ย้ำไม่เก็บภาษีหุ้นแม้ว 1.2 หมื่นล.-ดียกคดี กรณ์ ฟ้อง ปู

ย้ำไม่เก็บภาษีหุ้นแม้ว 1.2 หมื่นล.-ดียกคดี กรณ์ ฟ้อง ปู

วันที่ 29 มี.ค. นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า การเก็บภาษีหุ้นจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท

ที่จะหมดอายุความวันที่ 31 มี.ค. นี้ สำนักงานกฎหมายของสรรพากรหารือกับอัยการและคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีของกระทรวงการคลัง เห็นตรงกันว่าไม่ต้องเก็บภาษีจากอดีตนายกฯ ซึ่งกรมยึดตามคำพิพากษาของศาลฎีกา แผนกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ตัดสินว่าหุ้นเป็นของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่นายพานทองแท้ และน.ส.พินทองทา ชินวัตร และการขายหุ้นดังกล่าวขายในตลาดหลักทรัพย์ ก็ไม่ต้องเสียภาษี

 "ยืนยันว่าการดำเนินการเรื่องภาษีหุ้นชินนั้นทำตามกฎหมาย ดำเนินการด้วยความรอบคอบ ซึ่งไม่กังวล หากฝ่ายค้านจะยื่นป.ป.ช.ตรวจสอบเอาผิดละเว้นปฏิบัติหน้าที่" นายสาธิตกล่าว

 ด้านนายสรรเสริญ สมะลาภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะยื่นป.ป.ช. สอบเอาผิดกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงคลัง และอธิบดีกรมสรรพากร ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ไม่เก็บภาษีหุ้น 1.2 หมื่นล้านบาท ทำให้เกิดความเสียหาย

 ที่กรมสอบสวนดีพิเศษ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ
 
แถลงกรณีนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรมว.คลังทำหนังสือให้ดีเอสไอเร่งรัดดำเนินคดีอาญากับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ นายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา ชินวัตร ข้อหาร่วมกันแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น ซึ่งควรจะแจ้งในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนในสาระสำคัญ (ปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น) ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์มาตรา 278 และให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานในคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งยึดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณจำนวน 4.6 หมื่นล้านบาท

 นายธาริตแถลงว่า ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของสำนักคดีการเงินการธนาคารพบว่า กรณีแจ้งเท็จนั้นขณะเกิดเหตุคือปี 2545-2547 พ.ร.บ.หลักทรัพย์

ยังไม่มีบทบัญญัติว่าเลขาธิการก.ล.ต.เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาแม้ภายหลังจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายดังกล่าว โดยกำหนดให้เลขาฯ ก.ล.ต. กรรมการ ก.ล.ต. และกรรมการกำกับตลาดทุนเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2551 แต่เรื่องดังกล่าว ก.ล.ต. เคยมีหนังสือชี้แจงไปยังรมว.คลังว่าในช่วงเกิดเหตุ ยังไม่มีบทบัญญัติใดกำหนดให้มีการชี้แจงต่อเลขาฯ ก.ล.ต. เป็นความผิดตามกฎหมายต่อเจ้าพนักงาน ขณะนั้นเลขาฯ ก.ล.ต. จึงยังไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย โดยดีเอสไอจึงเห็นว่าการกระทำไม่ครบองค์ประกอบความผิด จึงถือว่าไม่เป็นความผิด

 นายธาริตกล่าวว่า ส่วนประเด็นปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นเป็นหน้าที่ของบริษัทชินฯ เป็นผู้จัดทำและข้อมูลที่ใช้รายงานก็มาจากบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ของประเทศ
 
ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐ รวมทั้งบริษัทชินฯ ซึ่งตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่ารายชื่อในขณะนี้ถูกต้องตรงกัน จึงไม่ได้เป็นรายงานอันเป็นเท็จหรือมีการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น ซึ่งไม่ได้ทำให้ผู้ใดเข้าใจผิดหรือมีความเสี่ยง เพราะในรายงานโครงสร้างผู้ถือหุ้นใช้คำว่า "ครอบครัวชินวัตรและผู้เกี่ยวข้องหรือกลุ่มครอบครัวชินวัตรและครอบครัวดามาพงศ์" ซึ่งเข้าใจได้ว่าผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นใคร นอกจากนี้ ยังไม่พบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายพานทองแท้ และน.ส.พินทองทา มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดทำรายงาน เพราะถือเป็นหน้าที่ของบริษัท ยกเว้นนายบรรณพจน์ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะเป็นผู้ลงนามรับรองรายงาน ในฐานะเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ

 นายธาริตกล่าวว่า จากการพิจารณาคำพิพากษาศาลฎีกาฯ พบว่า คำพิพากษาดังกล่าวเพิ่งจะเกิดขึ้นภายหลังมีการขายหุ้นไปหมดแล้ว

และไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดได้รับความเสี่ยง ประกอบกับคำพิพากษาเป็นการตัดสินคดีเกี่ยวกับทรัพย์สิน ไม่ใช่คดีอาญา ดังนั้น ไม่ถือเป็นสาระสำคัญให้เกิดความเข้าใจผิดต่อการลงทุน จึงมีคำสั่งให้ยุติเรื่อง เพราะไม่พบการกระทำความผิด ทั้งนี้ ดีเอสไอได้ทำหนังสือแจ้งผลการดำเนินการไปยังผู้ร้อง รวมทั้งกระทรวงการคลังและสำนักนายกฯ แล้ว


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์