รวบ3โจ๋โหดแปรงขัดส้วมยัดจิ๋มเด็ก14

 

คมชัดลึก :รวบแก๊งเรียกค่าไถ่ย่านท่าข้ามฯ เผย จับเหยื่อสาววัย14 ขังในหมู่บ้าน ทรมานสุดโหดตบ เตะ โกนผม-คิ้ว ธูปจี้หัว คัดเตอร์กรีดแขน-ขา เข็มทิ่มหลังสักรูปดอกกุหลาบ น้ำยาล้างห้องน้ำ-ผงซักฟอกเทใส่แปรงขัดส้วมยัดใส่อวัยวะเพศเป็นแผลเหวอะหวะ ซ้ำบังคับให้โทร.หาแม่โอนเงิน แต่แม่ไม่ยอม สุดท้ายจับเหยื่อขึ้นจยย.ขี่ขึ้นสะพานพุทธแล้วถีบตกแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เหยื่อยังไม่ถึงฆาตเกาะผักตบชวาลอยคอในแม่น้ำ 3 ชม.ตั้งแต่สะพานพุทธถึงราษฎร์บูรณะแล้วเจอ รปภ.ช่วยเหลือส่งกลับบ้านบอกแม่ร้องเรียน"ปวีณา หงสกุล"พาตำรวจรวบคาบ้าน แต่ยังให้การปฏิเสธ

(2ต.ค.) เวลา 14.00 น.พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผบก.น.9 พ.ต.อ.ยุคลเดช ตันสกุล ผกก.สน.ท่าข้าม

พ.ต.ท.รชต พัฒนพงษ์ สว.สส.สน.ท่าข้าม พร้อมด้วยนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้าม เข้าจับกุมนายณัฐพล หรือเมย์ จเรจินดารัตน์ อายุ 25 ปี น.ส.พลอย (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และนายกอล์ฟ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 912/2553 ,912/1/2553 และ 912/2/2553 (ตามลำดับ) ลงวันที่ 2 ต.ค.2553 ในข้อหากรรโชกทรัพย์ ,หน่วยเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส,กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีและพยายามฆ่าผู้อื่น โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 52/133 หมู่บ้านสินทวีการ์เด้น โครงการ 1/2 ซอยอนามัยงามเจริญ แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน


การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 16.00 น.วานนี้ (1 ต.ค.) นางอร (นามสมมติ) อายุ 43 ปี เข้าร้องเรียนมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรีว่า

เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ลูกสาวบุญธรรมของตนคือ ด.ญ.อ้อ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ได้เดินทางไปเที่ยวบ้านเพื่อนชื่อรัตน์แล้วหายตัวไป ไม่ได้กลับมาบ้านอีกเลย หลังจากนั้นวันที่ 19 ก.ย.ลูกสาวโทร.กลับมาอีกครั้งพร้อมกับถามสารทุกข์สุขดิบว่า ตนเป็นอย่างไรกบ้าง กินข้างหรือยัง แต่ตนตอบกลับไปว่า กินข้าวไม่ลงเพราะลูกสาวไม่อยู่บ้าน จากนั้นลูกสาวก็วางสายไป หลังจากนั้นก็มีคนโทรศัพท์เข้ามาหาตนอยู่เรื่อย ๆ แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร


นางอรกล่าวต่อว่า ต่อมาวันที่ 22 ก.ย.ลูกสาวโทรศัพท์กลับมาหาตนอีกครั้ง พร้อมบอกว่าให้ตนโอนเงินมาให้หน่อย เนื่องจากไม่มีเงินใช้

แต่ตนบอกไปว่าไม่มีเงิน พร้อมทั้งบอกให้ลูกสาวกลับบ้านแต่ลูกสาววางสายไปทันที กระทั่งวันรุ่งขึ้นลูกสาวโทรศัพท์มาหาตนอีกครั้ง แต่คราวนี้มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งพูดแทรกเข้ามาด้วยว่า "ไม่ต้องห่วง ลูกสาวสบายดี ไม่เหมือนอยู่กับแม่ที่ถูกทรมาน ถูกล่ามโซ่ทุบตี" ตนจึงตอบปฏิเสธกลับไปว่า ไม่เคยทำเช่นนั้น แต่ชายคนดังกล่าวกลับบอกว่า ให้ส่งเงินมาให้ลูกสาวใช้หนี้ เพราะยืมเงินชายคนดังกล่าวไป 10,000 บาท แต่ตนไม่เชื่อว่าลูกสาวจะยืมเงินใครมากมายขนาดนั้น ทำให้ชายคนดักล่าววางสายไป


นางอรกล่าวอีกว่า หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้อีกเลย กระทั่งวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ลูกสาวกลับมาที่บ้านในสภาพร่างกายสะบักสะบอม

ผมและคิ้วถูกโกนทิ้งจนเกลี้ยง มีรอยบอบช้ำไปทั้งตัว มีรอยถูกจี้ด้วยของร้อนจนเป็นแผล 5 จุด ที่แผ่นหลังมีรอยสักด้วยเข็มเป็นรูปดอกกุหลาบ และคำว่า HAREM นอกจานี้ที่แขนและขาข้างซ้ายถูกกรีดด้วยคัตเตอร์ อวัยวะเพศเป็นแผลเหวอะหวะเกือบถึงรูทวารหนัก ทำให้ตนรู้สึกตกใจมาก


จากการสอบถามลูกสาวเล่าให้ฟังว่า วันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ตั้งใจจะไปค้างบ้านเพื่อนชื่อรัตน์

แต่เมื่อไปถึงบ้านกลับไม่เจอ ด.ญ.รัตน์ แต่อย่างใด เมื่อโทรศัพท์ไปถามด.ญ.รัตน์ทราบว่ารวมตัวกับเพื่อนอยู่ที่บ้านของนายเอ ไม่ทราบชื่อจริง-นามสกุล เป็นบ้านหลังเกิดเหตุดังกล่าว ลูกสาวจึงตามไปหา ด.ญ.รัตน์ แต่เมื่อไปถึงกลับไม่เจอเพื่อนแต่อย่างใด พบแต่เพียงนายณัฐพล หรือเมย์ นายกอล์ฟ และน.ส.พลอย เพียงแค่ 3 คนเท่านั้น ส่วนด.ญ.รัตน์อ้างว่าได้ออกจากบ้านไปแล้ว


"ลูกสาวเล่าให้ฟังต่อว่า หลังจากนั้นพวกวัยรุ่นทั้งหมดก็จับลูกสาวดิฉันไปทรมาณสารพัด ทั้งตบ เตะ จับโกนผม โกนคิ้ว ใช้ธูปจี้หัว เอามีดคัดเตอร์กรีดแขนกรีดขา อีกทั้งยังใช้เข็มทิ่มกลางแผ่นหลังสักเป็นรูปดอกกุหลาบ ก่อนจะเอาน้ำยาล้างห้องน้ำและผงซักฟอกเทใส่แปรงขัดส้วมยัดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศจนเป็นแผลเหวอะหวะ อีกทั้งยังบังคับให้ลูกสาวโทร.มาหลอกเอาเงินจากดิฉัน แต่เมื่อพวกนั้นคิดว่าไม่ได้เงินแน่แล้ว ช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 29 ก.ย.พวกนั้นก็จับลูกสาวดิฉันขึ้นรถจยย.ออกมาจากบ้าน โดยมีนายเมย์เป็นคนขี่ และนายกอล์ฟนั่งประกบท้ายมาด้วย เมื่อมาถึงที่สะพานพุทธ พวกนั้นก็ถีบลูกสาวดิฉันตกสะพานทันทีเพื่อหวังจะฆ่าปิดปาก"นางอรกล่าวทั้งน้ำตา


นางอรกล่าวด้วยว่า เมื่อลูกสาวตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาก็พยายามว่ายไปเกาะผักตบชวาเพื่อลอยคอไปเรื่อย ๆ

จนกระทั่งเวลาผ่านไป 3 ชั่วโมงก็ลอยคอมาถึงย่านราษฎร์บูรณะกระทั่งมีรปภ.คนหนึ่งลงไปช่วยขึ้นมาจากน้ำ พร้อมทั้งเรียกแท็กซี่ให้มาส่งบ้านในเวลา 04.00 น.วานนี้ (1 ต.ค.) ก่อนที่ตนจะรีบพามารักษาตัวที่โรงพยาบาลบางมดทันที พร้อมทั้งแจ้งมายังมูลนิธิปวีณาฯเพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากลูกสาวเล่าให้ฟังว่า เคยมีเหยื่อถูกกลุ่มวัยรุ่นพวกนี้จับไปทรมาณในลักษณะนี้มาแล้วหลายราย บางคนถึงขั้นเสียชีวิตก็มี


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าไปจับกุมในบ้านพักถึงกับหน้าถอดสี

จากการสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คนยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยนายณัฐพลอ้างว่า เคยเจอหน้า ด.ญ.อ้อมาก่อนเนื่องจากเป็นแฟนรุ่นน้อง วันเกิดเหตุ ด.ญ.อ้อมาที่บ้านของตนจริง แต่ไม่ได้พักอยู่ทุกวัน และพวกตนไม่ได้จับตัวมาทรมาณเพื่อรีดไถเงินแต่อย่างใด เนื่องจากพี่สาวตนก็อยู่ที่บ้านด้วย หากพี่สาวตนเห็นก็ต้องห้ามปรามแล้ว


จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ออกจากบ้านพักเพื่อไปสอบปากคำที่โรงพัก


แต่ก็มีพ่อแม่แท้ ๆ และบรรดาญาติของ ด.ญ.อ้อ ประมาณ 10 คน ยืนตะโกนด่าทอกลุ่มผู้ต้องหาอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวผู้ต้องหาไปขึ้นรถ ระหว่างนั้น แม่แท้ ๆ ของด.ญ.อ้อ ได้ตรงเข้าไปทุบ น.ส.พลอย ก่อนจะขว้างก้อนอิฐใส่จนเจ้าตัวศีรษะแตก
ด้าน พ.ต.อ.ยุคลเดช กล่าวว่า หลังจากนี้จะทำการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสามคนอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้ยังให้การปฏิเสธอยู่ โดยในส่วนของผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนคือนายกอล์ฟ กับน.ส.พลอยจะต้องสอบปากคำพร้อมกับอัยการ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ และผู้ปกครอง ก่อนจะควบคุมตัวส่งสถานพินิจฯวันพรุ่งนี้ (3 ต.ค.) เนื่องจากมีอำนาจควบคุมตัวได้ 24 ชม. ส่วนนายณัฐพลนั้นจะนำตัวส่งฝากขังในวันจันทร์ที่ 4 ต.ค.ต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์