ยื่นคำร้องยุบพรรควันที่ 6 ก.ค.

นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยวานนี้


ถึงความคืบหน้าการส่งสำนวนคำร้องยุบ 5 พรรคการเมือง ว่า อัยการสูงสุดได้เห็นชอบตามความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯทุกประการ และได้จัดทำคำร้องและเอกสารเพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ แบ่งเป็น 5 สำนวน สำเนาเอกสารสำนวนละ 20 ชุด รวม 1 แสนแผ่น ขณะนี้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้อง นายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุด กำหนดยื่นคำร้องต่อศาล รัฐธรรมนูญในวันที่ 6 ก.ค.นี้ สำหรับการบรรยายพฤติการณ์และการลำดับเหตุการณ์กระทำผิดของพรรคการเมืองทั้ง 5 พรรค อยู่บนพื้นฐานผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และตามสำนวนชี้มูลความผิดของนายทะเบียนพรรคการเมือง โดยบรรยายไล่เรียงตั้งแต่ใครเป็นผู้ร้องเรียน ประเด็นการร้องเรียน ผู้กระทำผิด นายทะเบียนพรรคการเมืองดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างไร และผลสรุปการสอบสวน ทั้งหมดต้องเชื่อมโยงทุกประเด็นความผิดของทั้ง 5 พรรค เพราะการกระทำความผิดมีความเกี่ยวพันกัน

เผย 3 ความผิดของ ปชป.


นายปรเมศวร์กล่าวด้วยว่า ส่วนคำร้องของพรรคประชาธิปัตย์ นายทะเบียนพรรคการเมืองชี้มูลไว้ 6 ประการ แต่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเห็นว่าพฤติการณ์พรรคประชาธิปัตย์เข้าลักษณะความผิดเพียง 3 ประการคือ 1. ยุยงประชาชนจังหวัดสงขลาให้ขัดขวางการสมัครเลือกตั้ง 2. โจมตีพรรคการเมืองอื่นโดยใช้ ถ้อยคำรุนแรง เช่น โคตรโกง 3. ใส่ร้ายปรักปรำผู้สมัครพรรคการเมืองอื่นว่าจ้างพรรคเล็ก ส่วนกรณีอื่นนั้น อัยการเห็นว่าไม่มีความผิด ทั้งนี้ คำร้องยุบพรรคได้อธิบายเหตุผลและข้อกฎหมายทั้งในส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ตามสำนวนชี้มูลความผิดของนายทะเบียนพรรค การเมือง ส่วนผลการวินิจฉัยจะออกมาเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ

ทรท.ขู่ยุบ 2 พรรคระวังปะทะเดือด


ด้าน นายธีระชัย แสนแก้ว อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นพรรคเก่าแก่ ส่วนพรรคไทยรักไทยเป็นพรรคใหญ่ หากยุบ 2 พรรคนี้ เท่ากับเป็นการยุบประชาธิปไตย คงจะมีปัญหาตามมา เชื่อว่าความรุนแรงเกิดขึ้นแน่ ประชาชนที่ศรัทธาพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้ และประชาชนที่ศรัทธาพรรคไทยรักไทยในพื้นที่ต่างๆอาจจะออกมาแสดงสิทธิบางอย่างในสิ่งที่ไม่คาดคิดได้ ที่พูดเช่นนี้ไม่ใช่การขู่ แต่พูดไปตามข้อเท็จจริง มั่นใจว่าคะแนนโนโหวตจะมากกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา และอาจทำให้ประชาชนเบื่อประชาธิปไตย ไม่ยอมออกมาเลือกตั้ง เป็นการเปิดทางให้พวกที่มีหัวใจเผด็จการเข้ามายึดประเทศได้

วอนศาล รธน.ใช้หลักรัฐศาสตร์


นายธีระชัยกล่าวว่า อยากฝากเตือนนักการเมืองรุ่นพี่อย่าเอาชนะคะคานกันเลย โดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ใจเย็นๆ ตอนนี้ถือว่าหัวอกเดียวกันแล้ว มาร่วมมือกันอย่าให้ใครยุบพรรคจะดีกว่า นอกจากนี้ อยากเรียกร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า น่าจะใช้หลักรัฐศาสตร์เข้าไปพิจารณาด้วย เวลานี้ทุกฝ่ายควรหันหน้าเข้ามากันเพื่อให้มีการเลือกตั้ง ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะเสียหายมากกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงของการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ทุกคนควรสามัคคีกัน ยุติความขัดแย้ง เหตุการณ์ต่างๆที่เคยเกิดขึ้น ถ้าจะมีความผิดหรือไม่มีความผิดควรจะให้มีการนิรโทษกรรมกันไป


พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า

ขณะนี้มีข่าวการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนในพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อคัดค้านการยุบพรรค หรือสร้างกระแสความวุ่นวายทางการเมือง แต่ข่าวดังกล่าวไม่ได้ระบุว่าเป็นพื้นที่ใด จึงได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำงานตามหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น ฝ่ายปกครองจะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องการเมือง

กกต.ชี้ผลกระทบหลังยุบพรรค


บ่ายวันเดียวกัน พล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา เลขาธิการ กกต. แถลงถึงกรณีกระแสข่าว กกต.พิจารณายุบพรรคประชาธิปัตย์ และส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดอย่างเร็วผิดปกติ เพราะเกิดจากความแค้นส่วนตัวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่ได้เร่งรัดเฉพาะพรรคการเมืองใด และไม่ได้กลั่นแกล้งเพื่อหวังทำลายหรืออาฆาตแค้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคหลังจากมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้ว จะมีปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ส.หรือไม่ พล.ต.ต.เอกชัยตอบว่า ถ้าศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคจริง เรื่องนี้มีผลมาก เพราะจะทำให้ผู้สมัครของพรรคการเมืองที่ถูกยุบขาดคุณสมบัติทันที แม้จะย้ายไปสังกัดพรรค การเมืองอื่นก็ไม่ได้ทำให้สิทธิการสมัครกลับคืนมา เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้ต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเดียวจนถึงวันสมัครไม่น้อยกว่า 90 วัน

เมื่อถามว่า กกต.จะหารือกับรัฐบาลเพื่อให้ชะลอออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งหรือไม่ พล.ต.ต.เอกชัยตอบว่า รัฐบาลรู้อยู่แล้ว อีกทั้งการกำหนดวันเลือกตั้งเป็นอำนาจของรัฐบาล กกต.เป็นเพียงผู้ปฏิบัติ

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์