ยิ่งลักษณ์งดจ้อทีวีส่ง“โต้ง-ทิป”แจงงบฯ

นายกรัฐมนตรี งดจ้อ ทีวี ส่ง “โต้ง-ทิป”แจงงบสร้างพื้นฐาน2ล้านล้านบาท สร้างโครงข่ายคมนาคม ยันจำเป็นต้องลงทุนโลจิสติกส์ ไม่อย่างนั้นประเทศล้าหลัง

ยิ่งลักษณ์งดจ้อทีวีส่ง“โต้ง-ทิป”แจงงบฯ


           นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พร้อมด้วยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ได้รับมอบหมายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐทนตรี ให้จัดรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน”แทน เพื่อทำการ ชี้แจงถึงยุทธศาสตร์การลงทุนของประเทศ ในการลงทุนโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่ง วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ตามที่ครม. เห็นชอบวงเงินดังกล่าวเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา


        โดยนายกิตติรัตน์ กล่าวตอนหนึ่งว่ากระทรวงการคลังได้ทำงานร่วมกับกระทรวงคมนาคม โดยกระทรวงคมนาคมได้เสนอยุทธศาสตร์ลงทุนเครือข่ายคมนาคมขนส่ง ทั้งทางราง ทางถนน ทางน้ำ และทางอากาศ แนวทางที่อนุมัติก็จะนำเข้าสู่การกรองโครงการต่างๆ เพื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.ต่างๆ เพื่อให้ ครม.พิจารณา โดยจะนำแนวทางต่างๆเปิดเผยต่อสาธารณชน ให้ได้มีโอกาสรับทราบและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อนำมาปรับแก้ไขในแนวทาง จากนั้นก็นำข้อเสนอต่างๆ มาเสนอ ครม. ในสมัยประชุมนี้ต่อไป 
 
       อย่างไรก็ตาม กรอบวงเงินตัวเลข 2 ล้านล้าน ซึ่งกรอบวินัยการคลังได้คำนวนตัวเลขดังกล่าวมาแล้วว่ามีความเหมาะสมและคุ้มค่าสามารถควบคุมวินัยการคลังได้เป็นอย่างดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา หากเสร็จสิ้นก็จะนำมาให้ สามารถเสนอต่อรัฐสภาคาดว่าจะเสนอได้ภายในสมัยประชุมนี้ หรือก่อนกลาง เม.ย. นี้ กรอบวงเงินลงทุนใหญ่ซึ่งพูดกันที่ 2 ล้านล้านบาท คำนวณตามกรอบวินัยการคลังแล้ว มีความพร้อม คุ้มค่า และคุมยอดรวมวินัยการคลังได้เป็นอย่างดี โดยกรอบวงเงินจะอยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท


       นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า การเป็นหนี้ของประเทศเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง แต่หลังวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 เราเข้มงวดเรื่องกำหนดหนี้สาธารณะต่อจีดีพี เราไม่ควรมีหนี้ถึงร้อยละ 60 แต่ตอนนี้หนี้สาธารณะของเราอยู่ที่ร้อยละ 43 และร้อยละ 8 เป็นหนี้สาธารณะที่ไม่เป็นภาระต่องบประมาณ เพราะฉะนั้นหนี้สาธารณะของเราอยู่ในระดับที่ต่ำ การลงทุนครั้งนี้รักษาวินัยการคลังได้เป็นอย่างดี และไม่ได้กู้ทันที มีการทยอยลงทุน การทยอยมีหนี้ขยับขึ้นไปตามขนาดเศรษฐกิจที่ดีขึ้น เราควบคุมไม่ให้หนี้เกินร้อยละ 15 ของงบประมาณประจำปี ที่สำคัญขณะที่ลงทุนไประบบโครงสร้างจะดีขึ้นเรื่อยๆ ประหยัดในด้านการสูญเสียทางเศรษฐกิจ


       สำหรับแหล่งเงินกู้ เรามีสภาพคล่องที่เกิดจากความสำเร็จในการส่งออกสุทธิที่เป็นบวกอย่างเพียงพอมากมาย และสภาพคล่องที่ว่าคนอาจจะบอกว่าอยู่ที่ไหน ความจริงก็อยู่ในระบบ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ก็จำเป็นต้องดูสภาพคล่องไม่ให้ล้นทะลัก แทบพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าถ้าจะลงทุน 2 ล้านล้านบาท โดยไม่กู้เงินจากต่างประเทศเลยแม้แต่บาทเดียวก็ทำได้ เพราะมีสภาพคล่องเพียงพอในฐานะที่เป็นเงินบาทและเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ แต่ถ้าจะกู้จากต่างประเทศบ้าง เพื่อให้ยังคงอยู่ในวงการเงินระหว่างประเทศ แต่จะพยายามใช้เงินกู้จากต่างประเทศให้น้อยที่สุด และเราก็ต้องการจัดการกับสภาพคล่องส่วนเกินที่มีด้วย นายกิตติรัตน์ กล่าว


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์