ม็อปนับหมื่น! แห่เชียร์ 3 มี.ค. กลุ่มครูกู้ชาติขู่ไม่ออกปิดร.ร.

ม็อปนับหมื่น! แห่เชียร์ 3 มี.ค. กลุ่มครูกู้ชาติขู่ไม่ออกปิดร.ร.

"ทักษิณ" เตือนม็อบบุกทำเนียบวันที่ 5 มี.ค. ระบุบ้านเมืองมีขื่อมีแป ขณะที่ม็อบเหนือ-อีสานนับหมื่นบุกสนามหลวงเชียร์นายกฯ ด้านเกษตรกรเดินเท้าให้กำลังใจ ยัน 21 มี.ค. เกษตรกร 3 แสนพรึ่บเมืองหลวง

ขณะที่ม็อบไล่ยันเส้นตายแค่ 5 มีนา ด้านแกนนำครูกู้ชาติยืนกรานไม่ลาออกปิดโรงเรียนทั่วประเทศ "พันมิตรประชาชนฯ" ประกาศหากเกิดรัฐประหารนายกฯ คือจำเลยสังคม "ร.ต.ฉลาด" โผล่ต้านเผด็จการหน้าสภา

ท่ามกลางกระแสการเมืองที่ร้อนระอุต่อความกดดันที่ถาโถมเข้าใส่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีให้ลาออกจากตำแหน่งของกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่กำหนดเส้นตายให้ในวันที่ 5 มีนาคม โดย พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามพลิกเกมเพื่อยืดลมหายใจด้วยการประกาศปราศรัยใหญ่ที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 3 มีนาคม โดยหวังจะใช้สถานการณ์ดังกล่าวแก้เกมการเมือง ล่าสุดแนวร่ามครูกู้ชาติทั้ง 4 ภาคได้ออกมายื่นคำขาดว่า หากนายกฯ ไม่ลาออกจะปิดโรงเรียนทั่วประเทศทันที

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 มีนาคม พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางไปที่พรรคไทยรักไทย โดยตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณี กลุ่มเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะเดินทางปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 5 มีนาคม หากไม่ลาออกจากตำแหน่งว่า บ้านเมืองมีขื่อมีแป


ม็อบเชียร์ "ทักษิณ" แห่เข้ากรุง

วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาชนที่ต้องการเดินทางมาสนับสนุนให้กำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมรับฟังการปราศรัยใหญ่ของพรรคไทยรักไทยที่ท้องสนามหลวงว่า ได้มีกลุ่มประชาชนจากหลายสาขาอาชีพทั่วประเทศได้เดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร โดยล่าสุดกลุ่มชาวบ้านใน จ.พังงาได้ลงขันเหมารถเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาให้กำลังใจและรับฟังคำชี้แจงถึงปัญหาต่างๆ จากปากของนายกรัฐมนตรี

นายวโรตน์ โฮ่สกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านบางสัก ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา กล่าวว่า บรรยากาศการเมืองส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่มีความเห็นแตกออกเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน เนื่องจาก จ.พังงา เป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคไทยรักไทยในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุยกับชาวบ้านทราบว่าขณะนี้ มีหลายคนเตรียมตัวเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมรับฟังการชี้แจง และให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีทำงานต่อไป

"ชาวบ้านลงขันเหมารถเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมรับฟังการชี้แจงของ พ.ต.ท.ทักษิณในวันที่ 3 มีนาคม ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีจำนวนมากน้อยแค่ไหน แต่ยืนยันว่าฐานเสียงของพรรคไทยรักไทยใน จ.พังงา ยังมีอยู่มาก เพราะรัฐบาลชุดนี้ทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ดีขึ้นกว่าหลายรัฐบาลชุดที่ผ่านมา" นายวโรตน์ กล่าว


ส.ส.พังงาห่วงม็อบปะทะม็อบ

นายกฤษ ศรีฟ้า ส.ส.พังงา เขต 2 พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับการยืนยันจากพรรคแล้วว่าจะส่งลงรับเลือกตั้งในพื้นที่เขต 2 จ.พังงา แน่นอน ซึ่งขณะนี้ได้เดินหน้าพบชาวบ้าน พร้อมนำจดหมายเปิดผนึกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปชี้แจงถึงปัญหาบ้านเมืองที่เกิดขึ้น ซึ่งพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างดี

"ผมได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านจำนวนมากที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในเย็นวันที่ 2 มีนาคม เพื่อให้กำลังใจท่านนายกฯ และยังแสดงความเป็นห่วง เพราะกลัวจะเกิดการกระทบกระทั่งกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย และขับไล่หัวหน้าพรรคไทยรักไทยในขณะนี้จนกลายเป็นปัญหาขึ้นมา" ส.ส.พังงา กล่าว


ชาวสวนลำไยอัดคนไล่นายกฯ

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของชาวเชียงใหม่ นายศรีเทพ ใจทา นายกสมาคมชาวสวนลำไย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า กลุ่มคนที่รวมตัวไล่นายกฯ ที่ท้องสนามหลวง กระทำไม่ถูกต้อง โดยส่วนตัวเห็นว่าทุกคนควรยึดมั่นในระบบกฎหมายรัฐธรรมนูญ และปฏิบัติตามกติกาที่มีอยู่ ทั้งนี้หากมองว่านายกฯ ขาดจริยธรรมไม่มีความชอบธรรมก็อยากถามว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเอาสิ่งไหนมาเป็นตัววัด ดังนั้นทุกคนควรทำตามกติกาบ้านเมือง เพราะนายกฯ ได้ตัดสินใจยุบสภาไปแล้ว

นายเหรียญ เรือนแก้ว เลขาธิการสมาคมชาวสวนลำไย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์บ้านเมืองที่เป็นอยู่ขณะนี้ มองว่าเป็นการต่อสู้กันระหว่างกฎหมายกับคุณธรรมจริยธรรม โดย พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นฝ่ายที่เดินบนเส้นทางของกติกาตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ และหากนายกฯ ผิดจริงก็ควรดำเนินการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างมีเหตุผลของตนเอง แต่หากปล่อยสถานการณ์เป็นอย่างนี้จะเป็นการกัดกินบ้านเมืองไปเรื่อยๆ

นายอภิชาติ นิติกุลเกยูร เลขานุการเครือข่ายผู้ปลูกและผลิตลำไยภาคเหนือ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยต่อการรวมตัวของกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯ ที่ท้องสนามหลวงไม่ถูกต้อง เพราะคนที่กล่าวหานายกฯ มีเหตุผลไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนที่จะเอากฎหมู่มาอยู่เหนือกฎหมาย ทั้งนี้หากนายกฯ ลาออกจริงแล้วจะเอาใครมาเป็น ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้รู้สึกไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ


ชาวเชียงรายขอเชียร์นายกฯ

ส่วนที่ จ.เชียงราย มีรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆ จำนวนหลายพันคนมาร่วมตัวกันที่หน้าด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อรวมพลังสนับสนุนนายกฯ โดยบางส่วนจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปฟังการปราศรัยครั้งใหญ่ที่สนามหลวงด้วยรถส่วนตัว และรถตู้รับจ้างในช่วงเช้าวันที่ 3 มีนาคม

คนขับรถตู้รับจ้างนายหนึ่งใน จ.เชียงราย กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้มาว่าจ้างรถตู้ใน จ.เชียงราย หลายคันเพื่อให้ไปส่งผู้โดยสารที่สนามหลวง โดยอ้างว่าจะไปท่องเที่ยวกรุงเทพฯ ในราคา 1,500-1,800 บาทต่อวัน ส่วนค่าน้ำมันกลุ่มผู้จ้างจะเป็นคนจ่ายเอง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา รถตู้ใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะในเขต อ.แม่จัน ได้มีการว่าจ้างให้รับส่งคนเข้าไปในกรุงเทพฯ กันเป็นจำนวนมาก

แฉจ้างหัวละพันชุมนุม 5 มีนา

นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า การเปิดปราศรัยใหญ่ของหัวหน้าพรรคไทยรักไทยที่ท้องสนามหลวง วันที่ 3 มีนาคมนี้ พรรคไม่ได้มีคำสั่งให้จัดคนไปเข้าร่วมรับฟังแต่อย่างใด พร้อมทั้งยังกำชับให้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนในเขตเลือกตั้ง โดยไม่จำเป็นต้องพาประชาชนเข้าไปร่วมรับฟัง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ลงพื้นที่พบประชาชน เพื่อชี้แจงถึงเหตุผลของการตัดสินใจยุบสภา และการเลือกตั้งใหม่ที่กำลังจะมีขึ้น

ส.ส.พิษณุโลก กล่าวต่อว่า ในส่วนของ จ.พิษณุโลก ขณะนี้ทราบว่า มีกลุ่มบุคคลชักชวนประชาชนให้ไปรวมตัวกับกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯ ที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 5 มีนาคม โดยมีการจ่ายเงินและให้อ้างว่า เพื่อเป็นค่ารถและค่าใช้จ่ายรายละ 1,000 บาท ซึ่งตนเองมีหลักฐานยืนยันได้ว่ามีการพยายามทำเรื่องดังกล่าวจริง ซึ่งไม่เหมือนกับการรวมตัวแสดงพลังสนับสนุนรัฐบาลที่ไม่ต้องมีการจ้างแม้แต่บาทเดียว เพราะทุกคนไปด้วยแรงใจ


เกษตรเหนือ-อีสานหนุนนายกฯ

วันเดียวกันเมื่อเวลา 08.30 น.ที่ จ.อุบลราชธานี ขบวนคาราวานคนจนประมาณ 500 คน จาก จ.บุรีรัมย์ อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี นำโดย นายอรรถฤทธิ์ สิงห์ลอ เลขาธิการเครือข่ายสถาบันเกษตรกร (คสก.) ได้เคลื่อนขบวนเดินเท้าออกจากหน้าศาลากลาง จ.อุบลราชธานี เข้าสู่กรุงเทพมหานคร เพื่อสนับสนุนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป

สำหรับการชุมนุมและเดินเท้าเข้ากรุงเทพมหานครในครั้งนี้ได้มีรถนำขบวน และชาวบ้านถือธงชาติและป้ายผ้าเขียนข้อความสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมประกาศทางรถกระจายเสียงเพื่อให้นายกฯ เข้ามาแก้ไขปัญหาคนยากจน

นายอรรถฤทธิ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ออกมาชุมนุม เพราะต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป เนื่องจากต้องการให้นายกฯ แก้ไขปัญหาของเกษตรกรให้ลุล่วง ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ออกแถลงการณ์ 2 ข้อ คือ ขอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาของเกษตรกร และต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป เพื่อแก้ปัญหาของเกษตรกรก่อนออกจากตำแหน่ง

ลั่นเกษตรกร 3 แสนเข้ากรุง

"การรวมพลที่ จ.อุบลราชธานี ครั้งนี้มีสมาชิกทั้งหมดประมาณ 500 คนมาจาก บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และอำนาจเจริญ เราจะเดินเท้าไปที่เขื่อนลำตะคอง เพื่อสมทบกับกลุ่มสมัชชาเกษตรกรอีก 2 สาย โดยกลุ่มแรกประกอบด้วย อุดรธานี หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น และเลย ส่วนอีกสายได้แก่ หนองคาย นครพนม สกลนคร ยโสธร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และมหาสารคาม โดยการเดินเท้าในครั้งนี้พวกเราจะเดินผ่านตัวจังหวัดต่างๆ แบบค่ำไหนนอนนั้น ซึ่งคาดว่าจะถึงลำตะคองในวันที่ 15 มีนาคม" นายอรรถฤทธิ์ กล่าว

นายอรรถฤทธิ์ กล่าวต่อว่า หลังจากกลุ่มสมัชชาเกษตรกรทุกสายรวมตัวกันที่เขื่อนลำตะคองแล้ว จากนั้นก็จะเคลื่อนขบวนไปยังทุ่งรังสิต จ.ปทุมธานี เพื่อรอกลุ่มสมัชชาเกษตรจากภาคเหนือ ทั้งนี้คาดว่าจะมีสมาชิกเกษตรกรที่เดินทางไปรวมกันประมาณ 3-4 แสนคน

"หลังจากรวมตัวกันเสร็จสิ้น เราจะวางแผนกันอีกครั้งว่า เราจะเคลื่อนตัวขบวนไปอยู่ตรงไหนในกรุงเทพมหานคร โดยคาดกลุ่มสมัชชาเกษตรจะไปถึงทุ่งรังสิตประมาณวันที่ 21 มีนาคม ซึ่งพวกเรามีเป้าหมายอย่างเดียวคือให้นายกฯ ดำรงตำแหน่งต่อไป" นายอรรถฤทธิ์ กล่าว


ลั่นไม่ออกปิด ร.ร.ทั่วประเทศ

ด้านความเคลื่อนไหวของเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หลังจากนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำได้ปราศรัยบนเวทีประกาศเส้นตายให้นายกรัฐมนตรีลาออก พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนออกมาขับไล่ในวันที่ 5 มีนาคมที่ท้องสนามหลวงนั้น นายสมยงค์ แก้วสุพรรณ รองประธานแนวร่วมครูกู้ชาติ กล่าวว่า หลังจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีมติจัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งในวันที่ 5 มีนาคม เพื่อเช็คบิล พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น องค์กรครูจะประชุมหารือกันที่สำนักงานกองทุนฟื้นฟูเกษตรกรท่าพระ จ.ขอนแก่น เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหว โดยเบื้องต้นยืนยันว่าจะเข้าร่วมขับไล่นายกฯ แน่นอน

"การชุมนุมวันที่ 5 มีนาคม ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ลาออก ผมเชื่อว่าการชุมนุมต้องยืดเยื้อแน่นอน เพราะฉะนั้นครูแต่ละคนได้ทำหนังสือถึงผู้บังคับบัญชา เพื่อขอลากิจ 2-3 วัน โดยเราได้ประชุมร่วมกับตัวแทนครูทั้ง 4 ภาคโดยมีข้อสรุปว่า ถ้าในวันที่ 5 มีนาคม นายกฯ ยังไม่ลาออกอีกก็จะปิดโรงเรียนทั่วประเทศทันที และไม่ให้ครูยอมเป็นคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง เพราะเราเห็นว่า ถ้านายกฯ ยังอยู่ประเทศชาติจะเสียหาย" นายสมยงค์ กล่าว


ม็อบครูยันลางานไล่ทักษิณ

นายสุพจน์ อัคพราหมณ์ ประธานสมาพันธ์ครู จ.มหาสารคาม และที่ปรึกษาชมรมครูภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า สมาคมครูและองค์ครูทุกจังหวัดในภาคอีสานจะเดินทางเข้าร่วมชุมนุมเหมือนที่ผ่านมาอย่างแน่นอน เพราะองค์กรครูเป็นแนวร่วมในการกู้ชาติ และมีเจตนารมณ์ร่วมกันกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คือต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออก

"เราไม่ยอมรับการยุบสภาครั้งนี้ โดยขณะนี้ให้ครูแต่ละคนเดินทางไปร่วมชุมนุม และเตรียมทำหนังสือไปยังผู้บังคับบัญชาของตัวเอง เพื่อขออนุญาตลากิจเดินทางไปร่วมชุมนุม 2-3 วัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถออกเดินทางไปได้ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม"

ขอใช้วิธีแบบกองโจร

นายโสโชค สู้โนนตาด สมาชิกเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูชัยภูมิ กล่าวว่า วันที่ 5 มีนาคมนี้ ถือเป็นวันชี้ชะตาของทุกฝ่าย เพราะกลุ่มเครือข่ายองค์กรพันธมิตรทั้งหมดสรุปร่วมกันว่า นายกฯ ต้องลาออก และจะชุมนุมยืดเยื้อจนกว่าจะได้รับคำตอบ ซึ่งเครือข่ายพันธมิตรทั้งหมดได้ส่งสัญญาณแล้วว่า การเคลื่อนพลเข้าสักการะดวงวิญญาณวีรชนประชาธิปไตย ก่อนสลายการชุมนุมเพื่อทำศึกใหญ่ในวันที่ 5 มีนาคม นับเป็นการประกาศชัดแล้วว่า สถานการณ์ครั้งนี้จะถูกบันทึกเป็นครั้งประวัติศาสตร์อีกครั้งเหมือนกับเหตุการณ์ 14 ตุลาและพฤษภาทมิฬ

"การเดินทางไปเพื่อแสดงพลังครั้งนี้เพื่อขับไล่ทักษิณน่าจะมากเป็นประวัติการณ์ตามไปด้วยอย่างแน่นอน โดยรูปแบบน่าจะเป็นแบบกองโจร แยกกันไปทยอยขึ้นไปสมทบชุมนุมกันอย่างต่อเนื่อง เราจะไม่ไปแบบกลุ่มก้อน เพราะอาจจะถูกสกัดได้" นายโสโชค กล่าว


นศ.แพทย์ร่วมชุมนุมไล่

แหล่งข่าวในคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า เบื้องต้นจะมีบุคลากรและนักศึกษาคณะแพทย์เดินทางมาร่วมชุมนุมในวันที่ 5 มีนาคมส่วนหนึ่ง โดยจะมีการหารืออีกครั้งว่า จะเดินทางในวันไหน ซึ่งขณะนี้กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้เตรียมทำหนังสือลางานตามขั้นตอนแล้ว

นายนิมิตร กาญจนะกันโห รองประธานสหภาพแรงงาน กฟผ.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีพนักงาน กฟผ.บางส่วนได้เข้าร่วมชุมนุมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ส่วนการชุมนุมในวันที่ 5 มีนาคมนี้ คาดว่าจะมีพนักงานหลายคนขอลางานเข้าร่วมชุมนุมอย่างแน่นอน


คนเดือนตุลาภูเก็ตร่วมสู้

นายอำนวย คุ้มบ้าน รองประธานสหพันธ์พันธมิตรเพื่อประชาชนประชาธิปไตยจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สหพันธ์พันธมิตรฯ และประชาชนชาวภูเก็ตหลายพันคนได้ออกมาประกาศว่า ส่วนหนึ่งจะร่วมเดินทางไปสมทบกับเครือข่ายพันธมิตรและพี่น้องประชาชนในวันที่ 5 มีนาคมด้วย ส่วนกลุ่มสหพันธ์พันธมิตรเพื่อประชาชนประชาธิปไตย และพี่น้องประชาชนบางส่วนในจังหวัดภูเก็ตจะปักหลักดูสถานการณ์อยู่ในจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง เพื่อคอยสมทบช่วยเหลือหากมีการทำร้ายประชาชนเกิดขึ้น

นายอำนวย กล่าวต่อว่า อยากเรียกร้องเจ้าหน้าที่ของรัฐทำเพื่อประชาชน โดยขณะนี้แพทย์ พยาบาล และคนเดือนตุลาในภูเก็ตจำนวนมากได้ประกาศร่วมต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยในครั้งนี้แล้ว


ขู่กดดันทุกรูปแบบให้นายกฯ ออก

วันเดียวกัน แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วย นายสมศักดิ์ โกสัยสุข นายพิภพ ธงไชย นายสุริยะใส กตะศิลา นายปานเทพ วงศ์พัวพัน และนายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ ได้ใช้ห้องประชุมภายในอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เป็นที่ประชุมประเมินสถานการณ์การเมืองและวางแผนการชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 มีนาคม โดยใช้เวลาการประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง

ภายหลังการประชุม นายสุริยะใส กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติว่าจะไม่มีการต่อรองใดๆ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว และหากภายในวันที่ 5 มีนาคม ยังไม่ลาออกจากตำแหน่ง พันธมิตรจะเคลื่อนไหวกดดันทุกรูปแบบ และจะชุมนุมอย่างยืดเยื้อไม่มีวันหยุดพักจนกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะลาออก แม้ว่าจะต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ ก็ตาม

"ยืนยันว่า วันที่ 5 ต้องมีการชุมนุมอย่างแน่นอน แม้ว่านายกฯ จะลาออกไปก่อนหน้านั้นแล้วก็ตาม ซึ่งหากเขาลาออกพวกเราก็จะไปประกาศชัยชนะที่ท้องสนามหลวง และจะเปิดเวทีปราศรัยให้ข้อมูลเรื่องการปฏิรูปการเมืองแก่ประชาชนที่มาร่วมชุมนุม นายสุริยะใส กล่าว

ขณะที่แหล่งข่าวภายในแกนนำพันธมิตรเปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการบางส่วนเสนอให้ใช้มาตรการเคลื่อนไหวแบบกดดันถึงตัว พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเสนอให้แบ่งกำลังประชาชนออกเป็น 3 ฝ่าย เคลื่อนขบวนไปยังทุกที่ที่คาดว่านายกฯ จะอาศัยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบ้านจันทร์ส่องหล้า ทำเนียบรัฐบาล หรือที่ทำการพรรคไทยรักไทย

หากเกิดรัฐประหาร"ทักษิณ"คือจำเลย

ส่วนกรณีที่สมาพันธ์ประชาธิปไตย แสดงความกังวลว่าการเคลื่อนไหวของพันธมิตรจะเป็นเงื่อนไขให้เกิดการรัฐประหารนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า พันธมิตรก็เป็นห่วงเรื่องนี้เช่นกัน และขอยืนยันว่าการจะเคลื่อนขบวนประชาชนไปยังที่ใดจะทำอย่างรอบคอบ รัดกุม และจะประเมินสถานการณ์อย่างดีที่สุดไม่ให้เสี่ยงเกิดจลาจลหรือกลียุค ซึ่งความจริงแล้วเรื่องราวต่างๆ คงไม่ลุกลาม หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ยอมถอยจากตำแหน่งนายกฯ ทุกอย่างก็จะคลี่คลาย และหากเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไปจนลุกลามสู่การรัฐประหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องตกเป็นจำเลยสังคมที่เป็นตัวการพาสถานการณ์เข้าสู่ทางตัน จะโทษผู้ชุมนุมไม่ได้

ขณะนี้นายกฯ เป็นจำเลยการเมืองข้อหาคอรัปชั่น ไร้จริยธรรม ซึ่งสังคมกำลังไต่สวน เราจะไม่คุยกับคนที่เป็นผู้ต้องหา ที่ผ่านมามีการเจรจามามากเกินไปแล้ว นายกฯ เคยเรียกนักวิชาการไปพบหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยสนใจข้อเสนอเป็นเพียงการสร้างภาพ พันธมิตรยืนยันว่าจะชุมนุมโดยสันติและจะไม่เจรจาอีกต่อไป นายสุริยะใส กล่าว


เรียกร้องตท.10 แสดงจุดยืน

นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า หลังกระแสข่าวนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ จะก่อการรัฐประหารนั้นได้สร้างความสับสนให้กับสังคม ซึ่งอยากเรียกร้องให้เหล่านักเรียนเตรียมทหารรุ่นนี้ออกมาแสดงจุดยืนให้ชัดเจนอย่าปล่อยให้สังคมคลุมเครือว่าทหารจะออกมายึดอำนาจ

ยังเชื่อคำพูดของ พล.อ.สนธิ บุญรัตนกลิน ผบ.ทบ. ที่ยืนยันว่าทหารเป็นกลาง และมีบทเรียนจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 ที่ทหารออกไปรับใช้การเมือง โดยสปิริตแล้วเตรียมทหารรุ่น 10 ต้องชี้แจงว่าข่าวที่ออกมานั้นข้อเท็จจริงคืออะไร หรือต้องการปล่อยข่าวเพื่อข่มขู่ประชาชนที่จะมาชุมนุม หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ไม่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ขอเรียกร้องให้ ผบ.ทบ.ตรวจสอบข่าวว่ามีที่มาอย่างไร เพื่อไม่ให้ภาพลักษณ์กองทัพขาดเอกภาพ นายสุริยะใส กล่าว

แฉทรท.ขนเกษตรกรชมนายกฯ ปราศรัย

ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะจัดปราศรัยใหญ่ในวันที่ 3 มีนาคม ด้วยว่า รัฐบาลต้องการจะอธิบายให้สังคมเห็นว่ามีคนเชียร์มากกว่าคนไม่พอใจรัฐบาล เชื่อว่าประชาชนที่จะมาส่วนใหญ่ 90 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นเกษตรกรต่างจังหวัด โดยหัวคะแนนของพรรคไทยรักไทยเป็นคนจัดมา ส่วนคนชั้นกลางที่มีความรู้จะไม่มาร่วมด้วย ล่าสุดทราบว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช รักษาการ รมช.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำลังจัดเตรียมเกษตรกรจากจังหวัดเชียงราย นำรถอีแต๋นเข้ามาร่วมฟังนายกฯ ปราศรัยด้วย ขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้ามาตรวจสอบว่าการเกณฑ์คนเข้ามาฟังนายกฯ ปราศรัยครั้งนี้เข้าข่ายการใช้งบประมาณของรัฐเพื่อเป็นประโยชน์ต่อพรรคไทยรักไทยหรือไม่

นักเรียนไทยทั่วโลกจี้ ´ทักษิณ´ ออก

ขณะที่นักเรียนไทยในต่างแดนกว่า 340 คน ออกแถลงการณ์ผ่านเวบไซต์ www.petition49.org เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออกจากรักษาการนายกรัฐมนตรี โดยในแถลงการณ์ดังกล่าวอ้างว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ บริหารราชการแผ่นดินผิดพลาด เช่นนโยบายเศรษฐกิจทำให้หนี้สาธารณะและหนี้ภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง นโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจพื้นฐานไม่โปร่งใส ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นำมาซึ่งความยากลำบากสู่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีรายได้ต่ำ

อีกทั้งยังมีการคอรัปชั่นในวงกว้างในหมู่พรรคพวกของรัฐบาล ส่งผลเสียต่อการแข่งขันของภาคธุรกิจซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการก้าวหน้าทางเศรษฐกิจในระยะยาวของประเทศ แทรกแซงและครอบงำการปฏิบัติงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ทั้งในส่วนของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และฝ่ายตุลาการ โดยเฉพาะในส่วนของศาลรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานอื่นที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ เช่น สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ อันส่งผลเสียต่อกลไกการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจ อันเป็นรากฐานของระบอบประชาธิปไตย บิดเบือน แทรกแซง ปิดกั้นและคุกคามสื่อในการเสนอข่าวสาร ซึ่งนำไปสู่การลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในการรับรู้ข่าวสารตามความเป็นจริง

แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า รัฐบาลใช้อำนาจในทางที่ผิด โดยการใช้สื่อเป็นเครื่องมือสร้างภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรี รัฐบาล และนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะนโยบายทางด้านเศรษฐกิจ ฃึ่งอาจนำไปสู่ความผิดพลาดในการตัดสินใจ และการประเมินผลในการทำงานของรัฐบาล และที่สำคัญยังประเมินสถานการณ์ และดำเนินนโยบายการแก้ไขปัญหาสามจังหวัดภาคใต้บกพร่องทำให้มีการบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก

อีกทั้งนายกฯ ยังใช้ตำแหน่งหน้าที่ทางการเมือง ในการเจรจา ต่อรอง และหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ และการเมืองของตนเองและพวกพ้อง ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียผลประโยชน์ส่วนรวมของคนในประเทศ และอาจมีผลเสียต่อความมั่นคงของชาติ มีพฤติกรรมทางวาจา การกระทำที่ไม่ดีงาม และขาดจริยธรรม ซึ่งไม่เหมาะสมในฐานะผู้นำประเทศ รวมทั้งยังอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายเพื่อกระทำการทุจริต

กลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นนักเรียนไทยในต่างแดน ยังประณามการประกาศยุบสภาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยว่าไม่เปิดโอกาสให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสังกัดพรรคการเมืองและการเลือกตั้ง เนื่องจากการกระทำดังกล่าว เป็นการผลักภาระและปัญหาเฉพาะบุคคลของนายกรัฐมนตรีให้แก่รัฐสภา

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์