ยิ่งลักษณ์ ยกเหตุ ทุ่มเทดับไฟใต้ เสนอ อดุลย์ เป็นผบ.ตร.

วันนี้ (16 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรววจแห่งชาติ(ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศระหว่างมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.)
 
เพื่อแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ที่ทำเนียบรัฐบาล   ว่า สำนักงานของ ผู้มีชื่อเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.ทั้ง 2 คน ทั้ง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว  และพล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.ต่างปิดเงียบ ไม่มีผู้มารอลุ้นผลการแต่งตั้งแต่อย่างใด โดย พล.ต.อ.ปานศิริ นั้นไม่มีความชัดเจนว่าอยู่ที่ใด ขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ นั้นไปร่วมงานเปิดโครงการ มัสยิดเฉลิมพระเกียรติปลอดยาเสพติด 84 พรรษา เทิดไท้องค์ราชันย์ ที่ศูนย์บริหารงานอิสลามแห่งชาติ เขตหนองจอก ในฐานะเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาฯป.ป.ส.)

ขณะที่มีรายงาน ถึงการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ แทน พล.ต.อ. เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน ว่า 

การประชุม ก.ต.ช.ในครั้งนี้พิจารณาวาระเดียวคือแต่งตั้ง ผบ.ตร. โดยการประชุม เริ่มตั้งแต่ 14.40  น. จากนั้นก็เริ่มพิจารณาวาระแต่งตั้งผบ.ตร.ในเวลา 14.50 น.  โดยที่ประชุมได้ให้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์  รองผบ.ตร.ที่เป็นเลขานุการก.ต.ช.ออกจากห้องประชุมด้วย เนื่องจากมีส่วนได้เสีย เพราะเป็นนายตำรวจยศพล.ต.อ.  มีสิทธิถูกเสนอชื่อเป็นผบ.ตร.คนหนึ่งเช่นกัน  โดยใช้เวลาพิจารณาแต่งตั้งผบ.ตร.ประมาณ 40 นาที จากนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานก.ต.ช. ได้ยุติการประชุม

มีรายงานจากที่ประชุม  ก.ต.ช.ชี้ว่า นายกรัฐมนตรีได้เสนอชื่อ พล.ต.อ.อดุลย์ เพียงคนเดียวให้เป็น ผบ.ตร.

โดยให้เหตุผลศักยภาพในการเป็นผู้นำเพื่อเตรียมองค์กรตำรวจในมีความพร้อมสู่การก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558 โดยให้เหตุผลว่า พล.ต.อ.อดุลย์ มีความรู้ความสามารถ  มีประสบการณ์การทำงาน ผลงานการทำงานที่หลากหลายอาทิ การทำงานด้านยาเสพติด การดูแลความสงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการดูแลงานด้านความมั่นคง นอกจากนี้ยังให้เหตุผลว่าการเลือกคนเป็น ผบ.ตร.ควรให้เวลาในการทำงานให้มีความต่อเนื่อง ซึ่ง พล.ต.อ.อดุลย์ จะเกษียณในอีก 2 ปีข้างหน้า จึงมีความเหมาะสม โดยนายกรัฐมนตรีได้นำเสนอเหตุผลหลักที่เลือก พล.ต.อ.อดุลย์ว่า ถือเป็นนายตำรวจที่มีความทุ่มเท เสียสละอย่างสูง ในการลงไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนนำกองกำลังตำรวจทำงานประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตามแม้นายกรัฐมนตรีจะนำเสนอเหตุผลที่เลือก พล.ต.อ.อดุลย์ แต่ก.ต.ช.บางคนได้ให้ความเห็นว่า พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ก็มีความเหมาะสมเช่นกัน  เมื่อมีความเห็นต่าง นายกรัฐมนตรีจึงใช้วิธีการลงมติ เพื่อขอเสียงสนับสนุนจาก ก.ต.ช. ว่าเห็นชอบกับการเสนอ พล.ต.อ.อดุลย์เป็น ผบ.ตร.หรือไม่   โดยก.ต.ช.ทั้ง 10 คนเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ อย่างเป็นเอกฉันท์ ซึ่งกรณี้นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้เสนอ งดออกเสียง

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ

  ได้เสนอต่อที่ประชุมว่า พล.ต.อ.ปานศิริ ก็เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ควรที่นายกรัฐมนตรี จะให้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อพิจารณาตำแหน่งที่เหมาะสมเป็นการดูแล  พล.ต.อ.ปานศิริ รองผบ.ตร.อาวุโสสูง ที่ต้องพลาดตำแหน่ง ผบ.ตร.ด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ได้รับปากว่าจะพิจารณา

ด้าน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า ก.ต.ช.เลือกพล.ต.อ.อดุลย์ เป็นผบ.ตร.คนต่อไป เพราะความเหมาะสม

ขณะที่มีรายงาน ว่า เมื่อก.ต.ช.แต่งตั้งพล.ต.อ.อดุลย์ เป็นผบ.ตร.แล้ว   ขั้นตอนต่อไปคือ นายกรัฐมนตรีเสนอรายชื่อโปรดเกล้าฯ ให้มีการแต่งตั้ง ซึ่งจะมีผลหลังจากพล.ต.อ.เพรียวพันธ์  เกษียณอายุราชการ นอกจากนี้ ส่งผลให้ ตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ส. ว่างลงอีก 1 ตำแหน่งด้วย  มีข่าวสะพัดว่าจะมีการแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.ปานศิริ ไปเป็นเลขาธิการป.ป.ส.แทน ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.อดุลย์   ได้วางตัว นายเพิ่มพงษ์  เชาวลิต  รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ไว้แล้ว   ทั้งนี้ มีกระเสข่าวว่า รัฐบาลอาจวางตัวให้ข้าราชการตำรวจไปดำรงตำแหน่งเพื่อการประสานงานที่ดีระหว่างตำรวจ รัฐบาล และ ป.ป.ส. ซึ่งอาจะเป็น  พล.ต.อ.วรพงษ์  ชิวปรีชา ที่ปรึกษาสบ 10 ซึ่งมีผลงานการทำงานด้านยาเสพติดในยุคที่ พล.ต.อ.วิเชียร  พจน์โพธิ์ศรี  เป็นผบ.ตร.