รักษาการผู้ว่าสตง.แจ้งจารุวรรณพ้นตำแหน่ง

"พิศิษฐ์"ทำหนังสือแจ้งราชการทุกแห่ง"จารุวรรณ"ได้พ้นจากตำแหน่งเรียบร้อยแล้วตามคำวินิจฉัยของกฤษฎีกา


ทั้งนี้หนังสือดังกล่าวที่นายพิศิษฐ์ ทำถึงหัวหน้าส่วนราชการทุกแห่ง ได้แจ้งความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา

โดยมีรายละเอียดว่า ตามที่สำนักงานการตรวจแผ่นดิน ได้หารือปัญหาการปฎิบัติหน้าที่ของคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งมีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2553 ต้องพ้นจากตำแหน่งโดยผลของกฎหมายตามความในมาตรา 34(2)แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2542 หรือไม่นั้น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้รับหนังสือจากงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแจ้งความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา(คณะที่ 1) ว่าคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินแล้ว เนื่องจากมีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ ตามความในมาตรา 34(2) แห่งบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.
2542


พร้อมกันนี้หนังสือดังกล่าวที่แจ้งไปยังหัวหน้าส่วนราชการทุกแห่ง ยังแนบ "ประกาศของ สตง. เรื่องคุณหญิงจารุวรรณ พ้นจากผู้ว่าการ สตง."มาด้วย

โดยมีรายละเอียดว่า ด้วยคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ได้ปฎิบัติหน้าที่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน จนถึงวันที่ 5 กรกฎาคม 2553 มีอายุ 65 ปีบริบูรณ์ อันเป็นเหตุแห่งการพ้นตำแหน่งของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ตามนัยมาตรา 34(2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2542 ซึ่งประกาศคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 29 เรื่องแก้ไขประกาศคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 20 กันยายน 2549 มิได้กำหนดยกเว้นเหตุแห่งการพ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการตรวจการเงินแผ่นดินตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2543 ดังนั้น คุณหญิงจารุวรรณเมณฑกา จึงต้องพ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการตรวจการแผ่นดินตามกฤษฎีกา (คณะที่ 1)ได้พิจารณาและมีความเห็นทางกฎหมายดังกล่าว


ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เป็นต้นไป คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน

และไม่อาจเป็นผู้ใช้อำนาจหน้าที่แทนประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดินหรือคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินแต่อย่างใด การใดที่คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ได้กระทำไปโดยอ้างว่าปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือเป็นอำนาจหน้าที่แทนประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดินหรือคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ย่อมไม่ผูกพันสำนักการตรวจเงินแแผ่นดิน


ทั้งนี้ประกาศดังกล่าวลงวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2553 และลงชื่อ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน รักษาราชการแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน

"แหล่งข่าว" คณะกรรมการกฤษฎีกา เปิดเผยว่า มติคณะรัฐมนตรี ปี พ.ศ. 2482 กำหนดให้หน่วยรัฐปฏิบัติตามความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา ยังเป็นแนวปฎิบัติสำคัญที่ส่วนราชการยึดถืออย่างเคร่งครัด ทั้งนี้เพราะคณะรัฐมนตรีมีอำนาจในการควบคุมดูแลหน่วยงานของทางราชการ


ดังนั้น มติคณะรัฐมนตรีจึงผูกพันส่วนราชการให้ต้องปฏิบัติตาม เปรียบเทียบกับระเบียบว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง แม้ว่าจะไม่ใช่กฎหมาย

แต่ใช้กับส่วนราชการตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนดได้ เมื่อส่วนราชการต้องปฏิบัติตามนั้น ใครจะมาซื้อมาขายด้วย ก็เลยต้องปฏิบัติตามนั้นไปด้วย มิฉะนั้นส่วนราชการก็ไม่ยอมทำธุรกรรมด้วย
การที่ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รักษาการผู้ว่าการฯ สตง. ได้ทำหนังสือลงวันที่ 23 สิงหาคม 2553 แจ้งถึงหัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงานราชการทุกแห่งยืนยันว่า คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ได้พ้นจากตำแหน่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยอ้างถึงความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกานั้น แม้ว่า คำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกา จะไม่ผูกพันองค์กรอิสระอย่างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน แต่ประเด็นใหญ่คือ คำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกามีผลผูกพันให้หน่วยงานรัฐต้องปฎิบัติตาม ทั้งนี้ตามมติครม.ปี 2482


ฉะนั้นแล้ว ส่วนราชการย่อมต้องยอมรับความชอบด้วยกฎหมายของนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน รักษาราชการแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินมากกว่าคุณหญิงจารุวรรณ



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์