ยิ่งลักษณ์ ชี้ปี 55 เศรษฐกิจโตแน่

ยิ่งลักษณ์ ชี้ปี 55 เศรษฐกิจโตแน่

เมื่อวันนี้ 7 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ไปออกรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน”

ที่ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ โดยมีนายธีรัตถ์ รัตนเสวี เป็นผู้ดำเนินรายการ ขณะที่ผู้ร่วมรายการคือ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ร่วมด้วย ดร.วีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.)

ประเด็นสำคัญของการพูดคุยในรายการฯ ประจำสัปดาห์นี้ นายกิตติรัตน์ ระบุว่า หลังผ่านปี 2554
 
ซึ่งช่วงไตรมาสที่ 4 ประเทศไทยต้องประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ไปแล้ว คาดว่าในปีนี้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสเติบโตขึ้นร้อยละ 7 ประกอบกับมีการเพิ่มรายได้ให้ผู้มีรายได้น้อยทั้งข้าราชการและเอกชน สินค้าเกษตรหลักมีรายได้ดี ส่งผลให้เศรษฐกิจเคลื่อนตัวได้ดี จึงเป็นปีที่ต้องลงทุนเข้มแข็งจริงจัง

ด้าน ดร.วีรพงษ์ เปิดเผยว่า หลังจากเดินทางหารือและชี้แจ้งต่างชาติกรณีน้ำท่วมครั้งใหญ่

โดยเฉพาะญี่ปุ่น นักลงทุนยืนยันว่า ยังคงปักหลักลงทุนในประเทศไทยต่อไป เนื่องจากมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง และระบบราชการ พร้อมกันนี้ ดร.วีรพงษ์ ได้ยืนยันกับนักลงทุนญี่ปุ่นว่า ปัญหาน้ำท่วมใหญ่แก้ไขได้ ทั้งนี้อยากฝากรัฐบาลแก้ไขและป้องกันปัญหาน้ำท่วม เช่น จัดให้มีการซ้อมใหญ่ เพื่อทดสอบและหาข้อบกพร่องของประตูระบายน้ำ

สำหรับ 8 แนวทางแก้ไขน้ำท่วมอย่างถาวรที่นายกฯ เห็นชอบไปแล้ว นายกิตติรัตน์ ระบุว่า มีความมั่นใจในแผนดังกล่าว
 
เพราะมีการระดมผู้เชี่ยวชาญทั้งในไทยและต่างประเทศมาร่วมงาน โดยส่วนแรกเป็นแผนเร่งด่วนแล้วเสร็จภายในปี 2555 ใช้งบราว 1.7 หมื่นล้านบาท เช่น ซ่อมแซมประตูระบายน้ำ สถานีระบายน้ำ ระบบระบายน้ำที่เกิดความเสียหายจากอุทกภัย ส่วนที่  2 เป็นแผนระยะยาว ต้องมีการออกกฎหมายเพื่อระดมเงินราว 3.5 แสนล้านบาท อาจใช้เวลาราว 2-3 ปี โดย 8 แนวทางแก้ไขน้ำท่วมดังกล่าวนี้ จะมีการนำเสนอให้นักธุรกิจทั้งชาวไทยและต่างชาติรับทราบในวันที่ 14 ม.ค. นี้

ทั้งนี้ ดร.ดร.วีรพงษ์ กล่าวอีกว่า กรณีที่รัฐบาลและกระทรวงการคลังต้องรับภาระหนี้กองทุนฟื้นฟู และติดเรื่องวินัยการคลัง ส่งผลให้ไม่สามารถเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศครั้งใหญ่เพื่อแข่งขันกับต่างประเทศได้ จึงขอเสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยรับเรื่องดังกล่าวไปจัดการแทน.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์