ฮ่องกง เป็นสิทธิของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเรื่องการเปิดเว็บไซต์เราก็ดูแลอยู่ โดยที่ทางกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้ติดตามอยู่ ส่วนเรื่องอื่นๆเรายังไม่มีข้อมูล 

ไม่ห้ามหากมีใครจะไปงานวันเกิด"ทักษิณ"เป็นสิทธิส่วนบุคคล
 

เมื่อถามว่า วันที่ 26 ก.ค. เป็นวันคล้ายวันเกิดของพ.ต.ท.ทักษิณ จะมีอดีตนักการเมืองพรรคไทยรักไทย หลายคนจะเดินทางอวยพรที่ประเทศอังกฤษ นายกฯเป็นห่วงและจะติดตามเรื่องนี้อย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า ก็เป็นสิทธิของแต่ละท่านอยู่แล้ว ผมไม่แน่ใจว่าจะไปอังกฤษ หรือจะไปฮ่องกง เป็นเรื่องที่เป็นสิทธิอยู่แล้วเราไม่สามารถไปห้ามได้ ถ้าใครจะมางานวันเกิดผมผมก็ไม่ห้าม” 

กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะขอลี้ภัยทางการเมืองที่สาธารณรัฐประชาชนจีน
 
พล.อ.สุรยุทธ์มองว่า เป็นเรื่องที่ยังไม่ได้เกิดอะไรขึ้นถึงขนาดนั้น อย่างที่เรียนแล้ว คือในส่วนของการลี้ภัยในประเทศใด จะเป็นเรื่องจากทางการเมืองเป็นส่วนใหญ่ ที่เขาจะให้ลี้ภัย แต่ถ้ากรณีที่เกิดจากความผิดในเรื่องของคดีอาญา คดีที่มีการเกี่ยวข้องกับการคอรัปชันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งแต่ละประเทศมีข้อพิจารณาอยู่แล้ว เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า การก่อความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากการชุมนุมของม็อบ จะเป็นเหตุผลให้ พ.ต.ท.ทักษิณขอลี้ภัยทางการเมืองได้หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า ความวุ่นวายทางการเมืองของเราเอง คงไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเหตุผลในการที่จะลี้ภัย เพราะว่าในขณะนี้การดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมที่ทาง คตส. ได้ดำเนินการก็คืบหน้าไปตามลำดับ ตนก็ได้ติดตามอยู่ เป็นส่วนที่ถือได้ว่าเป็นการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม

ส่วนข่าวการเดินทางไปเยี่ยมอวยพรวันเกิดคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับการเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณเคยระบุคำพูดว่า “ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ” คิดว่าจะมีการผูกโยงกับการเคลื่อนไหวต่างๆที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเราช่วงนี้หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า “ผมไม่สามารถจะตอบได้ คงเป็นเรื่องที่จะต้องถามคุณทักษิณเองว่าหมายถึงใคร” ที่ ททบ.5 พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย เดินทางไปอวยพรวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในต่างประเทศ ถือเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือไม่ คงเป็นความสัมพันธ์ ส่วนบุคคล ทางเราไม่มีอะไร 

รัฐบาลตั้งเว็บไซต์โต้ “ทรูทักษิณ”

วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤติและการประชาสัมพันธ์เชิงรุก (วอร์รูม) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้เปิดเว็บไซต์ www.truethaksin.com อย่างเป็นการทางแล้วว่า เป็นสิทธิเสรีภาพที่จะทำได้ อาจเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะให้ประชาชนรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขา แต่เชื่อว่าไม่ทำให้ประชาชนสับสน เราไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์หรือไปสั่งปิด แต่ถ้าข้อมูลในเว็บไซต์ไม่ถูกต้องก็ต้องทำความเข้าใจ

เว็บไซต์ข้อมูลที่ทำขึ้นจะมีการจัดจ้างมืออาชีพในการทำข้อมูล

ทั้งนี้ ในที่ประชุม ครม.นอกรอบระหว่าง ครม.กับประธาน คมช. เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้ปรารภขึ้นว่า เว็บไซต์ส่วนใหญ่ที่มีการทำขึ้นเผยแพร่ข้อมูลมักจะเป็นของฝ่ายกลุ่มอำนาจเก่า แต่ฝ่ายรัฐบาลกลับไม่ค่อยให้ความสำคัญในการทำเว็บไซต์ขึ้นมาชี้แจงทั้งต่อภายในและนอกประเทศ ดังนั้นเห็นว่าควรจะต้องดำเนินการเรื่องนี้ โดยนายสิทธิชัย โภไคยอุดม รมว.ไอซีที เสนอให้จัดหามืออาชีพมาทำเว็บไซต์ และตอบชี้แจงข้อเท็จจริง 

นายธีรภัทร์กล่าวว่า จะหารือกับนายสิทธิชัยอีกครั้งเพื่อจะประสานดำเนินการ โดยกระทรวงไอซีทีคงจะเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำเว็บไซต์ใหม่ โดยอาจจะปรับปรุงจากเว็บไซต์ของกระทรวงไอซีทีที่มีอยู่แล้ว และในส่วนของวอร์รูมที่มีเว็บไซต์รักเมืองไทย อาจจะนำมาพิจารณาประเมินผลการประชาสัมพันธ์ที่ผ่านมาและจะปรับให้เป็นภาษาอังกฤษเพิ่ม เพื่อดำเนินการควบคู่เว็บไซต์ ใหม่อีกทางหนึ่ง โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความจำเป็นและต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน

นายธีรภัทร์กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงมหาดไทย

อยากผลักดันให้มีการอำนวยความสะดวกขนคนไปลงประชามติได้ว่า ช่วงบ่ายวันเดียวกัน สนช.จะมีการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวในวาระสอง ซึ่งจะแก้ไขใน หลายมาตราอยู่แล้ว หากสมาชิก สนช.จะนำมาหารือกันก็ได้ ทางคณะกรรมาธิการฯคงไม่เสนอเรื่องนี้เอง แต่โดยส่วนตัวจะสอบถามทางเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เป็นกรรมาธิการฯอยู่ด้วยและจะปรึกษากับเลขาธิการ กกต.ว่าจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องไปบัญญัติให้ชัดเจนไว้ใน พ.ร.บ.ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบทางเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้สัมภาษณ์แล้วว่า หากไม่มีการชี้นำว่าต้องรับหรือไม่รับรัฐธรรมนูญ สามารถที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่จะเดินทางมาได้ คงไม่มีปัญหาอะไร 

รัฐบาลไม่หวั่นอียูสังเกตการณ์เลือกตั้ง 

เมื่อถามถึงกรณีที่ทางกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) จะขอเข้ามาร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งและการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เหมือนเป็นการลดเกรดประเทศว่าไม่ค่อยเป็นประชาธิปไตยต้องถูกจับตามองหรือไม่ นายธีรภัทร์ตอบว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นอียูที่จะเข้ามาดูการเลือกตั้ง ประเทศใดก็สามารถเข้ามาขอดูการแสดงประชามติได้ เพราะเราเป็นประชาธิปไตยและโปร่งใส ดำเนินการจัดการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม ซึ่งคนมาดูจะนำไปประชาสัมพันธ์เป็นผลดีกับประเทศ ดังนั้น เราต้องช่วยกันทำให้ถูกต้อง ไม่แสดงให้เห็นความวุ่นวาย หรือเลือกตั้งโดยไม่บริสุทธิ์ ฝ่ายไหนที่จะแสดงออกในสิ่งที่ไม่ถูกก็ต้องระวัง ดังนั้นเรื่องเกรดของประเทศไม่ได้อยู่ที่ใครจะมาดู แต่ขึ้นอยู่กับการจัดการเลือกตั้งว่าได้มาตรฐานสากล โปร่งใส บริสุทธิ์ยุติธรรมหรือไม่ 

ไทยรักไทยปัดไม่ไปอวยพร “ทักษิณ”

วันเดียวกัน ที่พรรคไทยรักไทย อาคารไอเอฟซีที นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มไทยรักไทย แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารกลุ่มไทยรักไทยว่า ที่ประชุมได้พูดถึงกรณีที่ทางกลุ่มมีมติรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 2550 สมาชิกของกลุ่มหลายคนแสดงความกังวลว่า หากรัฐธรรมนูญปี 2550 ไม่ผ่านประชามติ และมีการนำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาแก้ไขก่อนประกาศใช้นั้น อาจจะมีผลทำให้อดีต ส.ส.ไทยรักไทยอาจจะลงสมัครรับเลือกตั้งไม่ทัน เนื่องจากติดเงื่อนไขต้องสังกัดพรรคไม่น้อยกว่า 90 วัน ดังนั้นที่ประชุมจึงมอบหมายให้ตนและ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กรรมการบริหารกลุ่มไทยรักไทย ไปหาทางออกในเรื่องดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าจะแจ้งต่อที่ประชุมใหญ่ได้ภายในสิ้นเดือน ส.ค.นี้ เมื่อถามถึงกรณีที่อดีต ส.ส.ไทยรักไทยจะเดินทางไปอวยพรวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายสมพงษ์ตอบว่า คงไม่มีการเหมาเครื่องบินเพื่อเดินทางไปเยี่ยม พ.ต.ท.ทักษิณอย่างที่เป็นข่าว แต่จะมีใครที่เดินทางไปบ้างนั้นไม่ทราบ แต่ตนและนพ.สุรพงษ์ไม่ได้เดินทางไปอย่างแน่นอน

ยันมีอุดมการณ์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ

ด้าน นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า ที่ประชุมได้คุยถึงเรื่องการรณรงค์เพื่อบอกเหตุผลที่กลุ่มไทยรักไทยมีมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งกลุ่มได้จัดพิมพ์เอกสารแจกไปแล้ว 3 แสนฉบับ และจะมีการจัดพิมพ์ครั้งที่ 2 เพิ่ม รวมทั้งจะติดต่อขอลงโฆษณาทางหน้าหนังสือพิมพ์ด้วย โดยเชื่อว่าเมื่อหนังสือพิมพ์ได้เห็นเนื้อหาแล้วจะอนุญาตให้ลงตีพิมพ์เพื่อเผยแพร่ต่อประชาชนต่อไป สำหรับกรณีที่อ้างว่ารัฐธรรมนูญปี 2550 มีสิทธิเสรีภาพมากกว่ารัฐธรรมนูญปี 2540 นั้น คงไม่เป็นความจริง เห็นได้จากกรณีจับกุมผู้ต้องหาแล้วต้องพิจารณาภายใน 48 ชั่วโมง การสอบสวนจะต้องมีทนายความอยู่ร่วมด้วย รวมทั้งการให้รัฐจัดหาทนายความให้นั้นถูกยกเลิกไปหมด ทำให้สงสัยว่าอาจจะมีความเชื่อมโยงกับร่าง พ.ร.บ.ความมั่นคงที่กำลังจะออกมาหรือไม่

กลุ่มไทยรักไทยยืนยันไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่กลุ่มไทยรักไทยจะรับร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ไปก่อนเพื่อตัดปัญหาเรื่องต้องสังกัดพรรคอย่างน้อย 90 วัน จากนั้นจึงค่อยแก้รัฐธรรมนูญในภายหลัง นพ.สุรพงษ์ตอบว่า เรายังมีท่าทีเหมือนเดิมคือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 2550 คงจะไม่บอกว่าอยากจะลงเลือกตั้งเลยเปลี่ยนท่าทีมารับร่างรัฐธรรมนูญ 2550 อย่างแน่นอน เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องของอุดมการณ์ประชาธิปไตย 

แขวะไอซีทีอย่าวิตกจริตเว็บไซต์

ทางด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสาเหตุที่เลื่อนการเปิดตัวเว็บไซต์ทรูทักษิณ จากเดิมที่กำหนดไว้วันที่ 25 ก.ค. ออกไปเป็นวันที่ 26 ก.ค. ว่า ต้องการให้ตรงกับวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งถือเป็นฤกษ์ดี โดยในการแถลงข่าวตนจะพูดถึงเนื้อหาบางส่วนของหนังสือชีวประวัติ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เพิ่งเปิดตัวในฮ่องกงด้วย ทั้งนี้อยากฝากถึงนายสิทธิชัย โภไคยอุดม รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ว่า ไม่ต้องกังวลกับการเปิดเว็บไซต์ดังกล่าว เพราะเนื้อหามีแต่เรื่องสร้างสรรค์ ไม่โจมตีคนอื่น และแน่นอนไม่มีภาพโป๊ ทั้งนี้กระทรวงไอซีทีต้องส่งเสริมการสื่อสารระหว่างประชาชน การเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ประชาชนจะได้ฉลาดยิ่งขึ้น ไม่ใช่ไปปิดกั้นหรือจะบล็อกอย่างเดียว