รบ.เล่นซ่อนหา-กองทัพนิ่ง บ้านเมืองไร้ขื่อแป?

ชักจะไม่ม้วนเดียวจบ อย่างที่ประกาศไว้ตอนแรก ตั้งแต่การรวมพลใหญ่ในวันที่ 23 พฤศจิกายน

รวมถึงการเคลื่อนขบวนตลอดทั้งวันของวันที่ 24 พฤศจิกายน ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั้งการปิดล้อมรัฐสภา กระทรวงการคลัง กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) และทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว ท่าอากาศยานดอนเมือง ที่ต้องวืดไป ด้วยไม่เกิดสถานการณ์เพียงพอ ที่สามารถสร้างจุดเปลี่ยนได้

แต่กลุ่มพันธมิตรยังไม่ลดความพยายาม และขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ดาวกระจายต่อไป เห็นได้ว่า ในวันที่ 25 พฤศจิกายน ยังมีความเคลื่อนไหวต่อ ด้วยการเดินทางไปชุมนุมบริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพไทย โดยอ้างเหตุจะมีการใช้สถานที่ประชุม ครม. รวมถึงการเคลื่อนพลปิดทางเข้าออก สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อรอต้อนรับ "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" นายกรัฐมนตรี ที่กลับจากการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชีย-ยุโรป หรือเอเปค ที่ประเทศเปรู ในวันที่ 26 พฤศจิกายน

เหตุที่ม้วนเดียวไม่จบ วิเคราะห์ได้อย่างเดียว คือ เจอกับวิชา "ไทเก๊ก" ที่นุ่มนวล โอนอ่อน ผ่อนคลาย ลื่นไหลต่อเนื่องของรัฐบาล "สมชาย" เข้าให้

โดยประเดิมเพลงดาบแรก จาก "ชัย ชิดชอบ" ประธานสภา ที่กลับลำเลื่อนการประชุมรัฐสภาในวินาทีสุดท้าย ทำให้พันธ มิตรต้องไปปิดล้อมเก้อ แบบได้รับชัยชนะ

สถานการณ์การต่อสู้วันนี้ จึงเหมือนเล่น "เกมซ่อนหา" มีกลุ่มพันธมิตรเป็นตัวไล่จับ มี "รัฐบาลสมชาย" เป็นตัวแอบ ตามจับได้เกมก็จบ ถ้าจับไม่ได้ ฝ่ายไล่จับก็อ่อนแรง

เป็นสงครามชิงความชอบธรรมของชัยชนะ!

ประสบการณ์ 7 ตุลาคม เป็นบทเรียนที่แสนดีของ "รัฐบาลสมชาย" ที่ถูกนำมาใช้สยบการเผด็จศึกของกลุ่มพันธมิตรครั้งนี้ เห็นได้ว่า กลุ่มพันธมิตรจะไปที่ไหน ก็ไม่ได้รับการขัดขวางหรือใช้กำลังสกัดกั้นจากตำรวจแม้แต่น้อย แม้ผู้บัญชาการเหตุการณ์จะเป็นสายเหยี่ยวที่ชื่อ "พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ" รมว.มหาดไทยก็ตาม

ภาวะดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะต่างฝ่ายต่างทันเกมซึ่งกันและกัน แต่คงไม่สามารถยันเกมเดิมไปได้นานนัก เพราะอีกฝ่ายจะคิดแก้เกมในไม่ช้า

รัฐบาลคงไม่สามารถตะลอนทัวร์ หนีกลุ่มพันธมิตรไปได้ตลอด แม้จะหวังที่ปลอดภัยสุดท้าย ในอ้อมอกกองทัพก็ตาม เพราะการเคลื่อนพลบุกกองบัญชาการกองทัพไทย เป็นการส่งสัญญาณเชิงสัญลักษณ์ที่สำคัญเพื่อบอกว่า

ไม่ว่าคุณอยู่ที่ไหน ไม่ว่าสถานที่นั้นจะเป็นของใคร ถ้าหากเรารู้ เราจะตามไปลุย!

อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นการไปชุมนุมเพื่อแสดงสัญลักษณ์ โชว์ขีดความสามารถในการเคลื่อนพลรูปแบบใหม่ด้วยยานพาหนะ ด้วยยุทธการ "ดื้อ ยื้อ อึด"

แต่ก็มีของแถม ด้วยการยื่นหนังสือเรียกร้องให้ทหารออกมาแสดงท่าทีที่ชัดเจน นั่นคือ เคาะประตูกองทัพไปด้วยอีกทาง

แต่ชั่วโมงนี้ พระเอกที่ชื่อ "พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา" ผบ.ทบ. ยังคงตั้งหลักไว้อย่างนิ่งเป็นที่สุด ด้วยการออกมาให้สัมภาษณ์ ยืนยันกองทัพไม่เห็นว่า การปฏิวัติเป็นทางออก

พร้อมประกาศจุดยืนกองทัพ 1.ทหารทุกเหล่าทัพ จะดูแลประเทศชาติบ้านเมือง โดยมีแนวคิดดูแลสถาบันหลักของชาติไว้ให้ได้ สถาบันพระมหากษัตริย์ หรือประชาชนที่ต้องมีความสงบเรียบร้อย 2.ผบ.เหล่าทัพเห็นตรงกันว่า จะใช้มาตรการและศักยภาพทั้งหมดที่มีอยู่ เพื่อไม่ให้คนมาปะทะกันทำให้เกิดความสูญเสียขึ้น และ 3.ยึดแนวทางกระบวนการยุติธรรม หรือกฎหมายเป็นหลัก ในการช่วยกันแก้ไขปัญหาบ้านเมือง

กั๊กแบบสุดสุด!!!

เมื่อเป็นเช่นนี้ ยุทธศาสตร์พันธมิตรแบบเฉพาะหน้า ก็คือ เคลื่อนไหวทุกวิธี เพื่อไม่ให้ฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ นั่งทำงานที่ไหนได้ เมื่อทำงานไม่ได้ ก็ขาดสภาวะการใช้อำนาจ มีรัฐบาล ก็เหมือนไม่มีรัฐบาล ต้องยั่วให้หมดความอดทน ให้ใช้กำลังเข้าจัดการ

แต่ทว่า ด้วยคำประกาศของ "สมชาย" ข้ามโลกจากเปรูว่า ไม่เคยมีแนวคิดที่จะลาออก หรือยุบสภา เพราะมาจากประชาชน เป็นการแน่วแน่ในจุดยืน แถมด้วยการซัดว่าใครต่อต้านรัฐบาลถือเป็น "กบฏ"

เป็นการประกาศไม่ยอมแพ้ แต่ไม่ขอหลงตกในเกม "ไม้ขีดไฟก้านแรก"

เมื่อจบกันไม่ลง สงครามจะทวีความเข้มข้นขึ้น เมื่อรัฐบาลบีบกลุ่มพันธมิตร จนไม่มีทางเลือก เมื่อ "พล.อ.อนุพงษ์" มีหัวใจดุจน้ำแข็งขั้วโลก

เป็นไปได้สูงที่กลุ่มพันธมิตรต้องจุดไม้ขีดไฟก้านแรกเอง แล้วลืมความชอบธรรมทิ้งไป เพราะเป็นหนทางเดียวหากต้องการชัยชนะ

และเมื่อนั้น บ้านเมืองจะตกอยู่ในภาวะไร้ระบบ เป็นภาวะที่ทหารจำต้องออกมาควบคุมสถานการณ์

ทุกอย่างก็เข้าทาง!

แต่อย่าเพิ่งคิดว่า ทุกอย่างจะจบลงง่ายๆ เพราะต่างฝ่ายก็ต่างคิดแก้เกมกันนาทีต่อนาที

แม้จะเข้าเงื่อนไขไฟลุกโชติช่วง แต่หาก "พล.อ.อนุพงษ์" ใจเย็นยิ่งกว่า เผือกร้อนจะดีดกลับเข้าหา "รัฐบาลสมชาย" อีกครั้ง เพราะเมื่อทหารไม่ออกมา รัฐบาลก็มีหน้าที่รักษากฎหมาย หากจะมีการเผาบ้านเผาเมือง ก็ต้องไปตามจับตัวผู้ก่อการ ให้รู้ว่าบ้านเมืองมีขื่อแป

เผือกร้อนถูกโยนกันไปมา เที่ยวนี้เห็นทีกว่าจะชนะกันได้ ประเทศไทยคงปรักหักพังไปหมดแล้ว...

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์