ยื่น “ปู – ปธ.กมธ.มั่นคงฯ” ระงับ นาซ่า ใช้สนามบินอู่ตะเภา

วันนี้(11 มิ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึง กรณีที่มีการอนุญาตให้องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา เข้ามาดำเนินการศึกษาโครงการการก่อตัวของเมฆที่มีผลกระทบต่อสภาวะภูมิอากาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทย ว่า ตนจะเข้ายื่นเรื่องต่อนายกรัฐมนตรี ให้ระงับการดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อไม่ให้นำเรื่องเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และจะยื่นหนังสือถึงนายการุณ โหสกุล ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาเรื่องนี้ ด้วยเหตุผลคือ 1.มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งจะต้องผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา ตามมาตรา 190 ก่อน 2. สหรัฐอเมิกาสามารถนำข้อมูลไปใช้งานด้านยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจได้ 3.สร้างความหวาดระแวงให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ จีน เวียดนาม มาเลเซีย สิงค์โปร์ เป็นต้น ได้ 4. เป็นการบินผ่านพื้นที่ชายแดน และการลงจอดฉุกเฉินในประเทศเพื่อนบ้าน โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ต้องเป็นความรับผิดชอบในหน่วยงานความมั่นคงของประเทศไทย 5. บินผ่านเขตหวงห้ามของไทย เช่น พื้นที่ฝึกของทหาร และเขตพระราชฐาน อยากถามว่าอะไรจะเกิดขึ้นที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทย 6.อาจมีการซ่อนเร้นอุปกรณ์ที่เป็นยุทโธปกรณ์นอกเหนือจากอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์บนเครื่องบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทางการไทยทราบ และ7.กระตุ้นให้ฝ่ายต่อต้านสหรัฐอเมริกา มาก่อการร้ายในไทยได้

เมื่อถามว่าโครงการดังกล่าวแตกต่างกับสมัยที่นายกษิต ภิรมย์ อดีตรมว.ต่างประเทศ เคยเสนอให้มาใช้สนามบินอู่ตะเภาหรือไม่ นายถาวร กล่าวว่า แตกต่าง เพราะในสมัยนายกษิต ดำเนินการร่วมกับสหประชาชาติ ที่มีหลายประเทศ แต่ขณะนี้เป็นการดำเนินการร่วมกับนาซ่า ที่มีสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียว ดังนั้นขอเรียกร้องข้าราชการด้านความมั่นคงและกองทัพออกมาแสดงความคิดเห็นเพื่อระงับยับยั้งเรื่องดังกล่าว เนื่องจากผบ.ทอ. ยังไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องที่กระทรวงต่างประเทศดำเนินการเอง ทั้งนี้ทราบมาว่าเตรียมทหารรุ่น 10 ที่อยู่ในพรรคเพื่อไทยก็ไม่พอใจในเรื่องนี้เช่นกัน

เมื่อถามว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กับการออกวีซ่าให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้าประเทศสหรัฐอเมริกา หรือไม่ นายถาวร กล่าวว่า หลายคนพยายามจับตาในเรื่องการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ส่วนตนของพ.ต.ท. ทักษิณ เพราะนี่คือเรื่องใหญ่มาก และตนเห็นว่าหากมีการแลกเปลี่ยนกันจริง ก็ต้องเป็นผลประโยชน์ยิ่งใหญ่มหาศาล เกี่ยวกับทรัพย์สินทางทะเล เพราะขณะนี้บริษัท เชฟรอนของสหรัฐอเมริกา ก็เข้ามาขุดเจาะน้ำมันในประเทศไทยแล้ว อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ ทางเครือข่ายคณะกรรมการปปท.จังหวัดสงขลา ได้ยื่นฟ้องให้ยกเลิกบริษัทขุดเจาะพลังงานทีเอารัดเอาเปรียบคนไทย ซึ่งก็กำลังรวบรวมรายชื่อเพื่อให้มีโจทก์ร่วม 1พันคน เพื่อแสดงพลังประชาชน ทั้งนี้หากมีการยกเลิกสัมปทานก็จะทำให้ราคาก๊าซถูกลง อย่างไรก็ตามจากการพูดคุยกับอดีตทูตประเทศอาเจนติน่า ซึ่งเป็นประเทศที่ยกเลิกสัญญาสัมปทานกับบริษัทของสหรัฐฯ ที่เอาเปรียบ และอดีตทูต ก็พร้อมที่จะไปขึ้นเวทีชี้แจงกับประชาชนที่ จ.สงขลา ด้วย